ผลสำรวจพบ คนไทย 94% อยากทำงานแบบไฮบริด เพราะเข้าออฟฟิศอย่างเดียว ไม่ตอบโจทย์การทำงานแล้ว

ทุกวันนี้พนักงานออฟฟิศหลายคนเคยชินกับการทำงานแบบ hybrid หรือการทำงานแบบสลับกันระหว่างการทำงานในออฟฟิศและ Work From Home ไปแล้ว 

แต่รายงานฉบับใหม่ของ Cisco บอกว่านายจ้างส่วนใหญ่อยากให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศเหมือนเดิม ส่วนพนักงานก็อยากกลับเข้าออฟฟิศมาทำงาน แต่ก็อยากให้เปิดโอกาสให้กับการทำงานแบบ hybrid เหมือนเดิมด้วยเหมือนกัน

TODAY Bizview เล่าให้ฟังว่าทำไมทั้งลูกจ้างและพนักงานถึงอยากกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ แล้วถ้ากลับมาครั้งนี้ พนักงานอยากให้นายจ้างปรับปรุงหรือแก้ไขอะไรในออฟฟิศให้เข้ากับโลกการทำงานสมัยใหม่บ้าง

คนเอเชียชอบทำงานในออฟฟิศ แต่อยากทำงานแบบ hybrid

Cisco บริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐฯ เปิดผลการศึกษาที่มีชื่อว่า ‘From Mandate to Magnet : The Race to Reimagine Workplaces and Workspaces for a Hybrid Future’ ที่ทำร่วมกับพนักงานประจำ (full-time employees) 7,550 คน ผู้ว่าจ้างงาน 1,650 คน ใน 7 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกอย่างออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เกาหลีใต้และไทย 

แบบสำรวจพบว่าพนักงานใน 7 ประเทศมองว่าการทำงานแบบ hybrid ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยให้สุขภาพกายและใจของพวกเขาดีขึ้นด้วย ซึ่งผลสำรวจพบว่าพนักงานอยากให้การทำงานแบบ hybrid กลายเป็นบรรทัดฐานในการทำงานใหม่

ผลการศึกษาของ Cisco จึงแนะนำว่าองค์การต้องเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานที่บ้านและการทำงานในออฟฟิศ

เริ่มกันที่การทำงานในออฟฟิศก่อน
พนักงานคนไทยมองว่าเหตุผลที่พวกเขาอยากกลับมาทำงานที่ออฟฟิศคือได้ทำงานเป็นทีม ได้ช่วยกันคิดไอเดียงานใหม่ๆ ร่วมกัน และรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ซึ่งกลุ่มคนที่ชอบนโยบายทำงานในออฟฟิศมากที่สุดคือกลุ่ม Baby Boomer 

โดยองค์กรในไทยกว่า 66% บังคับให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ และพนักงานไทยกว่า 84% เห็นด้วย ซึ่งหากเทียบใน 7 ประเทศแล้ว พนักงานไทยอยากกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศมากที่สุด และ 94% อยากเข้าออฟฟิศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 วัน

แต่พนักงานออฟฟิศชาวไทยกว่า 48% มองว่าทุกวันนี้ออฟฟิศไม่ตอบโจทย์การทำงาน

เหตุผลหลักที่พนักงานอยากกลับมาทำงานที่ออฟฟิศคือการมาพบปะเพื่อนร่วมงาน จึงเป็นความท้าทายขององค์กรว่าจะทำอย่างไรให้พื้นที่ในออฟฟิศมีความน่าดึงดูดและเข้ากับคนทุกวัยได้เป็นอย่างดี

ตอนนี้องค์กรในไทยกว่า 37% จึงวางแผนจะออกแบบออฟฟิศใหม่ภายใน 12 เดือนและอีก 19% มองว่าจะเปลี่ยนองค์กรภายใน 1-2 ปีนี้

Gen Z เรียกร้องให้องค์กรหันมาแก้ไขเทคโนโลยี

ทุกวันนี้ การทำงานในออฟฟิศ 44% จะมีพนักงานร่วมกิจกรรมผ่านทางออนไลน์ เพราะฉะนั้น เทคโนโลยีจึงมีบทบาทสำคัญในการทำงานของออฟฟิศ

แต่พนักงานไทย 81% และนายจ้าง 61% มองว่าอุปกรณ์เทคโนโลยีที่องค์กรมีอยู่ยังไม่ตอบโจทย์การทำงานแบบ hybrid ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีห้องประชุมมากกว่าครึ่งขาดอุปกรณ์เชื่อมต่อภาพและเสียง ส่วนที่มีอยู่แล้วก็มักจะมีปัญหาภาพและเสียงคุณภาพต่ำ ขาดระบบรักษาความปลอดภัย และขาดการเชื่อมต่อระหว่างคนทำงานแบบ Work From Home กับคนที่ทำงานอยู่ที่ออฟฟิศอย่างสม่ำเสมอ 

พนักงานกลุ่ม Gen Z ที่อายุน้อยที่สุดในการสำรวจครั้งนี้มองว่านี่คือเรื่องที่องค์กรต้องจัดการแก้ไขโดยด่วน

นอกจากนี้ ทั้งพนักงานและองค์กรมองตรงกันว่าสิ่งที่ท้าทายมากในการทำงานแบบ hybrid คือเรื่องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต การทำงานร่วมกับทีมที่ทำงานแบบ remote และอุปกรณ์ที่ไม่เพียงพอ

ผลการสำรวจยืนยันว่างานที่ทำทั้งหมดต้องมีงานที่เสร็จทั้งในและนอกออฟฟิศ

องค์การต่างๆ จึงอยากเปลี่ยนออฟฟิศใหม่ะอยากพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าขึ้น เปลี่ยนวิสัยทัศน์ของพนักงานในการเข้าออฟฟิศและส่งเสริมให้การทำงานแบบ Hybrid สมดุลมากขึ้น

โดยองค์กรใน 7 ประเทศกว่า 84% บอกว่าพวกเขากำลังจัดหาเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้พนักงานทำงานทั้งจากบ้านและออฟฟิศได้สะดวกมากขึ้น 

แต่จัดหาอุปกรณ์ให้อย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ พนักงานกว่า 75% บอกว่าพวกเขาใช้โปรแกรมทำงานเกี่ยวกับการจัดการโปรเจคต์ต่างๆ โปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพการ และใช้ระบบ cloud ไม่คล่อง พนักงาน 80% บอกว่าใช้โปรแกรมประชุมและโปรแกรมมอนิเตอร์ต่าง ๆ ไม่คล่องเหมือนกัน องค์กรจึงต้องให้ความสำคัญกับการจัดเทรนนิ่งเรื่องการใช้โปรแกรมต่างๆ ให้พนักงานด้วย

5 คำแนะนำปรับองค์กรให้ทันสมัย ถูกใจพนักงานทุกวัย

Cisco ได้แนบท้ายคำแนะนำสำหรับองค์กรในการปรับตัวให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่ไว้ 5 ข้อ

1.เตรียมแผนการทำงานแบบ Hybrid ด้วยการออกแบบออฟฟิศและเทคโนโลยีที่ซัพพอร์ตการทำงานแบบ hybrid ของพนักงาน เพื่อไม่ให้สูญเสียศักยภาพในการแข่งขัน

2.การลงทุนเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานในออฟฟิศต้องใช้งบประมาณและเวลาสูง ลองพูดคุยทำความเข้าใจกับพนักงานว่าพวกเขาต้องการอะไร เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.บางครั้งการใช้เทคโนโลยีก็เป็นเรื่องยากต่อการทำความเข้าใจ องค์กรควรหาอุปกรณ์ที่มีความเรียบง่ายและเพิ่มระบบการทำเทรนนิ่งให้พนักงานด้วย

4.สร้างระบบที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานได้จากทุกที่ พนักงานจะได้ร่วมงานกันอย่างไร้กังวล

5.อายุไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข องค์กรควรให้ความสำคัญกับความต้องการของพนักงานแต่ละรุ่น เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีร่วมกันของคนทุกวัย

ซานดีฟ เมห์รา กรรมการผู้จัดการฝ่ายขายด้านโซลูชั่นการทำงานร่วมกันของซิสโก้ เอเชีย-แปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีน กล่าวว่า “ผลการศึกษาของเราเผยให้เห็นว่าพนักงานในภูมิภาคนี้เปิดรับการทำงานในรูปแบบไฮบริดและเต็มใจที่จะกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศบ่อยขึ้น แต่มีข้อแม้ว่าพื้นที่ทำงานจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับความต้องการและความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของพนักงาน  ในยุคของการทำงานแบบไฮบริด เราต้องให้ความสำคัญกับวิวัฒนาการของพื้นที่สำนักงานและเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงาน  เทคโนโลยีคือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เราตอบสนองความคาดหวังที่ว่านี้ พร้อมทั้งส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ที่ใดก็ตาม”