บทสัมภาษณ์พิเศษ ‘SPRITE’ 3 ปี บนเส้นทางศิลปิน และการกลับมาอีกครั้งของ “ทน (TON)” เพลงฮิตระดับโลกในรูปแบบ Live Session

บทสัมภาษณ์พิเศษ ‘SPRITE’ กับ 3 ปี บนเส้นทางศิลปิน และการกลับมาอีกครั้งของ “ทน (TON)” เพลงฮิตระดับโลกในรูปแบบ Live Session

SPRITE หรือ สไปร์ท ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ เจ้าของเพลงฮิตมากมายทั้ง ไอต้าว, เดียวดาย, KIMINOTO และอีกมากมาย แต่มีเพลงหนึ่งที่คงไม่พูดถึงไม่ได้นั้นก็คือเพลง “ทน (TON)” ที่ร้องคู่กับ GUYGEEGEE เป็นหนึ่งเพลงที่ใครหลาย ๆ รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะแค่เปิดท่อนมาว่า “พี่ไม่มี Louis Vuitton” หลาย ๆ คนก็สามารถร้องตามกันได้อย่างแน่นอน ซึ่งเพลง “ทน (TON)” ถือเป็นเพลงไทยเพลงแรก เนื้อร้องภาษาไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์ในการทะยานขึ้นติดชาร์ตระดับโลกอย่าง  Billboard Global ในอันดับที่ 89 อีกด้วย

และแน่นอนว่าใน 3 ปีต่อมา ‘สไปร์ท’ ปัจจุบันอายุ 18 ปี ได้หยิบเพลง “ทน (TON)” กลับมาเล่นอีกครั้งในรูปแบบของ Live Session ผ่านโปรเจกต์ ‘Here’s to the Dreamers’ ซึ่งเป็นหนึ่งโปรเจกต์จาก ‘Apple’ งานนี้ TODAY Play ไม่พลาดที่ชวน ‘สไปร์ท’ มาทักทายผ่านบทสัมภาษณ์สุดพิเศษ และพูดถึงการเดินทางบนเส้นทางศิลปินตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงผลงานในอนาคต กันค่ะ

“สวัสดีครับ ผมสไปร์ท (SPRITE) นะครับจาก HYPE TRAIN ครับ”

เส้นทางศิลปินตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของ ‘SPRITE’ และความสำเร็จของเพลงฮิตระดับโลก ‘ทน’

“ถือว่าเป็นช่วงโอกาสและจังหวะชีวิตที่สำคัญมากเลยครับ ที่ผมมีโอกาสได้ไปออกรายการ SUPER 10 เพื่อขอเตียงสองชั้น เพราะตอนนั้นบ้านผมน้ำท่วม หลังจากนั้นก็ได้รับโอกาสจากบ้านพี่ NINO ให้ผมเข้าไปเรียนรู้การทำเพลง การทำสตูดิโอ ประกอบกับช่วงนั้น เป็นช่วงที่ผมชอบทำเพลงและเขียนเพลงมาก เลยทำมันมาเรื่อย ๆ จนได้มีโอกาสเข้าไปประกวดรายการ SHOW ME THE MONEY SEASON 2 และได้ตำแหน่งรองแชมป์ เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสที่ผมไม่เคยฝันมาก่อนในชีวิต ผมเริ่มกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนกระทั่งเพลงทน (TON) ในตอนแรกผมยังไม่รู้ว่ามันไวรัล ไม่รู้ว่าบิลบอร์ดคืออะไร จนกระทั่งไปย้อนดู ก็เห็นว่าเพลงมันไปไกลขนาดนี้เลยหรอ ดีใจที่ได้ทำให้คนต่างชาติได้ฟังเพลงผม ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินก็ว่าได้ครับ เพราะทำให้ผมหาเงินได้จากการทำเพลง ครอบครัวอยู่สบายขึ้นตามความฝันที่ตั้งไว้สักที

หลังจากนั้นผมก็รู้สึกว่าผมจะตั้งใจทำเพลงที่จะทำให้ทุกคนได้ฟังในแนวที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รู้จักผมผ่านเพลงมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากเพลงทน ผมก็มีทำเพลงกับพี่ ๆ ในวงการมากมายเลยครับ ซึ่งเป็นโอกาสดีดีที่ผมได้รับ ต้องขอบคุณทุกคนครับที่เห็นบางอย่างในตัวผมและเลือกให้ผมไปฟีทเจอริ่งด้วย นอกจากนี้ผมก็ยังได้ปล่อยเพลงที่ผมคิดว่าเนื้อหาหรือเรื่องที่อยากเล่ามันโตขึ้น จะมี EP ที่ผมทำกับพี่เฟิร์ส (1ST) และเพลงสองล้อไม่ง้อสองรัก ฝากทุกคนไปฟังกันด้วยนะครับ  ตอนนั้นดีใจมาก ๆ ครับและตื่นเต้นด้วยที่ความพยายามของผมสำเร็จเป็นตัวเลขและอันดับที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยครับว่าจะทำได้ รู้สึกเกินจริงไปมากครับ ตรงนี้ก็ต้องขอบคุณพี่ ๆ ทีม HYPE TRAIN ทุกคนที่ช่วยกันทำเพลงนี้ออกมา จำได้ว่าตอนนั้นยุ่งมากเลยครับ ดีใจที่หลายคนชอบและใช้เพลงของผมจนมันไวรัลครับ”

3 ปี กับเส้นทางศิลปิน และความเปลี่ยนแปลง

“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกผมเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากครับ ในฐานะศิลปินผมมีเรื่องที่อยากเล่าเปลี่ยนแปลงไปตลอดครับ แต่ความตั้งใจและฝันของผมยังเป็นฝันเดิมและกล้าที่จะฝันมากขึ้นครับ ในช่วงแรกที่ผมเริ่มทำเพลง เริ่มร้องเพลง เพราะผมอยากจะช่วยที่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนถึงตอนนี้มันก็ยังคงเป็นแบบนั้น แต่ที่เปลี่ยนไปตอนนี้ คือ ผมอยากที่จะให้เพลงของผมเป็นเพื่อนของทุกคน อยากให้คนรู้จักเพลงของผมที่เห็นแล้วรู้ว่านี่แหละคือผม ผมก็คิดว่าสักวันนึงอยากจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองที่เล่นเพลงของผมให้ทุกคนฟัง ผมรู้สึกว่าถ้าผมทำให้ใครคนนึงหายเศร้า มีความสุขจากการฟังเพลงผม เท่านั้นผมถือว่าผมประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินแล้วครับ”

การร่วมงาน ‘Apple’ ในโปรเจกต์ ‘Here’s to the Dreamers’

“Here’s to The Dreamers Project ก็เป็น Project ที่เลือกศิลปินจาก Southeast Asia ของทาง Apple Music ครับ แคมเปญนี้จะยกย่องศิลปินและนำเสนอเรื่องราวการเดินทางของพวกเรา กว่ามาจะถึงทุกวันนีภายใต้ธีมต่างๆ ซึ่งของผมเป็นธีม Humble ครับ โดยโปรเจ็คต้องการที่จะสื่อสารให้ทุกคนกล้าที่จะฝันและหวังว่าเรื่องราวของผมจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังฝันอยู่ว่าสักวันต้องมีวันของเราแน่นอนครับ โดยจะทำ Live Session ซึ่งผมเลือกเพลงทน (TON)  ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมายกับผมมาก ๆ  เพราะเป็นเพลงที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ครับ ซึ่งทั้งนี้ผมก็ต้องขอบคุณ Apple Music ครับที่มองเห็นศักยภาพและเลือกผมเป็นตัวแทนประเทศไทย และขอบคุณต้นสังกัดของผม ขอบคุณพี่ ๆ ทีมงานครับที่คอยผลักดันผมอยู่ตลอดเวลาครับ”

Live Session เพลง ‘ทน’ ที่กลับมาทำใหม่ในรอบ 3 ปี

“ใน Live Session เพลง ทน Version นี้จะมีความแตกต่างออกไปจากเดิมครับ ทั้งในแง่ของภาพและดนตรี  ส่วนในแง่ของดนตรีเพลงนี้จะถูก rearrange ใหม่ทั้งหมด โดยเพิ่มกลิ่นดนตรีความเป็นไทยในจังหวะช้าลง ให้เพลงฟังง่ายมากขึ้นครับ นอกจากนี้ผมยังเขียน Verse ใหม่ขึ้นมา เพื่อบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้าไปฟังใน Apple Music นะครับ

ที่พิเศษไม่แพ้กันเลย คือ ด้านภาพ ผมอยากให้ทุกคนไปดูทาง Apple Music ก่อนครับ และค่อยกลับมาอ่านตรงนี้  เพราะจะได้เข้าใจสิ่งที่อยากจะสื่อมากยิ่งขึ้นครับ ทุกคนจะเห็นว่าผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัดผม ซึ่งตรงนี้ผมต้องการจะสื่อสารเปรียบเรื่องราวของชีวิตกับเก้าอี้ตัดผมครับ ว่าชีวิตคนเราไม่ว่าจะรวยจะจนต้องไปร้านตัดผมกันทุกคน และทุกครั้งที่ไปร้านตัดผม เราจะออกมาเป็นคนใหม่เสมอ แม้ว่าสุดท้ายก็ยังเป็นเราคนเดิมแค่เปลี่ยนแปลงไปครับ เหมือนชีวิตคนเราครับผมในเมื่อ 3 ปีที่แล้ว กับผมในปัจจุบันตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมมีเรื่องที่จะต้องทนมากขึ้นตามบทบาทของช่วงชีวิตครับ”

‘SPRITE’ กับตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้า

“ตัวผมในอีก 5 ปีข้างหน้า อาจจะตอบยากนิดหน่อยครับ เพราะเป็นเวลาที่ค่อนข้างนานเลย และในช่วงเวลาแค่สั้น ๆ คนเราก็เปลี่ยนแปลงไปตลอด ดังนั้นถ้าจะให้ผมตอบว่าเห็นตัวเองยังไงให้ 5 ปีข้างหน้า อาจจะเป็นอะไรที่ผมคิดว่าผมจะทำได้จริงและทำได้แน่นอน คิดว่าคงยังทำเพลงและมีเพลงให้ทุกคนฟังอยู่ครับ เพราะนั้นยังคงเป็นสิ่งที่ผมชอบและฝันมาตลอดชีวิต แต่อาจจะเป็นผมในเรื่องราวใหม่ ๆ บทบาทใหม่ ๆ ครับ จนถึงตอนนั้นผมหวังว่าทุกคนจะยังรอฟังเพลงของผมอยู่เรื่อย ๆ นะครับ”

ข้อความจาก ‘SPRITE’ ถึงแฟน ๆ ที่คอยซัพพอร์ต

“ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบเพลงและผลงานของผมนะครับ ทุกคนมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้ แรงสนับสนุนของทุกคนเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้เพลงของผมยังทำงานตอนถึงตอนนี้ ดังนั้นขอบคุณทุกคนมาก ๆ ครับ”

“ฝากทุกคนติดตาม ทน Live Session Exclusive on Apple Music นะครับ นอกจากนี้ยังมี Essentials Playlist บน Apple Music และจริง ๆ ปีนี้ผมยังมีผลงานเพลงที่จะปล่อยอีกเยอะเลยนะครับ อยากให้ทุกคนรอติดตามกัน นอกจากนี้ฝาก EP MY TYPE ของผมกับ 1ST และเพลงสองล้อไม่ง้อสองรักด้วยนะครับ”