SHARE

คัดลอกแล้ว

บลจ.กรุงไทย ประกาศขยายขนาดกองทุน KTPCRED-UI ลงทุนใน Private Credit เป็น 5,000 ล้านบาท จากเดิม 2,056 ล้านบาท หลังนักลงทุนแห่จองซื้อหมดเกลี้ยงก่อนครบกำหนด และเปิดรอบใหม่ 6-13 มิ.ย. 2567 

‘ชวินดา หาญรัตนกูล’ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดเสนอขายกองทุนที่เน้นลงทุนใน Private Credit หรือสินเชื่อที่ให้กู้โดยผู้ให้กู้ที่มิใช่ธนาคาร จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม U.S. Private Credit Unhedged ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KTPCRED-UI) และกองทุนเปิดเคแทม U.S. Private Credit ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KTPCREDH-UI) โดยเสนอขายครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 27 พ.ค. – 12 มิ.ย. 67 นั้น

โดยทั้ง 2 กองทุนนี้ นักลงทุนต่างได้ให้ความสนใจอย่างล้นหลามโดยเฉพาะกอง KTPCRED-UI จึงทำให้กองทุนนี้ปิดจองซื้อในช่วง IPO ก่อนกำหนดด้วยจำนวนกว่า 2,056 ล้านบาท และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

จึงได้จดทะเบียนขยายขนาดกองทุนเป็น 5,000 ล้านบาท และกำหนดการเปิดรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนล่วงหน้าในช่วงวันที่ 6-13 มิ.ย. 2567 ภายหลังเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกเพิ่มเติม

เปิดขายสำหรับผู้ลงทุนประเภทผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท ผ่าน บลจ.กรุงไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ กองทุนจะทำรายการซื้อขายหน่วยลงทุนในวันที่ 1 ก.ค. 2567 นี้

สำหรับกองทุน KTPCREDH-UI ผู้ลงทุนยังคงสามารถลงทุนได้ตามระยะเวลา IPO ที่กำหนดไว้เดิม ตั้งแต่วันนี้ -12 มิ.ย. 2567  ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท ผ่าน บลจ.กรุงไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เช่นกัน

กองทุน KTPCRED-UI และ KTPCREDH-UI (ความเสี่ยงระดับ 8+) เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน โดยกองทุน KTPCRED-UI ไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้ ส่วน KTPCREDH-UI มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ต้องรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนจากการลงทุน

โดยทั้ง 2 กองทุน เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Ares Strategic Income Offshore Access Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class I UD เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักมีเป้าหมายที่จะลงทุนในกองทุน Ares Strategic Income Fund (ASIF) (กองทุนอ้างอิง) อย่างน้อย 95% ของทรัพย์สินของกองทุน

ซึ่ง ASIF นับว่าเป็นผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ผ่านมาทุกวัฏจักรของตลาด อีกทั้งยังมีกลยุทธ์ในการสร้างผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยงที่โดดเด่น (Risk-adjusted Return) โดยมุ่งเน้นการสร้างกระแสรายได้ระดับสูงและเพิ่มการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตโฟลิโอ ผ่านแพลตฟอร์มเครดิตชั้นนำของ Ares ที่เน้นการทำ Direct Lending เป็นหลัก

หนึ่งในประเภทของ Private Credit ที่เป็นสัดส่วนหลักของทั้ง 2 กองทุนนี้ ก็คือ Direct Lending หรือที่เรียกว่าการปล่อยกู้โดยตรง ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ที่มาขอกู้จะมีทั้งขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็ก โดยส่วนใหญ่จะตอบสนองตามวัตถุประสงค์เฉพาะของผู้กู้แต่ละราย ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยก็มักจะสูงกว่าสินเชื่อธนาคารทั่วไป และคิดอัตราดอกเบี้ยแบบอัตราลอยตัว (floating rate)

ดังนั้นจึงลดความเสี่ยงด้านความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจากข้อมูลในอดีต ในช่วงที่ตลาดในภาพรวมปรับฐานนั้น Private Credit ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่แสดงถึงผลขาดทุนสูงสุด (Max Drawdown) ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ (ที่มา: Ares management, ข้อมูล ณ 31 ม.ค. 2567)

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า