กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยช่วงครึ่งหลังปี 67 เร่งสรุปผลการเจรจา FTA เพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้ไทยในหลายประเทศทั่วโลก
[ การค้าเสรีอยู่ระหว่างเจรจา 5 ฉบับ ]
‘โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล’ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เล่าถึงแผนงานในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ว่าทางกรมได้เจรจาเชิงรุกเพื่อเร่งรัดหาข้อสรุป FTA หลักๆ อยู่ 5 ฉบับ อาทิ
-
-
-
-
- ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA)
- ไทย-สหภาพยุโรป (EU)
- ไทย-เกาหลีใต้
- ไทย-ภูฏาน
- อาเซียน-แคนาดา
-
-
-
โดยเฉพาะกับการเจรจา FTA ไทย-EU และอาเซียน-แคนาดา จะมีการหารือ FTA ทั้งสองฉบับให้หนักขึ้น เพื่อเร่งหาข้อสรุปร่วมกันให้ได้มากที่สุด เพราะหากเป็นไปตามเป้าหมายจะถือเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยทำกับประเทศในทวีปยุโรป
[ ยกระดับฉบับการค้าเดิม เพิ่มเติมความสะดวกใหม่ ]
นอกจากนี้ ยังเตรียมผลักดันการเจรจายกระดับความตกลงที่มีอยู่เดิม เพื่อให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับรูปแบบการค้าในปัจจุบัน และช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย อาทิ ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) อาเซียน-จีน อาเซียน-อินเดีย และไทย-เปรู รวมทั้งอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ที่เจรจาเสร็จแล้ว
ปัจจุบันไทยมี FTA 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ สำหรับ FTA ฉบับที่ 15 ของไทย คือ FTA ไทย-ศรีลังกา ได้ลงนามความตกลงไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และคาดว่าจะมีผลใช้บังคับภายในปีนี้
[ 5 เดือนที่ผ่านมา FTA มีมูลค่า 145.5 พันล้านดอลลาร์ ]
สำหรับในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค. 2567) การค้าของไทยกับ 18 ประเทศคู่ค้า FTA มีมูลค่า 145.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.1
โดยไทยส่งออกไปประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 70.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.4 และไทยนำเข้าจากประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 74.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ2.0
[ แค่เทรนด์รถยนต์เปลี่ยน ไทยยังส่งออกรถยนต์ได้มากอยู่ ]
ปัจจุบันสินค้าส่งออกสำคัญของไทย คือ
-
-
-
-
- รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
- อัญมณีและเครื่องประดับ
- น้ำมันสำเร็จรูป
- เม็ดพลาสติก
- เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
-
-
-
จะเห็นได้ว่าสินค้าส่งออกหลักของไทยยังเป็นรถยนต์อยู่ถึงแม้ว่าจะมีโรงงานผลิตรถยนต์ทยอยปิดตัวก็ตาม
โดย ‘โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล’ เล่าให้ฟังว่า แม้โรงงานผลิตรถยนต์ จะปิดตัวแต่นั่นก็เป็นรถยนต์สันดาป ซึ่งเทรนด์รถยนต์ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้ในอนาคตไทยอาจจะส่งออกรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถยนต์สันดาปก็ย่อมได้
[ ทุเรียนและสินค้าการเกษตรยังมีการเติบโตอีกมาก ]
ในส่วนของสินค้าการเกษตรไทย ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันเกษตรกรนิยมส่งออก ‘ทุเรียน’ ไปยังประเทศ ‘จีน’ จำนวนมาก แต่ยังมีความต้องการของทุเรียนในประเทศอื่นๆ อีกจำนวนมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ทำให้ยังมีช่องทางให้ทุเรียนไทยเติบโตได้อีก
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ ‘ผลไม้อบแห้ง’ ที่จะเป็นอีกหนึ่งในสินค้าไฮไลต์สามารถส่งออกได้ในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศยุโรปที่ชื่นชอบในผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งจากไทย ทำให้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากหาก FTA สำเร็จ