SHARE

คัดลอกแล้ว

หลายธุรกิจมักจะพูดว่า ‘โลจิสติกส์สำคัญ’ แต่บางทีก็ไม่ได้ขยายความชัดว่า แล้วมันสำคัญอย่างไร หรือมีผลต่อการเติบโตในเชิงตัวเลขธุรกิจมากขนาดไหน ซึ่งล่าสุด KCG ธุรกิจคุ้กกี้กล่องแดง ชีส-เนยของคนไทย ทุ่มเงินกว่า 350 ล้านบาทเพื่อสิ่งนี้ เพราะอะไรกัน?

 

[ จากกิมจั๊วพาณิชย์ สู่ธุรกิจสินค้า 2,000 รายการ 50 แบรนด์ ]

เมื่อก่อนชื่อเดิมของ KCG คือ กิมจั๊วพาณิชย์ ก่อตั้งธุรกิจขึ้นในปี 2501 หรือ 66 ปีที่ผ่านมา โดย ‘วิจัย วิภาวัฒนกุล’ และน้องชายก็คือ ‘ตง ธีระสรณ์นุกิจ’ (เราจะเห็นหน้ากันอยู่บ่อยๆ)

โดยเริ่มแรกในชื่อเดิมก็ทำธุรกิจด้านการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย สินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศอยู่แล้ว และสินค้าแรกที่นำเข้าสมาก็คือ ‘เนย’ ที่ชื่อว่า ‘อลาวรี่’ (Allowrie) จากประเทศออสเตรเลีย จากนั้นก็เติมพอร์ตสินค้าเข้ามาเรื่อยๆ จนมีคุ้กกี้กล่องแดง ‘อิมพีเรียล’ คุ้กกี้คนไทยรสชาติสากลนั่นเอง

แต่เราไม่ต้องย้อนเรื่องราวประวัติกันให้เหนื่อย เพราะในปัจจุบัน KCG มีสินค้าในพอร์ตมากกว่า 2,000 รายการภายใต้ 50 แบรนด์ด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ซันควิก’ น้ำผลไม้เข้มข้นที่มียอดขายในไทยกว่า 800,000 ขวดต่อปี

KCG ตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุลเป็น ‘มหาชน’ เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 โดยมีเป้าหมายเป็นองค์กรที่สร้างสรรค์ความรื่นรมย์ให้กับการทานอาหารของคนไทย รวมทั้งเพื่อผลิตวัตถุดิบที่ดีให้กับคนที่รักในการทำอาหารและขนมเป็นชีวิตจิตใจ

1 ปีเต็มที่ KCG ใช้เวลาในการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งรื้อโครงสร้างระบบภายใน และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ รวมถึงการใช้ data ในการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น DNA เหล่านี้ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน ปี 2566 มียอดขายรวม 7,157.0 ล้านบาท เติบโต 16.2%

โดยมีกำไรสุทธิ 305.9 ล้านบาท เติบโต 26.9% ทั้งกำไรสุทธิและรายได้จากการขายถือว่าเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 66 ปี นับตั้งแต่ที่ก่อตั้งธุรกิจมา

แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลักของ KCG ได้ 3 ประเภท ก็คือ

  • ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) ยอดขาย 4,086.5 ล้านบาท เติบโต 15.0% 
  • ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และอื่นๆ (FBI) มีรายได้ 2,061.1 ล้านบาท เติบโต 15.3% 
  • ผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits) มีรายได้ 1,009.3 ล้านบาท เติบโต 23.9%

โดยเป็นรายได้จาก B2C มากสุดประมาณ 3,938.6 ล้านบาท โตถึง 17.7% ตามด้วย B2B รายได้ราวๆ 2,892.7 ล้านบาท และยอดส่งออกที่ตอนนี้ยังน้อยอยู่ ประมาณ 325.7 ล้านบาท

 

[ สนใจตลาดแอฟริกาใต้ – ตะวันออกกลาง ]

ด้วยความที่ตัวเลขรายได้ของ ‘การส่งออก’ มันยังน้อยมาก ๆ ทั้งที่ KCG เป็นเจ้าใหญ่ในตลาดไทย ทั้งเป็นเบอร์หนึ่งของสินค้าเดลี่ เบอร์ต้นๆ ของอาหารและเบอเกอรี่ แล้วก็อยู่ใน Top 3 ของสินค้าประเภทบิสกิต

‘ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า “ตอนนี้หลัก ๆ เราบุกตลาดอาเซียน ก็คือ CLMV ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วก็มาเลเซีย ญี่ปุ่น แต่ถามว่าตลาดไหนที่สนใจและอยากจะลองศึกษา ก็คงเป็นทวีปแอฟริกาทางตอนใต้ และก็ตะวันออกกลาง เพราะมูลค่าตลาดน่าสนใจ จำนวนประชากร และกำลังซื้อ”

ในเมื่อเป้าหมายใหญ่ที่สุดของ KCG นับจากนี้ไปอีก 3-5 ปี คือการบรรลุตัวเลขรายได้สูงถึง 10,000 ล้านบาท ใช้ชื่อเรียกได้เต็มปากว่าเป็นธุรกิจหมื่นล้าน ดังนี้ ‘KCG Logistics Park’ จึงเป็นหนึ่งในกระดูกสันหลังของธุรกิจให้ไปถึงเป้าหมายนั้น

 

[ 350 ล้านบาทที่ลงทุนไป ได้อะไรกลับมา? ]

ในงบประมาณก่อสร้าง ‘KCG Logistics Park’ ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแห่งใหม่ กับเม็ดเงิน 350 ล้านบาท เป็นการซัพพอทเป้าหมายโต 10,000 ล้านบาทเต็มที่ของ KCG

ซึ่งตอนนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมียอดขายรวม 1,688.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% และมีกำไรสุทธิ 94.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สินค้าในทุกพอร์ตฟอลิโอมีการเติบโต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) มียอดขาย 1,022.6 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.6% ถือเป็นยอดขายอันดับ 1 ในตลาด ส่วนตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับประกอบอาหารและเบเกอรี่ รวมทั้งตลาดบิสกิต ก็ทำยอดขายสูงสุดติด 5 อันดับแรกเช่นกัน

การเติบโตสวนทางเศรษฐกิจในประเทศ KCG มองว่า หากระบบการขนส่งและการจัดเก็บสินค้าเชื่อมโยงกัน ทำให้คุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำเหมือนเดิมเป๊ะๆ ปัจจัยนี้จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ เพราะปัจจุบันมีดีมานด์สูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การเปิดใช้ KCG Logistics Park เพิ่มเติมจาก 3 สาขาเดิม ที่จ. เชียงใหม่, ขอนแก่น และสุราษฏร์ธานี จะทำให้โปรดักส์ของ KCG ครอบคลุมการให้บริการทั้ง 76 จังหวัด จนสามารถส่งมอบสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้ภายใน 1 วัน

จากสิ่งที่ KCG เปิดเผยเกี่ยวกับ Logistic Park เราสรุปมาให้เข้าใจง่ายๆ แบบไม่อินดีเทลมากด้วยศัพท์แสงทางเทคนิค ก็คือ

  • หลังคาทั้ง 6 อาคารที่จะเป็นพลังงานโซลาร์
  • รถบรรทุกส่งของที่เป็นรถไฟห้า (EV) ซึ่งมีเป้าก็คือ 30% ใน 3 ปี (ตอนนี้เป็นปีที่2 ซึ่งมี 12-16 คัน)
  • พลาสติกพาเลทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่แข็งแรงและรับน้ำหนักได้เยอะ
  • การจัดเก็บแบบควบคุมอุณหภูมิ (Temperature-Controlled Storage) ซึ่ง KCG เป็นผู้นำอันดับ 1 ในด้านการจัดเก็บ และการขนส่ง แบบควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเต็มรูปแบบ (Cold Chain Logistics)
  • ใส่ใจเรื่องการควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทก็คือ 1. Ambient 2. Air Con (18°C to 22°C) 3. Chilled (0°C to 8°C) และ 4. Frozen (-18°C) (-25°C) เพราะสินค้าแต่ละตัวจะใช้อุณหภูมิแตกต่างกันในการรักษาคุณภาพ
  • เป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณปีละ 1,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าได้กับการปลูกต้นไม้กว่า 120,000
  • ใช้รถโฟล์คลิฟที่ใช้แบตเตอรี่ลิเทียม
  • ใช้ระบบ Backhual Matching ปรับเส้นทางเดินรถ เพื่อไม่ให้ตีรถเปล่ากลับเข้าศูนย์ฯ เพื่อลดต้นทุน

นี่เป็นเพียงบางตัวอย่างที่ KCG เล่าให้ฟังและพาสื่อมวลชนไปเยี่ยมชม ซึ่งแพลนที่วางไว้นั้นอย่างน้อยๆ จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณปีละ 10 ล้านบาท และหากเป็นเช่นนั้น เป้าการเติบโตแตะ 10,000 ล้านบาทก็ไม่น่าไกลเกินเอื้อม

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า