SHARE

คัดลอกแล้ว

ผลสำรวจคนไทยอายุ 35 ปีขึ้นไปมีปัญหาฟันผุมากถึง 91.8% และถ้าดูลึกมากไปกว่านั้น อาจตกใจว่า วัยรุ่นไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กว่า 20% กำลังเผชิญโรคเหงือกอักเสบ ในสัดส่วน 6.6% ของคนกลุ่มนี้จะต้องสูญเสียฟันหมดทั้งปากเมื่ออายุครบ 20 ปี 

ขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่อายุ  35-44 ปี กำลังประสบปัญหาฟันผุถึง 91.8% เลยทีเดียว ส่วนการใช้ไหมขัดฟันยังคงเป็นส่วนน้อย เพราะจากผลสำรวจของ ลิสเตอรีน พบว่ามีผู้ใหญ่อายุ 35-44 ปี เพียง 14.7%เท่านั้น ที่ใช้ไหมขัดฟัน

เมื่อการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสำคัญ และรู้กันดีว่าเฉพาะการแปรงฟันให้สะอาดเอี่ยมจริงเป็นเรื่องยากมาก การใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากร่วมด้วยจึงเป็นส่วนช่วยให้สุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น

“มีความเชื่อผิดๆ ว่าการแปรงฟันและการทำความสะอาดฟันโดยใช้ไหมขัดฟันนั้นเพียงพอแล้วสำหรับการดูแลสุขอนามัยช่องปากที่ดี แต่ความจริงแล้ววิธีนี้ช่วยทำความสะอาดได้เพียง 1 ใน 4 ของช่องปากเท่านั้น เพราะการแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ร่องเหงือกได้” ‘ชวีนา จิตรสมบูรณ์’ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ลิสเตอรีน ประเทศไทย กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ อธิบายให้ฟัง

คนไทยนั้นยังคงมีภาพจำเดิมๆ ที่ว่าใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อที่จะได้ลมหายใจสดชื่น แต่จริงๆ แล้วเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก เพราะแน่นอนว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากในระยะสั้นจะได้เรื่องของลมหายใจจริง แต่ถ้าหากใช้ไปในระยะยาวจะช่วยให้สุขภาพฟันแข็งแรง 

‘ชวีนา’ ยังเล่าต่อว่า จากการศึกษาพบว่าถ้าหากใช้น้ำยาบ้วนปากควบคู่ไปกับการแปรงฟัน การทำความสะอาดซอกฟันหรือการใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยลดคราบจุลินทรีย์ได้มากถึง 52% ภายใน 6 เดือน และช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับเหงือกอื่น ๆ ได้ 21% เพราะในช่องปากมีจำนวนแบคทีเรียเป็นล้านๆ รวมถึงลิ้นด้วย 

ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้ทำให้เกิดฟันผุ ดังนั้นเราต้องการเปลี่ยนทัศนคติให้ทุกคนตระหนักว่าการป้องกันนั้นย่อมดีกว่าการรักษา ซึ่งทุกคนสามารถดูแลสุขภาพช่องปากแบบครบวงจรด้วยการใช้ลิสเตอรีน บ้วนปากวันละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยป้องกันฟันผุและปัญหาเหงือกได้ในระยะแรกเริ่ม

และน้ำยาบ้วนปากลิสเตอรีนที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย 4 ชนิดช่วยลดคราบจุลินทรีย์ได้ 22.2% และลดปัญหาเหงือกอื่น ๆ ได้ถึง 28.2% ภายใน 6 เดือน 

[ ตลาดออรัลแคร์ไทยมีมูลค่า 18,000 ล้านบาทและกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ หลังช่วงโควิด ]

สำหรับตลาดออรัลแคร์ในไทยกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ หลังจากช่วงโควิดเป็นต้นมาที่มีการเติบโตสูงจนมูลค่าราวๆ 18,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นแปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ไหมขัดฟันและอื่นๆ 

หากแยกย่อยออกมาในหมวดน้ำยาบ้วนปากจะพบว่าลิสเตอร์ลินก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่มียอดขายอันดับ 1 ในตลาดโลกและไทย ด้วยอายุแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 130 ปี ในตลาดโลก และ 54 ปี ในตลาดไทย  

ปัจจุบัน ลิสเตอร์ลิน มีสินค้าแบ่งแยกออกเป็น 2 หมวดหลัก คือ 

            1. น้ำยาบ้วนปากทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นหรือสูตรเบสิคอย่าง Cool mint
            2. น้ำยาบ้วนปากแบบพรีเมียมที่เน้นการดูแลเฉพาะส่วน เช่น ฟันขาว ลดคราบพลัค ลดหินปูน ทั้ง 2 หมวดจะมีทั้งสูตรมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์

[ ลิสเตอร์ลินเน้นการตลาดออกสินค้าใหม่ ทำให้คนเข้าใจการใช้น้ำยาบ้วนปากมากขึ้น ]

โดยลิสเตอร์ลินจะยังคงทำการตลาดในไทยด้วยการเน้นออกสินค้าใหม่ๆ ที่เน้นแก้ปัญหาความความต้องการของผู้บริโภค ทำให้แบรนด์มีสินค้าให้เลือกมากขึ้น พร้อมทั้งมุ่งรณรงค์ให้คนไทยได้ทำความเข้าใจการใช้น้ำยาบ้วนปากในระยะยาวอีกด้วย 

นอกจากนี้ ลิสเตอร์ลิน ยังเผยอินไซต์ที่น่าสนใจไว้อีกว่า สำหรับกลุ่มผู้บริโภควัยกลางคนจะชอบใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรมีแอลกอฮอล์ ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่จะชอบสูตรไม่มีแอลกอฮอล์มากกว่า ทำให้ทุกๆ ครั้งที่แบรนด์ต้องการออกสินค้าใหม่ๆ จะต้องผลิตให้ครอบคลุมทั้ง 2 สูตรเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า