ย้อนไปเมื่อปี 2018-2020 คดีสุดสะเทือนใจชาวเกาหลีใต้ทั้งประเทศ รวมถึงทั่วโลก คือคดีที่มีชื่อว่า Nth Room ห้องแช็ตออนไลน์ในแอป Telegram ที่ขายรูปและคลิปอนาจาร แบล็คเมล์ ค้ามนุษย์ ล่วงละเมิดทางเพศ และแสวงหาประโยชน์จากผู้หญิง และยังเป็นจุดกำเนิดของห้องแช็ตเลียนแบบชื่อ Doctor’s Room ที่พบเหยื่อผู้หญิงกว่า 103 รายที่ 26 รายในนั้นเป็นเพียงเยาวชน ถูกเผยแพร่รูปและคลิปที่ถูกทำทารุณกรรมทางเพศ และถูกบังคับให้ถ่ายคลิปตัวเองส่งให้กับผู้ใช้บัญชีกว่า 60,000 ราย
แม้ว่าตัวการเจ้าของห้องแช็ตที่เป็นดั่งนรกในโลกออนไลน์จะถูกจับแล้วทั้งสองคน แต่โชคร้ายของผู้หญิงเกาหลีใต้ยังไม่จบลงง่ายๆ
ล่าสุดมีการแชร์โพสต์ในโซเชียลมีเดียถึงรายชื่อโรงเรียนที่พบนักเรียน และนักศึกษาผู้หญิงที่ถูกนำรูปไปตัดต่อเชิงอนาจารด้วยเทคโนโลยี AI ที่เรียกว่า Deepfake (ปลอมแปลงรูป คลิป เสียงให้เหมือนบุคคลนั้นๆ โดยที่เจ้าของรูปไม่ยินยอม) ที่เรียกได้ว่าสะเทือนระบบการศึกษาของเกาหลีใต้เลยก็ว่าได้ เพราะสถาบันการศึกษาทั้งโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลาย และมหาวิทยาลัยชื่อดังกว่าหลายร้อยสถาบัน มีเด็กผู้หญิง รวมถึงครูผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อในการถูกนักเรียนชาย และแม้กระทั่งครูผู้ชายแอบถ่ายรูป เพื่อนำไปตัดต่อกับภาพและคลิปอนาจารด้วยเทคโนโลยี Deepfake ใน Telegram จนบางสถาบันออกมาเตือนนักเรียนหญิงโดยเฉพาะว่า “อย่าโพสต์ภาพเซลฟี่ของตัวเองลงโซเชียลมีเดีย”
ห้องต่างๆ ใน Telegram ที่ผู้ใช้รวมกว่า 220,000 คน ถูกแบ่งย่อยออกไปตามประเภทของรูป เช่น ห้องแม่ ห้องพี่สาว ห้องน้องสาว ห้องลูกพี่ลูกน้อง ห้องคนรู้จัก ฯลฯ โดยการเผยแพร่รูปแอบถ่ายในลักษณะที่ไม่เหมาะสมและไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ถูกถ่ายเหล่านี้ พวกเขาทำไปเพื่อแลกกับการมีสิทธิ์เข้าใช้ห้องแช็ต Deepfake ที่ทุกคนสามารถโยนไฟล์รูปผู้หญิงลงไป แล้ว AI ในห้องแช็ตนั้นจะสร้างสื่ออนาจารในรูปแบบต่างๆ ด้วย Deepfake จากรูปผู้หญิงคนนั้นๆ ออกมาได้ภายในไม่กี่วินาที
ผู้ใช้บริการจะได้รับสิทธิ์ในการดัดแปลงรูปฟรี 2 รูป หลังจากนั้นต้องจ่ายค่าบริการผ่าน “เพชร” สนนราคารูปละ 1 เพชร (0.49 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 16.75 บาท) โดยจะบังคับซื้อขั้นต่ำ 10 เพชร และราคาของเพชรจะถูกลงหากซื้อในปริมาณมาก หากชวนเพื่อนเข้าห้องมาเพิ่มก็จะได้รับเพชรฟรี และการซื้อเพชรต้องชำระผ่านเงินคริปโตเท่านั้น
ช่วง 7 เดือนแรกของปี 2024 พบว่ามีคดีเผยแพร่ภาพและคลิปอนาจารที่ตัดต่อด้วยเทคโนโลยี Deepfake กว่า 297 คดี และกว่า 95.8% ของผู้กระทำผิดเป็นผู้ชายที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ตั้งแต่สิบกว่าไปจนถึงยี่สิบกว่าปีทั้งสิ้น
ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา เรียกร้องให้มีการสอบสวนคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการตัดต่อและเผยแพร่ภาพจาก Deepfake อย่างจริงจัง และเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความรู้กับประชาชนเพื่อเป็นการเตือนภัย รวมถึงภาคประชาสังคมก็ออกมาผลักดันให้อาชญากรรมจาก Deepfake เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องได้รับการแก้ไขปัญหาโดยด่วน
การสร้างภาพลามกอนาจารโดยใช้เทคโนโลยี Deepfake และมีเจตนาเผยแพร่ มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับ 50 ล้านวอน (ประมาณ 1.28 ล้านบาท) ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันความรุนแรงทางเพศและคุ้มครองผู้เสียหายของเกาหลีใต้
อ้างอิง: