บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด หรือ บลูเบลล์ จัดสัมมนาเอ็กซ์คลูซีฟในหัวข้อ Make it Great : The Vision Mid-Year 2024 Economic Outlook ถ่ายทอดมุมมองการลงทุนผ่านสายตาผู้จัดการกองทุนชั้นนำ
TODAY Bizview ได้รวบรวมสาระสำคัญภายในงานมาให้สำหรับนักลงทุน ทั้งประเด็นเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย และจัดทัพสินทรัพย์น่าลงทุนในครึ่งปีหลังนี้
[ ตลาดหุ้นเอเชีย ให้เกาหลีใต้-อินเดียน่าสนใจ ]
‘ปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล’ Director, ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นเเกาหลีใต้ ซึ่งได้ประโยชน์จากกระแส AI เพราะมีบริษัทชั้นนำ ทั้งในอุตสาหกรรม Mobile Device และ Memory Chip นอกจากนี้เกาหลีใต้เป็นตลาดหุ้นที่มี Valuation น่าสนใจ เมื่อพิจารณาจาก Forward P/E
ขณะที่การปฏิรูปตลาดทุนหรือ Value-up Program คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนตลาดหุ้นในระยะยาว โดยผลตอบแทนครึ่งปีแรกนับจากตั้งปีถึง 28 มิถุนายน 2567 ตลาดหุ้นเกาหลีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 4.5% โดยบลจ.ไทยพาณิชย์ กองทุนแนะนำ SCBKEQTG
อีกตลาดหุ้นที่น่าสนใจคือ ตลาดหุ้นอินเดีย ที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง โครงสร้างประชากรที่เอื้อต่อการขยายตัวของการบริโภคและภาคแรงงานในระยะยาว
โดยผลตอบแทนครึ่งปีแรก 2567 ตลาดหุ้นอินเดียให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 12% ส่วนปัจจัยการเมือง คาดว่าจะมีความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นไปแล้ว
[ สหรัฐอเมริกายังปรับตัวขึ้นได้ ]
‘เกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์’ CFA ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ปัจจัย Macro ยังสนับสนุนให้ตลาดไปต่อในครึ่งปีหลัง GDP ของ US ยังเติบโตได้ 3.2% ในปีนี้แม้ตลาดแรงงานจะเริ่มชะลอตัว แต่โอกาสเกิดเศรษฐกิจ (Recession) อยู่ในระดับต่ำ
ในขณะที่เงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัยยสำคัญทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้ แม้ตลาดหุ้นในปีนี้จะปรับตัวขึ้นมามาก
โดยเฉพาะ S&P Index ที่ในครึ่งปีแรกให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 15.1% แต่เป็นการขึ้นแบบกระจุกตัวในหุ้น Big Tech เท่านั้น ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ยังปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนักซึ่งในครึ่งปีหลังคาดว่ากลุ่มเหล่านี้ จะปรับตัวขึ้นได้ โดยมีแรงสนับสนุนจาก Earning ที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
[ ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ]
‘ดร.สมชัย อมรธรรม’ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บลจ. กรุงไทย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวที่ระดับ 3.0% ดีขึ้นจากในปี 2566 ที่ขยายตัวได้ 1.9%
ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในประเทศยังคงขยายตัวได้ดีขึ้นที่ระดับ 0.7% โดยปัจจัยหลักมาจากการเร่งการเบิกจ่ายของภาครัฐจากการอนุมัติงบประมาณฯ ปี 2567 ที่ล่าช้า การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านการบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดี การส่งออกมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ภาคอุตสาหกรรมยังคงเผชิญความท้าทายจากการเสียความสามารถในการแข่งขันในบางสาขา รวมถึงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงของปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่น่าจะสูงขึ้น
ทำให้คาดการณ์ตลาดหุ้นไทย (SET) เป้าหมายอยู่ที่ระดับ 1,450 จุด ณ สิ้นปี 2567 แม้ว่าในระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ โดยอาจผันผวนจากปัจจัยการเมืองและปัจจัยภายนอก ส่วนปี 2568 คาดการณ์ดัชนี 1,550 จุด และปี 2569 คาดการณ์ดัชนีกลับไปที่ระดับ 1,600 จุด
สำหรับครึ่งปีหลังภาพรวมยังคงเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ แม้จะมีการเติบโตที่ไม่เท่ากันจากปัจจัยภายในประเทศที่ต้องเผชิญความท้าทายที่แตกต่างกัน
ขณะที่ความเสี่ยงโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอย (Recession) อยู่ในระดับที่ต่ำแล้ว แต่นักลงทุนยังคงต้องรอดูการเลือกตั้งของหลายประเทศที่สำคัญ และแนวโน้มของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่จะกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในช่วงต่อไป