พฤกษา เปิดใหม่ 30 โครงการ เพิ่มบ้านเซ็กเมนต์กลาง-สูง มากขึ้น แต่ราคาต่ำ 3 ล้าน คงไว้ไม่เกิน 40%

บริษัทอสังหาฯ ทยอยเผยผลประกอบการปีที่ผ่านมา ถึงคิวของ ‘พฤกษาโฮลดิ้ง’ กวาดกำไรสุทธิ 2,205 ล้านบาท รายได้ 26,132 ล้านบาท  ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ รายได้เติบโต 50% ปี 2567 นี้เล็งต่อยอดธุรกิจ เพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่ม 28,000 ล้านบาท วางแผนเปิด 30 โครงการ มูลค่า 29,000 ล้านบาท

ปัจจุบันธุรกิจในเครือมีครบทั้ง อสังหาริมทรัพย์ เฮลทแคร์ อีคอมเมิร์ซ พรีคาสท์ และธุรกิจ รับก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยอย่างครบวงจร

สำหรับธุรกิจหลักของพฤกษาอย่าง ‘อสังหาริมทรัพย์ ‘ในปี 2566 ที่ผ่านมา ทำรายได้จากธุรกิจนี้ไปได้ราว 22,357 ล้านบาท มียอดขาย 18,540 ล้านบาท  เปิดโครงการใหม่รวม 13 โครงการ มูลค่า 14,200 ล้านบาท  ส่วนในปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายที่ 27,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอนที่  25,500 ล้านบาท วางแผนเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ

โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 10 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 17 โครงการ และ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ  รวมมูลค่าทั้งหมดราว 29,000 ล้านบาท เตรียมเพิ่มสินค้าสำหรับกลุ่มลูกค้าในเซ็กเม้นต์ระดับกลาง – สูง เช่น สินค้ากลุ่มมากกว่า 7 ล้านบาท ให้มากกว่า 30% และจะลดสัดส่วน บ้านกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ให้ไม่เกิน 40% เพื่อให้สอดคล้องไปตามสภาพเศรษฐกิจ

ในช่วงปีที่ผ่านมาทางกลุ่มก็ได้มีการปรับโครงสร้าง และโมเดลธุรกิจหลายอย่าง ได้นำบริการด้านสุขภาพจากเครือวิมุต ผนวกกับเทคโนโลยีระบบ Smart Home จากแอปพลิเคชัน MyHuas นำเข้ามาปรับใช้ในการออกแบบโครงการ เพื่อเสริมความแข่งแกร่งของธุรกิจหลัก  ด้วยการแยกธุรกิจ ออกมาอีก 4 กลุ่มย่อย ได้แก่

• ธุรกิจเฮลท์แคร์ ครอบคลุมบริการทางสุขภาพตั้งแต่โรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลเทพธารินทร์ อย่างปีที่ผ่านมากลุ่มวิมุต มีรายได้รวม 1,820 ล้านบาท เติบโต 50% จากปีก่อน มีจำนวนผู้ป่วย Non-COVID ที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลวิมุตเพิ่มขึ้น 49% นอกจากนี้ ยังสร้างความร่วมมือและการลงทุนใหม่ ๆ เตรียมขยายการบริการเนอร์สซิ่งโฮม เป็น 600 เตียงภายใน 3 ปี กลุ่มยังมีแผนลงทุน 3,500 ล้านบาท ขยายโรงพยาบาลเฉพาะทางที่สุขุมวิท ขยายเตียงที่โรงพยาบาลวิมุตเป็น 150 เตียง สู่เป้าหมาย 2,300 ล้านบาทในปี 2567
• ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด ในเครือพฤกษา ตั้งเป้าโต 5 เท่า ในปี 2567 และหวังสร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาทใน 3 ปี นำเสนอสินค้าและบริการเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ผ่านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน MyHaus ดูแลทั้งเรื่องความปลอดภัยภายในบ้าน และอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกบ้านและนิติบุคคลครบทุกด้าน และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Clickzy.com (คลิกซิ) ลูกค้าสามารถเลือกช้อปสินค้าที่เกี่ยวกับบ้าน บริการตกแต่งภายในจาก Zdecor และสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ได้
• กลุ่มหน่วยธุรกิจใหม่ ‘แผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำ’ ที่แยกออกมาเพื่อรองรับการเติบโต เปิดโอกาสการสร้างรายได้เพิ่มเติม ทำยอดคำสั่งซื้อและติดตั้ง (Backlog) ทั้งจากพฤกษาและลูกค้ารายอื่น ๆ สูงขึ้นทะลุเป้าหมายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท สู่ผู้นำที่ใหญ่ที่สุดในไทย ตั้งเป้ารายได้โต 50% สู่ 3,500 ล้านบาท ในปี 2567
• ธุรกิจรับก่อสร้าง สำหรับอาคารที่พักอาศัย ซึ่งได้แยกออกมาเป็นบริษัทใหม่ “อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น” ปี 2567 จะสร้างรายได้ 5,600 ล้านบาท จากพฤกษาและลูกค้ารายอื่นๆ ตั้งเป้าเป็นบริษัทรับก่อสร้างบ้านแนวราบที่ใหญ่ที่สุดในไทย

สุดท้ายคือ ขยายการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ประเภทโลจิสติกส์  และ อสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นด้านการดูแลสุขภาพ   จากประกาศความร่วมมือกับ 2 องค์กรชั้นนำจากสิงคโปร์และไต้หวัน  จัดตั้งกองทุน “CapitaLand SEA Logistics Fund” มูลค่าทรัพย์สินเป้าหมาย 25,000 ล้านบาท

เพื่อพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการคลังจัดเก็บและกระจายสินค้าให้บริการครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการลงทุนในกองทุน CapitalLand Wellness Fund ( C-Well) มูลค่าทรัพย์สินเป้าหมาย 72,500 ล้านบาท เพิ่มโอกาสในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นด้านการดูแลสุขภาพ

จากการรีโมเดลธุรกิจ และโครงสร้างองค์กรในปีที่ผ่านมา ทำให้ในปี 2567 นี้ พฤกษาโฮลดิ้งเชื่อว่า จะมีความพร้อม เติบโตไปอีกขั้น ตามกลยุทธ์ Ready To Thrive  โดยในปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่มรวม 28,000 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่มูลค่าราว 29,000 ล้านบาท