โฆษกก้าวไกล แจง ‘พิธา’ ขึ้นเชียงใหม่ ชน ‘ทักษิณ-เศรษฐา’ เป็นสิทธิ์หากคนมองเทียบรัศมี

‘พริษฐ์’ โฆษกพรรคก้าวไกล แจงปม ‘พิธา’ ขึ้นเชียงใหม่ ชน ‘ทักษิณ-เศรษฐา’ เป็นกำหนดการล่วงหน้า เป็นสิทธิ์หากคนมองเทียบรัศมี

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เตรียมลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 16-17 มี.ค. นี้ ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง อยู่ในพื้นที่พอดีว่า เป็นแผนการดำเนินงานของพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับเรื่องไฟป่า ที่วางแผนล่วงหน้ามานานแล้ว เพราะเป็นการศึกษาผลกระทบที่มีต่อประชาชนในภาคเหนือ เพื่อหวังจะถอดบทเรียน ในการนำเสนอนโยบายและการแก้ไขปัญหา พร้อมยืนยัน ไม่ได้มีการจัดตารางลงพื้นที่ชนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองภาพนายเศรษฐา นายทักษิณ และนายพิธา ลงพื้นที่พร้อมกันอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลยึดถือมาตลอด คือยึดปัญหาประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะมีปัญหาของประชาชนเยอะมาก โดยเฉพาะปัญหาไฟป่า เพื่อที่จะได้นำปัญหาดังกล่าวมาผลักดันโดยกลไกของสภา จึงไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ได้ต้องการเปรียบเทียบแต่อย่างใด ซึ่งสิ่งที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำมาตลอดว่า เราไม่ได้แข่งกับใครแต่แข่งกับตัวเอง ในการทำหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อรับใช้ประชาชน ส่วนประชาชนอาจจะคิดว่าเป็นการเปรียบเทียบรัศมีนั้น ถือเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะวิเคราะห์

“ขอยืนยันข้อเท็จจริงและยืนยันต่อสาธารณะว่า พรรคก้าวไกลดำเนินการเรื่องไฟป่า และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงพื้นที่ของใคร และถ้าหากประชาชนสงสัยเรื่องมีนายกรัฐมนตรีหลายคน ก็เป็นสิ่งที่นายเศรษฐา จะต้องให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้จะมีสิทธิ์ปรึกษาใครหลายคน แต่การตัดสินใจทุกอย่างจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน” นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ปัญหาไฟป่าจะเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นอภิปรายทั่วไป มาตรา 152 หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวยอมรับว่า อาจจะเป็นหนึ่งในประเด็นการอภิปราย แต่ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการคัดเลือก สส. อภิปรายว่าผ่านการคัดเลือกหรือไม่และหัวข้ออะไร เชื่อว่าการอภิปรายรัฐบาลครั้งนี้ที่จะใช้เวลาอภิปราย ทั้ง 2 วัน ให้ครอบคลุมนโยบายสำคัญ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม

เมื่อถามว่า ในฐานะฝ่ายค้าน มองหน่วยงานราชการที่เข้ารายงานนายทักษิณ ระหว่างลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ อย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ต้องให้รัฐบาลตอบว่าการดำเนินการทั้งหมด เป็นไปตามระเบียบราชการหรือไม่ ดังนั้นเรื่องความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมในการจัดสรรบุคลากรไปให้ข้อมูล จึงเป็นคำถามที่รัฐบาลควรตอบ

ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไปคอยให้การต้อนรับนายทักษิณ ที่ จ.เชียงใหม่ นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนเห็น คำชี้แจงผ่านๆ ว่าไปภารกิจอื่น แต่หากประชาชนยังเคลือบแคลงสงสัย เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ต้องชี้แจงให้ประชาชนมั่นใจว่า ไม่ได้มีการจัดสรรบุคลากรภาครัฐที่ไม่เหมาะสม แม้รัฐมนตรีจะอ้างว่าลางานไป แต่เป็นสิ่งที่จะต้องตอบ และสิ่งที่พรรคก้าวไกล เวลาเลือกจะไปจังหวัดไหน จะยืดปัญหาประชาชนไปที่ตั้ง เป็นมาตรฐานที่หวังว่า พรรคการเมืองอื่น ทุกพรรคจะนำไปใช้

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่เป็น 1 ใน 16 จังหวัด ที่พรรคก้าวไกลประกาศ รับสมัคร นายก อบจ. ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์และเป็นแรงจูงใจ ให้คนมาสมัคร ส่วนจะส่งผู้สมัครครบ ทั้ง 16 จังหวัดหรือไม่ ต้องรอผลการคัดเลือก เพราะจะเน้นผู้สมัครที่มีคุณภาพ ไม่ได้เน้นจำนวนเพียงอย่างเดียว เน้นบุคลากรที่เชื่อมั่นว่าจะชนะการเลือกตั้งด้วย

เมื่อถามย้ำว่า การลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ของนายทักษิณจะทำให้กระแสพรรคก้าวไกล ลดลงหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลปีที่แล้วเป็นอย่างไร ปีนี้ก็เป็นเช่นนั้น ใครที่เคยสนับสนุนก้าวไกลในการเลือกตั้ง เราก็จะพยายามผลักดันอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล และหวังว่าการทำงานของก้าวไกล จะทำให้คนที่ยังไม่ตัดสินใจ เลือกเปิดใจมาให้โอกาสมากขึ้น

‘พิธา’ ไปเชียงใหม่ 16-17 มี.ค. นี้ ร่วมภารกิจดับไฟป่า-แก้ฝุ่นพิษ