ใครอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ Tops Daily ได้เวลาแล้ว เพราะ Tops เปิดตัว ‘แฟรนไชส์’ ลงทุนเริ่มต้น 1.07 ล้านบาท จะมีหรือไม่มีที่ดินก็ได้ การันตีรายได้เริ่มต้น 6 หมื่นบาทต่อเดือน โดยมีให้เลือก 2 โมเดลเปิดร้านใหม่-เข้าบริหารร้านเดิม พร้อมระบุคืนทุนไวในระยะเวลาที่กำหนด
โดย Tops ชูจุดแข็ง ‘ลงทุนต่ำ คืนทุนไว กำไรดี การันตีรายได้’
แบ่งการลงทุนแฟรนไชส์ ออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
1) โมเดลเปิดร้านใหม่
– คนมี ‘ที่ดิน’ (หรือกรรมสิทธิ์) ขนาดมากกว่า 200 ตรม.
– เป็นระยะเวลามากกว่า 9 ปี
– ใช้เงินลงทุน 4 – 6 ล้านบาท
– การันตีรายได้ 150,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 24 เดือนแรกของสัญญา
– ผลตอบแทน 70% จากกำไรขั้นต้น
2) โมเดลบริหารร้านเดิม
– คนไม่มี ‘ที่ดิน’ (หรือไม่มีกรรมสิทธิ์)
– สามารถเข้าสวมสิทธิ์บริหารร้าน Tops Daily ที่เปิดอยู่เดิม
– ใช้เงินลงทุน 1.07 ล้านบาทขึ้นไป
– การันตีรายได้ 60,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 24 เดือนแรกของสัญญา
– ผลตอบแทน 40% จากกำไรขั้นต้น
ทาง Tops มีให้กับแฟรนไชส์แน่นอน คือ สนับสนุนการดำเนินธุรกิจตลอดระยะสัญญา มี ‘ทีมเทรนนิ่ง’ มืออาชีพตลอดกระบวนการตั้งแต่แรกเริ่ม รวมหมดตั้งแต่บริการด้านระบบต่างๆ การตรวจสอบสินค้า IT ที่ปรึกษาเรื่องบัญชี ระบบการขนส่ง ตลอดจนโปรโมชันส่งเสริมการขาย และการประชาสัมพันธ์
อีกอย่าง คือ Tops ยังได้ดึง SME D Bank มาเป็นพันธมิตร ช่วยให้คำปรึกษาวางแผนเรื่องการเงินและการลงทุน พิจารณาสินเชื่อเพื่อการลงทุนแฟรนไชส์ Tops Daily โดยเฉพาะ ผ่านข้อเสนอวงเงินกู้สูงสุดกว่า 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น MLR-1.25% ผ่อนชำระนานสูดสุดที่ 12 ปีและยังมีระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นสูงสุดถึง 6 เดือน
[ ไทยยังเหลือพื้นที่ให้ร้านสะดวกซื้อ เซ็นทรัลส่ง Top Daily ลุย ]
อย่างที่หลายคนรู้ดีว่า Family Mart กำลังค่อยๆ โบกมือลากลุ่มเซ็นทรัลตามการสัญญาที่หมดลง ดังนั้น Tops Daily ที่มาในโมเดล ‘มินิซูเปอร์มาเก็ต’ จึงเป็น ‘ตัวหลัก’ ที่จะลุย ‘ตลาดร้านสะดวกซื้อ’ ของกลุ่มเซ็นทรัล
‘เมทินี พิศุทธิ์สินธพ’ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้บริหาร Tops บอกว่า ตอนนี้สัดส่วนประชากรต่อร้านสะดวกซื้อ/มินิซูเปอร์มาเก็ต 1 สาขา ประเทศไทยอยู่ที่ 1 ร้านต่อประชากร 4,428 คน
ขณะที่สัดส่วนร้านสะดวกซื้อต่อประชากรของ ‘เกาหลี’ อยู่ที่ 1 ร้านต่อ 953 คน ส่วน ‘ญี่ปุ่น’ มีสัดส่วนร้านสะดวกซื้อต่อประชากรอยู่ที่ 1 ร้านต่อ 2,220 คน สะท้อนโอกาสทางธุรกิจของร้านสะดวกซื้อว่า ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก
โดยทาง Tops อธิบายว่า ศักยภาพของ ‘Tops Daily’ คือ ปัจจุบันมีจำนวนสาขา 515 สาขา หลังจากการปรับโมเดลเป็น Joy-venience Store ภายใต้แนวคิด Every Day for Everyone ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เห็นจากยอดขายที่สูงขึ้นในแต่ละสาขาในปี 2023 เติบโตเกินกว่า 10%
ตอนนี้ Tops Daily มีสินค้าขายอยู่ 6,000 SKU ครอบคลุมทั้งสินค้านำเข้า สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันและสินค้า Eat now Eat later (และมีแผนจะเพิ่มสินค้าเข้ามาให้หลากหลายมากขึ้น ทำจุดแข็งของ Tops ให้ชัดเจนขึ้นอีกในอนาคต)
[ สะดวกซื้อ ‘โมเดลแฟรนไชส์’ จะทำให้ Tops Daily โตได้ไว ]
สาเหตุที่แบ่งแฟรนไชส์ออกเป็น 2 แบบ คือ เพราะ Tops ต้องการต้อนรับผู้ลงทุนทุกกลุ่ม ทุกประเภท ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ คนที่มีความฝันอยากทำธุรกิจและนักลงทุนรุ่นใหม่ จึงเลือกโมเดลทั้งแบบมีกรรมสิทธิ์ที่ดินและไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน
ผู้บริหาร Tops อธิบายว่า โมเดลแฟรนไชส์แบบที่ 1 จะทำให้สามารถขยายร้านได้รวดเร็ว ส่วนแบบที่ 2 จะทำให้แฟรนไชส์เข้าถึงชุมชนได้มากขึ้น โดยโมเดลแฟรนไชส์จะทำให้ Tops มีเวลาไปโฟกัสกับงานบริหารจัดการและหลังบ้าน ขณะที่หน้าบ้านจะมีแฟรนไชส์เป็นผู้ดูแลให้ และสามารถขยายตัวได้รวดเร็ว
โดย Tops ตั้งเป้าจะขยายแฟรนไชส์เป็นสัดส่วน 45% จากเดิม 30% ของสาขาทั้งหมด รองรับการขยายตัวของธุรกิจมินิซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นไปเพื่อเดินหน้าสานต่อความสำเร็จในการเป็น Growth Engine ให้กับธุรกิจด้วยกลยุทธ์การเป็นผู้นำร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตทุกฟอร์แมท ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ ตามยุทธศาสตร์ 5 ปี