สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ก่อนหน้านี้จะเห็นว่าธุรกิจสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลางต่างได้รับผลกระทบจากการถูกคว่ำบาตรจากกรณีสงครามอิสราเอล-ฮามาส ไม่ว่าจะเป็น KFC, Starbucks, McDonald’s
สถานการณ์ตอนนี้ผลกระทบของการคว่ำบาตรแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐอเมริกากำลังขยายและแพร่กระจายในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม หลังจากที่ KFC 108 สาขาในมาเลเซียแจ้งปิดร้าน (ชั่วคราว) จากทั้งหมด 600 แห่งทั่วประเทศ
นอกจาก KFC แต่ Starbucks ในมาเลเซียก็มีรายได้ลดลง 38.2% ในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว ซึ่งสาเหตุรายได้ลดลงมาจากการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่องในสงครามอิสราเอล-ฮามาส
นอกจากมาเลเซีย ยังพบว่ารายได้ของร้าน Starbucks ในอินโดนีเซียก็ขาดทุนสุทธิ 2.2 หมื่นล้านรูเปียห์ในไตรมาสแรกเช่นกัน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของผู้บริโภคที่แสดงการต่อต้านการสู้รบในตะวันออกกลาง ซึ่งอินโดนีเซียถือเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ในอาเซียนและเป็นที่ตั้งของประชากรมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านี้ผู้นำอินโดฯ ได้ประณามการกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ก่อนหน้านี้ธุรกิจของสหรัฐฯได้รับผลกระทบจากการถูกคว่ำบาตรมากขึ้นจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และตอนนี้ผลกระทบบางส่วนก็เริ่มขยายมาถึงกลุ่มประเทศมุสลิมในภูมิภาคอื่นๆด้วย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย
คริส เคมป์ซินสกี้ ซีอีโอ McDonald’s กล่าวว่า หากดูผลกระทบของการคว่ำบาตรในตลาดบางแห่งของเรา ฉันจะไม่พูดว่าสิ่งต่างๆ จะแย่ลงไปกว่านี้ และตอนนี้เราไม่คาดหวังว่าจะได้เห็นการปรับปรุงที่สำคัญใดๆ ในเรื่องนี้จนกว่าสงครามจะสิ้นสุดลง