SHARE

คัดลอกแล้ว

อนาคต ‘น้ำส้ม’ ที่หลายคนชื่นชอบอาจหากินยากขึ้น จากการที่ผลผลิตส้มกำลังลดลง โดยเฉพาะในบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกหลัก

นี่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโดยตรง พ่วงด้วยภาวะโรคระบาดที่รุนแรง ทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ ราคาน้ำส้มกำลังพุ่งสูงขึ้น และเริ่มมีผู้ผลิตบางรายหยุดขายผลิตภัณฑ์จากน้ำส้มแล้ว

อนาคตน้ำส้มกำลังไม่แน่นอน

อุตสาหกรรมผลิตน้ำส้มและผู้บริโภคกำลังเผชิญความไม่แน่นอน เมื่อราคาน้ำส้มพุ่งสูงต่อเนื่อง โดยราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำส้มเข้มข้นที่ตลาดในนิวยอร์กเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 4.92 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากราคาเมื่อปีก่อนหน้า นี่ทำให้ ‘คีส คูลส์’ (Kees Cools) ประธานของ The International Fruit and Vegetable Juice Association หรือ IFU ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมน้ำผลไม้ทั่วโลกถึงกับเอ่ยปากว่า “นี่คือวิกฤติ”

สาเหตุที่ทำให้ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำส้มเข้มข้นซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำส้มกล่องพุ่งทะยานเป็นเพราะบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำส้มรายใหญ่ที่สุดของโลกที่คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 70 ของน้ำส้มทั้งหมด เผยการคาดการณ์ว่าผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ปีนี้จะลดลงร้อยละ 24 จากปีที่แล้ว มากกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าผลผลิตจะลดลงร้อยละ 15 โดยคาดว่าปริมาณผลผลิตที่ได้จะมีเพียง 232 ล้านลัง ที่แต่ละลังมีน้ำหนัก 40.8 กิโลกรัม ลดลงมาจาก 307 ล้านลังเมื่อปีที่แล้ว นี่ถือเป็นผลผลิตส้มที่ต่ำสุดในรอบ 36 ปี ของบราซิล

ปัจจัยที่ทำให้บราซิลเก็บเกี่ยวส้มได้น้อยลงมาจากการที่สวนส้มในประเทศเผชิญกับการระบาดของโรคกรีนนิ่ง ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีแมลงเป็นพาหะและเป็นปัญหาต่อเกษตรกรผู้ผลิตส้มทั่วโลกมาอย่างยาวนาน โดยโรคนี้ส่งผลให้ต้นส้มทรุดโทรม ผลส้มผิดรูปร่าง ไม่มีรสชาติ ผลผลิตลดลง และต้นส้มที่เป็นโรคก็มักจะตายในที่สุด

การเจอกับโรคกรีนนิ่งยังเกิดขึ้นหลังบราซิลเพิ่งเจอกับคลื่นความร้อนรุนแรงและภัยแล้งในช่วงเวลาที่ส้มกำลังออกดอกเมื่อช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ในขณะที่สวนส้มราว 2 ใน 3 ของบราซิลยังพึ่งพาน้ำฝนตามธรรมชาติมากกว่าน้ำจากระบบชลประทาน การเผชิญภัยแล้งที่ฝนตกลงมาน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับเกษตรกรในการรับมือภัยจากอากาศร้อนจัดและความแห้งแล้ง อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อรักษาปริมาณผลผลิตส้มเอาไว้

นอกจากบราซิลแล้ว สหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ส่งออกน้ำส้มรายใหญ่ของโลกก็เผชิญปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตส้มเช่นกัน โดยเฉพาะในรัฐฟลอริดา แหล่งผลิตส้มของสหรัฐฯ ที่เผชิญเฮอริเคนหลายลูกเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งทำลายผลผลิตเสียหาย และสวนส้มในฟลอริดาก็ยังเผชิญกับการคุกคามของโรคกรีนนิ่งด้วย โดยนี่ถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่การเก็บเกี่ยวผลผลิตส้มทั่วโลกเจอกับปัญหา

ผู้ผลิตญี่ปุ่นเริ่มหยุดขายผลิตภัณฑ์น้ำส้ม

ตอนนี้ปัญหาขาดแคลนส้มในประเทศผู้ส่งออกหลักที่ทำให้ราคาน้ำส้มเข้มข้นพุ่งส่งผลกระทบชัดเจนแล้วในญี่ปุ่น ซึ่งน้ำส้มเกือบทั้งหมดที่ขายอยู่ในประเทศนั้นต้องพึ่งพาการนำเข้า และโดยส่วนใหญ่ยังนำเข้าน้ำส้มจากบราซิล ขณะเดียวกัน ปัญหาเงินเยนอ่อนค่ายังทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง โดยสมาคมน้ำผลไม้ของญี่ปุ่น (The Japan Fruit Juice Association) ระบุว่าราคานำเข้าน้ำส้มตอนนี้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 จากปีที่แล้วเมื่อคิดเป็นเงินเยน

สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นรายงานว่า การขาดแคลนน้ำส้มและเงินเยนอ่อนค่าทำให้ตอนนี้ มีผู้ผลิตน้ำผลไม้หลายเจ้าในญี่ปุ่นที่ทยอยระงับการขายผลิตภัณฑ์น้ำส้ม เช่น Morinaga Milk Industry ซึ่งเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายน้ำส้มซันคิสท์ (Sunkist) ในญี่ปุ่นบอกว่ามีแนวโน้มที่จะต้องหยุดขายน้ำส้มกล่อง 200 มิลลิลิตร ในเดือนนี้ เนื่องจากซัพพลายที่มีอยู่ใกล้หมดแล้ว และจะเพิ่มราคาขายปลีกประมาณร้อยละ 8 ในช่วงต้นเดือนนี้เป็นราคากล่องละ 130 เยน หรือประมาณ 31 บาท

ก่อนหน้านี้ยังมี Yakult Honsha ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตนมเปรี้ยวยาคูลท์ ก็ระงับการขายผลิตภัณฑ์น้ำส้มไปเมื่อเดือนเมษายน ส่วน Megmilk Snow Brand ก็ระงับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องบางอย่างไปแล้วเช่นกัน

รายงานระบุว่า ผู้ผลิตน้ำผลไม้บางแห่งในญี่ปุ่นพยายามหาทางคงการผลิตน้ำส้มด้วยการมองหาส้มจากประเทศผู้ส่งออกอื่นๆ เช่น Tomoe Milk บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มในจังหวัดอิบารากิทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว ซึ่งผลิตน้ำส้มประมาณ 20,000 ขวดต่อวัน ที่หันไปทยอยนำเข้าน้ำส้มเข้มข้นจากอิสราเอลหลังจากที่บริษัทพึ่งพาการนำเข้าจากบราซิลมาอย่างยาวนาน

เล็งหา ‘ผลไม้ทางเลือก’ ทดแทน

ปกติแล้วโรงงานผลิตน้ำส้มบรรจุกล่องจะแก้ปัญหารสชาติน้ำส้มที่แตกต่างกันไปแต่ละฤดูกาลด้วยการผสมน้ำส้มแช่แข็งในสต็อกที่ได้จากส้มในฤดูกาลก่อนหน้าและมีอายุอยู่ได้ประมาณ 2 ปี เข้ากับน้ำส้มจากผลผลิตใหม่ แต่รายงานของ Financial Times ระบุว่าการเก็บเกี่ยวผลผลิตส้มได้ลดลง 3 ปี ติดต่อกัน ทำให้น้ำส้มแช่แข็งในสต็อกลดลงต่อเนื่อง

โดยคูลส์ประธาน IFU บอกว่าทางแก้ปัญหาระยะยาวอาจเป็นการทำน้ำส้มจากส้มแมนดารินแทน เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ส้มที่มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคที่ปลูกส้มมากกว่า ซึ่งประธาน IFU มองว่าทางเลือกเดียวในการแก้ปัญหาระยะยาวโดยไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ก็อาจเป็นการใช้ “ผลไม้หลากหลายสายพันธุ์”

นอกจากนี้ IFU ยังระบุว่ากำลังพิจารณาการล็อบบี้เพื่อให้มีการเขียนระเบียบข้อบังคับด้านอาหารในระดับสหประชาชาติใหม่ เพื่อให้ในน้ำส้มสามารถมีส่วนผสมของผลไม้ตระกูลซิตรัสอื่นๆ เช่นเดียวกับการโน้มน้าวเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ในระดับประเทศ

ทั้งนี้ ผลไม้ตระกูลซิตรัสนั้นครอบคลุมทั้งส้มชนิดต่างๆ มะนาว เลมอน ส้มโอ ไปจนถึงเกรปฟรุต

ด้าน ‘แฮร์รี แคมป์เบลล์’ (Harry Campbell) นักวิเคราะห์ข้อมูลตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคของกลุ่มวิจัยมินเทค (Mintec) ระบุกับสำนักข่าว CNBC ว่าราคาน้ำส้มที่พุ่งสูงขึ้นบีบให้ผู้ผลิตจะต้องปรับตัวตามสถานการณ์โดยลองพิจารณาน้ำผลไม้ทางเลือกอื่นๆ ผู้ผลิตจำนวนมากจะต้องปรับเปลี่ยนปริมาณน้ำผลไม้ที่ใส่ลงไปในส่วนผสม โดยลดปริมาณน้ำส้มและเพิ่มน้ำผลไม้อื่นๆ เช่น น้ำลูกแพร์ น้ำแอปเปิล น้ำองุ่น เพื่อให้การพึ่งพาน้ำส้มลดลง

นักวิเคราะห์รายนี้ยังประเมินว่าสถานการณ์เช่นนี้ที่การลดลงของผลผลิตส้มที่นำมาสู่การดันราคาน้ำส้มให้สูงขึ้นน่าจะดำเนินต่อไปเป็นระยะยาว จนกว่าจะถึงจุดที่ผู้บริโภคตัดสินใจว่าไม่ต้องการจ่ายเงินซื้อน้ำส้มในราคาสูงแบบนี้อีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม แคมป์เบลล์ระบุว่ามีผู้ผลิตในตลาดน้ำส้มบางรายที่สังเกตเห็นความต้องการบริโภคที่ลดลงมากเมื่อเทียบแบบปีต่อปี สอดคล้องกับรายงานของเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดี้ยน ที่อ้างอิง ‘ฟรองซัวส์ ซอนเนวิลล์’ (Francois Sonneville) นักวิเคราะห์อาวุโสตลาดสินค้าเครื่องดื่มจาก Rabobank ที่ระบุว่าความต้องการน้ำส้มของผู้บริโภคลดลงประมาณ 1 ใน 5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำส้มเพิ่มสูงขึ้นและการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค

ที่มา

https://www.theguardian.com/…/orange-juice-makers…

https://www.ft.com/…/31400087-5749-4cbe-94ee-5ad87b1bb9aa

https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/backstories/3360/

https://japantoday.com/…/orange-juice-crisis-%E2%80…

https://www.cnbc.com/…/orange-juice-makers-turn-to…

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า