อิสราเอลมีแผนตั้งชื่อสถานีรถไฟ “โดนัลด์ ทรัมป์”

อิสราเอลมีแผนตั้งชื่อสถานีรถไฟชื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญในการตัดสินใจรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอล

นายยิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอิสราเอลกล่าวว่า ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนก่อสร้างสถานีรถไฟใต้ดินความเร็วสูง 2 แห่งยาวกว่า 3 กิโลเมตร และการขุดอุโมงค์ 50 เมตร ในส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากเทลอาวีฟ ไปยังกำแพงตะวันตก (Western Wall) ซึ่งต้องผ่านศูนย์กลางเยรูซาเล็มและเมืองเก่าซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางการเมือง โดยจะตั้งชื่อสถานีหนึ่งแห่งว่า “โดนัลน์ จอห์น ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ

คาดว่าใช้งบประมาณมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ระยะเวลาประมาณ 4 ปี เพื่อให้ชาวยิวสามารถเดินทางไปยังกำแพงตะวันตก ซึ่งเป็นสถานที่ศักสิทธิ์เคารพบูชาได้รวดเร็วขึ้น แต่ทางองค์การวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) แสดงความกังวัลเกี่ยวกับการขุดอุโมงค์ว่าทำให้โบราณสถานได้รับความกระทบกระเทือน

นายแคตซ์กล่าวว่า เขาตัดสินใจที่จะใช้ชื่อสถานีว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” เนื่องจากความกล้าหาญและการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ที่เขาเซ็นรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 แต่ทำให้เกิดเสียงประท้วงจากหลายประเทศ

จากคำแถลงการณ์และตัดสินใจของทรัมป์เพื่อเตรียมการย้ายสถานฑูตสหรัฐฯ จากกรุงเทลอาวีฟ ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ถูกประณามโดยชาวปาเลสไตน์ ก่อให้เกิดการประท้วงรุนแรงหน้าสถานฑูตสหรัฐฯ ในเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างชาวอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์

สัปดาหที่ผ่านมา ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ลงมติชัดเจนไม่ยอมรับการรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล และประกาศให้การรับรองดังกล่าวเป็นโมฆะ แต่สหรัฐฯ ปฏิเสธมติยูเอ็น โดยอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิในฐานะประเทศที่มีอธิปไตย และขู่ว่าจะลดความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศที่ลงมติไม่เป็นด้วย