ปฎิเสธไม่ได้ว่ากระแส Mascot Branding กำลังมาแรง ทำให้หลาย แบรนด์ที่เคยมีมาสคอตอยู่แล้วก็จับน้องๆ มาสคอตมาแต่งตัวใหม่ เพิ่มการรับรู้ให้กับแบรนด์และเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
เช่นเดียวกับ Sizzler ที่ต้องการล้างภาพลักษณ์แบรนด์เก่าแก่ สู่แบรนด์ที่เข้าถึงได้ จึงลงมาปั้นแบรนด์เลิฟผ่าน Mascot Branding ในชื่อ ‘น้องชีสโทสต์’ ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูชีสโทสต์ที่เป็นเมนูยอดฮิต
[ แต่งตัวน้องชีสโทสต์ใหม่ ให้น่ารักดูเข้าถึงได้มากขึ้น ]
‘อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์’ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (Sizzler) ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า เดิมทีแล้วแทบจะทุก ร้านอาหารมีมาสคอตเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ Sizzler ที่มีน้องชีสโทสต์เป็นมาสคอตมาตั้งแต่แรก
ทว่าปัจจุบันนั้นกระแสของ Mascot Branding มาแรงทำให้ Sizzler หยิบน้องมาแต่งตัวใหม่จากเดิมที่ดูผอมๆ ดูมีความจริงจัง ก็มาปรับเปลี่ยนชุดใหม่ให้มีลักษณะที่ดูน่ารักพองลมเข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กวัยรุ่น Gen Z
และไหนๆ ก็เอามาสคอตมารีแบรนด์ใหม่แล้ว ก็ทำสินค้า Merchandise ของน้องชีสโทสต์ออกมาขายเอาใจลูกค้าเพิ่มไปด้วยเลย ซึ่งในปีที่แล้วก็ลองออกหมอนน้องชีสโทสต์มา ทำยอดขายไปราวๆ 1 ล้านบาท ในปีนี้ก็ส่งสินค้า Merchandise 4 อย่าง อาทิ พวงกุญแจ กระเป๋า หมอน อาร์ตทอยกล่องจุ่มล้อไปกับกระแสของนักจุ่ม ตั้งเป้าปีนี้รายได้จากสินค้า Merchandise ราวๆ 3 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังจัดแคมเปญ ‘Cheese Toast Funderland’ ตลอดเดือน ก.ย. นี้ผ่านการออกเมนูชีสโทสต์ต่างๆ รวมถึงจัดบุฟเฟ่ต์กินชีสโทสต์ไม่อั้นเพิ่มแค่ 20 บาทอีกด้วย
[ ลบภาพจำร้านสลัด เน้นสร้างรอยัลตี้แบรนด์ ]
ในส่วนภาพรวมของธุรกิจ Sizzler ปีนี้ตั้งเป้าจะขยายเรนท์ราคาอาหารและความหลากหลายของเมนูให้คุ้มค่ากับผู้บริโภค และตั้งเป้าจะมีลูกค้าเป็นรอยัลแบรนด์ผ่านการสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น
‘จีรณา เจริญวัฒนะโพธิ์แก้ว’ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด (sizzler) เล่าให้ฟังว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาแบรนด์เน้นโปรโมทเปลี่ยนภาพลักษณ์ว่า ไม่ใช่แค่ ‘ร้านสลัด’ แต่ Sizzler ยังมี ‘สเต็ก ชีสโทสต์’ ด้วย โดยเฉพาะกับชีสโทสต์ที่ถือเป็นเมนูยอดฮิตอันดับต้นๆ เฉลี่ยแล้วลูกค้าจะทานคนละ 1 ชิ้น หรือคิดคร่าวๆ ว่าปีนึงเสิร์ฟไปแล้ว 9 ล้านชิ้น สะท้อนแล้วว่ากลุ่มลูกค้าถูกใจชีสโทสต์อยู่ไม่น้อย
อีกทั้ง แบรนด์พยายามสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น โดยตอนนี้เริ่มทำการตลาดผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ อาทิ TikTok YouTube และแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อขยายการรับรู้สู่กลุ่มผู้บริโภค Gen Z และกลุ่มครอบครัว
นอกจากนี้ แบรนด์ยังต้องการสร้างรอยัลตี้เมมเบอร์ให้มากขึ้น ให้ลูกค้ามาเป็นสมาชิกเพิ่ม เพื่อรับโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่มสมาชิก ตัวอย่างเช่น ปีที่แล้วแคมเปญสลัดบาร์จากราคาเต็ม 199 บาทแต่ถ้าหากเป็นสมาชิกก็ได้รับราคา 159 บาท กระแสตอบรับดีมากเห็นการเติบโตของกลุ่มเมมเบอร์ได้ชัดขึ้น
โดยต้นปี 2023 มีประมาณเมมเบอร์ประมาณ 200,000 คน ตอนนี้ (กลางปี 2024) มีราวๆ 700,000 คน พร้อมทั้งยอดขายส่วนใหญ่ของแบรนด์ก็มาจากกลุ่มเมมเบอร์ 30% และมีการเติบโตของกลุ่มลูกค้าอีก 25% YOY
นอกจากนี้ Sizzler ยังบอกอีกว่าไม่เน้นขายลดราคา แต่จะเน้นปรับราคาลง เพื่อต้องการขยายช่วงราคาและเพิ่มเมนูให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น เช่น มีราคา 100- 300 บาท ให้กลุ่มพนักงานออฟฟิศได้เข้าถึงง่ายมากขึ้นแทน