ครอบครัว “น้องเมย” โต้รับเงินกองทัพให้เงียบ ยันเดินหน้าหาความจริงต่อ !

ประเด็นคือ –  ครอบครัว นักเรียนเตรียมทหาร “ภคพงศ์ ตัญกาญจน์” หรือ น้องเมย เปิดใจกับสื่ออีกครั้ง เคลียร์กระแสข่าวเงียบหาย ยืนยันไม่ได้รับเงินจากกองทัพ  จ่อขอรับเอกสารการสอบสวนคดี จากกองทัพไทย กลางเดือน ม.ค.61

นายพิเชษฐ นางสุกัญญา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อแม่ และ พี่สาว ของ “น้องเมย”  นักเรียนเตรียมทหาร “ภคพงศ์ ตัญกาญจน์” ที่เสียชีวิตภายในโรงเรียนเตรียมทหาร และ ยังมีข้อสงสัยเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากการ “ซ่อม” ของรุ่นพี่หรือไม่ ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงความคืบหน้าในการดำเนินการต่างๆ และ กระแสข่าวเรื่องการรับเงินจากกองทัพ

โดย น.ส.สุพิชา พี่สาวน้องเมย เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า เท่าที่ได้รับแจ้งจากตำรวจ คือ มีการสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ยังไม่ทราบว่า มีการสอบปากคำใครบ้าง และ มีเนื้อหาอย่างไร เพราะเป็นข้อมูลของตำรวจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางเดือน ม.ค.61 จะทำหนังสือขอรับเอกสารการสอบสวนคดีของน้องเมย จากกองทัพไทย จากที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับเชิญให้เข้าไปรับฟังคำสอบสวน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังในเรื่องเอกสารมากเท่าใดนัก เพราะเชื่อว่า จะไม่แตกต่างจากที่เคยมีการแถลงข่าวก่อนหน้านี้

“ ส่วนกรณีที่มีการแถลงข่าวเรื่องการตกบันไดนั้น ทางครอบครัวยังข้องใจว่า ตกบันไดจริงหรือไม่ และตกวันไหน เวลาใด ขณะที่ประเด็นที่ยังติดค้างอยู่ในใจ คือ ประเด็นที่เคยสอบถามกองทัพไปแล้วว่า รอยช้ำ และซี่โครงที่หัก เกิดจากสาเหตุใด เหมือนเราได้รับคำตอบว่า เกิดจากการทำ CPR ซึ่งมันไม่ใช่แน่นอน แต่ข้อมูลในเชิงลึกเราก็ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องเก็บไว้ต่อสู้ในชั้นศาล เรามีใบยืนยันการตรวจโรคก่อนเข้า ร.ร.เตรียมทหาร ว่า เขาไม่มีโรคประจำตัว ตามที่ทางกองทัพกล่าวอ้าง ส่วนเรื่องผลการตรวจอวัยวะ ยังไม่ได้รับทราบข้อมูล และยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ” 

น.ส.สุพิชา ยังกล่าวถึงกระแสข่าวสาเหตุที่ครอบครัวเงียบหายไปในช่วงนี้ เป็นเพราะได้รับเงินและเคลียร์กับกองทัพเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ไม่เป็นความจริง และยืนยันว่า ทางครอบครัว ยังไม่เคยได้รับเงินใดๆ จากทางกองทัพ ที่สำคัญสาเหตุที่ทำให้เงียบหายไป เพราะส่วนตัวแล้ว ยังต้องเรียนหนังสือ และหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยยืนยันว่า จะเดินหน้าเรียกหาความยุติธรรมให้ถึงที่สุด

ด้าน นายพิเชษฐ บิดาน้องเมย กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า สาเหตุการเสียชีวิตของบุตรชาย น่าจะมาจากที่ถูกรุ่นพี่สั่งธำรงวินัย จนหัวใจหยุดเต้น และ ทำให้รุ่นพี่คนดังกล่าวถูกปลดจากการเป็นรุ่นพี่บังคับบัญชา โดยเชื่อว่า เป็นการสั่งทำโทษที่รุนแรงเกินไป และ น่าจะมีการฝากกันต่อๆ กันมา  ส่วนข้อกล่าวอ้างที่ว่า บุตรชาย มีปัญหาด้านสุขภาพจนต้องเข้ากองพยาบาลบ่อยนั้น เป็นเพราะบุตรชายต้องการหาที่ปลอดภัย