SHARE

คัดลอกแล้ว

โลกกำลังเผชิญสภาวะสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ซึ่งกระทบทุกภาคส่วน ภาคธุรกิจทั้งไทยและทั่วโลกต้องปรับตัวหันมาสนใจในเรื่องของ Sustainability หนึ่งในนั้นคือ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “โคคา-โคล่า” ได้เดินหน้าชูนวัตกรรมพร้อมแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อโลกและสังคม ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องดื่มตัวจริง

ในโอกาสครบรอบ 65 ปี  ไทยน้ำทิพย์ ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “โคคา-โคล่า” โดยได้รับสิทธิ์รับผิดชอบ 63 จังหวัด ทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ ได้เปิดโรงงานไทยน้ำทิพย์ ปทุมธานี หนึ่งในห้าโรงงานใหญ่ที่ผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดัง จาก “โคคา-โคล่า” โชว์ศักยภาพกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ด้วยมาตรฐานระดับโลก และนวัตกรรมดำเนินงานด้านความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเดินหน้าส่งมอบความสดชื่น และสร้างคุณค่าให้สังคมไทย

ไทยน้ำทิพย์ ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่ไม่ใช่เพียงแค่เป้าหมายในเชิงธุรกิจ แต่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน โดยเชื่อมโยงกันผ่าน 3 เสาหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจเพื่อให้เกิดความยั่งยืน คือ การดูแลรักษาทรัพยากรน้ำ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน  ผ่านการวางแผนกลยุทธ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ทันสมัยและตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การขนส่ง จนถึงมือผู้บริโภค

[ 3 หัวใจหลัก เพื่อความยั่งยืน ]

ปุณฑริกา สุสัณฐิตพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ องค์กรสัมพันธ์ การสื่อสาร และความยั่งยืน บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ไทยน้ำทิพย์  มีกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ และสังคม โดยในแต่ละด้านมีเป้าหมายและโร้ดแมปจนถึงปี พ.ศ. 2573 แผนงานด้านความยั่งยืนยังถูกผนวกในแผนดำเนินธุรกิจ นับตั้งแต่ด้านทรัพยากรบุคคล การกำกับดูแลกิจการ ไปจนถึงด้านซัพพลายเชน ซึ่งแผนงานด้านความยั่งยืนให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลัก คือ การจัดการน้ำ การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน”

เทอดพงษ์ ศิริเจน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านคุณภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และบรรจุภัณฑ์ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า “ไทยน้ำทิพย์ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่ทันสมัยมาใช้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด ปัจจุบัน ไทยน้ำทิพย์ มีโรงงานผลิตทั้งหมด 5 แห่ง ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้มาตรฐานระดับโลก วมถึงได้รับการยกย่องในระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคใต้ ในด้านการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม

1. “Water” การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

น้ำถือเป็นหัวใจสำคัญในทุกผลิตภัณฑ์ ไทยน้ำทิพย์ จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้กลยุทธ์ 3R

(Reduce, Reuse, Recycle) ในกระบวนการผลิต ด้วยการ ลด (Reduce) ปริมาณการใช้น้ำ โดยหนึ่งในนวัตกรรมที่ทำมาใช้คือแอปพลิเคชัน “บำรุง” ที่พัฒนาโดยบริษัทไทย นำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต รวมถึง บำบัด (Recycle) น้ำที่ผ่านการใช้งานแล้ว เช่น ติดตั้งระบบ Membrane Bio Reactor บำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีระบบ R.O. (Reverse Osmosis) เพื่อนำน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดจนสะอาดได้มาตรฐาน กลับมาใช้ใหม่  ในขั้นตอนการผลิต (ไม่ใช่วัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องดื่ม)  ซึ่งระหว่างปี พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 โรงงานไทยน้ำทิพย์ทั้ง 5 โรงงาน สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 907 ล้านลิตร สะท้อนถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม

2. “Climate” เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ไทยน้ำทิพย์มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดภายในกระบวนการผลิต ซึ่งปัจจุบันมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานไทยน้ำทิพย์ครบทั้ง 5 แห่ง คือ โรงงานรังสิต โรงงานปทุมธานี โรงงานนครราชสีมา โรงงานขอนแก่น และโรงงานลำปาง ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานสะอาดรวม 12.6242 MWp คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงาน นอกจากนี้ยังมีการนำรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในรถยกสินค้า (EV Forklift) ในคลังสินค้า และรถขนส่งสินค้า (EV Truck) อีกด้วย พร้อมนำระบบ Telematics มาใช้บริหารจัดการการขนส่ง ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกล้อง AI ช่วยมอนิเตอร์ความเสี่ยงของพฤติกรรมการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงานขับรถ ในปี พ.ศ. 2566 สามารถลดการใช้พลังงานได้ 34.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

3. “Packaging” สร้างวงจรปิดของบรรจุภัณฑ์

ไทยน้ำทิพย์ สนับสนุนวิสัยทัศน์ระดับโลก “World Without Waste” ของ “โคคา-โคล่า” ที่มีเป้าหมายที่จะพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2568 และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกโดยใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 50% รวมถึงช่วยเก็บรวบรวมและรีไซเคิลขวดหรือกระป๋องในจำนวนเทียบเท่ากับที่จำหน่ายภายในปี 2573

เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย “World Without Waste” ไทยน้ำทิพย์ให้ความสำคัญกับ 3 แนวทาง คือ

– ลด (Reduce) การใช้บรรจุภัณฑ์ด้วยการลดปริมาณพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ผ่านการ lightweight โดยยังคงรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ไทยน้ำทิพย์สามารถลดการใช้พลาสติกลงได้กว่า 7,645 ตัน เมื่อเทียบกับการผลิตบรรจุภัณฑ์ปกติ

– ออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Redesign) เพื่อให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% และใช้วัสดุรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์อย่างน้อย 50% ภายในปี พ.ศ. 2573  นอกจากนี้ไทยน้ำทิพย์ได้เปลี่ยนขวด “สไปรท์” จากขวดสีเขียวเป็นขวดใส เพื่อเพิ่มความสามารถในการนำบรรจุภัณฑ์กลับไปรีไซเคิล

– สนับสนุนการจัดเก็บและรีไซเคิลขวดพลาสติกและกระป๋องที่ใช้แล้ว (Collection & Recycling) เพื่อสร้างวงจรปิดของบรรจุภัณฑ์ โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน และองค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลขยะพลาสติกในประเทศไทย และกระตุ้นให้ผู้บริโภครับรู้และมีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับบรรจุภัณฑ์

ตั้งแต่ปี 2566 ไทยน้ำทิพย์ ร่วมกับ “โคคา-โคล่า” เปิดตัวขวด “โค้ก” ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 100% (ไม่รวมฉลากและฝา) หรือ Recycled PET (rPET)  ในบรรจุภัณฑ์ขนาด 1 ลิตร และปีนี้ได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขนาด 300 มิลลิลิตร และ 510 มิลลิลิตร เพิ่มเติม ที่วางขายแล้วในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านสะดวกซื้อทั่วไป

โดยไทยน้ำทิพย์ได้ปรับสายการผลิตให้รองรับการผลิตขวด ที่ทำจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหารได้อย่างปลอดภัย (Food Contact Grade) และเป็นไปตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐานระดับโลกของ “โคคา-โคล่า” โดยมีแผนงานในการเพิ่มสัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิล (rPET) ในทุก ๆ ปีตามโร้ดแม็ป

ไทยน้ำทิพย์ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อลูกค้า ชุมชน และสิ่งแวดล้อม  ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://www.thainamthip.co.th/

#SupportedbyCocaCola

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า