มัลแวร์เรียกค่าไถ่พุ่ง ข้อมูลรั่วไหล 81% องค์กรธุรกิจเร่งรับมือความปลอดภัยยุคดิจิทัล 

องค์กรธุรกิจตอนนี้จะนิ่งเฉยไม่ได้ เพราะมัลแวร์โหดๆ ถูกออกแบบมาให้โจมตีองค์กรทั่วโลก โดยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) พุ่งสูงขึ้น มีอัตราการโจมตีสูงถึง 22% ต่อสัปดาห์ และ 71% ขององค์กรที่ถูกโจมตีไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้สมบูรณ์ ส่งผลให้องค์กรต่างๆ เผชิญความเสียหายอย่างมหาศาล

โดยเรื่องนี้ได้รับการบอกเล่าจาก ‘รหัท บุญตันจีน’ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology) ว่า ปัจจุบันมี 2 เทรนด์สำคัญ ที่กำลังมีอิทธิพลต่อองค์กรทั่วโลก เทรนด์แรก คือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การโจมตีทางไซเบอร์โดยเฉพาะ Ransomware ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก มีอัตราการโจมตีเฉลี่ยต่อองค์กรเพิ่มขึ้น ทำให้องค์กรใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการกู้คืนข้อมูล แม้องค์กรที่ยอมจ่ายค่าไถ่ก็ไม่สามารถรับประกันการกู้คืนข้อมูลได้ทั้งหมด

จากสถิติพบว่า 71% ขององค์กรที่ถูกโจมตีไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้สมบูรณ์ ทำให้การมีระบบปกป้องข้อมูลที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ กลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์

อีกเทรนด์คือองค์กรทั่วโลกหันมาใช้ระบบ On-premise Productivity Tools ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร ซึ่งถูกติดตั้งและใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์หรือคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรเอง แทนการใช้ออนไลน์ผ่านคลาวด์ (cloud-based services) เพื่อการปกป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้มากขึ้น

‘รหัท บุญตันจีน’ เล่าว่า ในยุคดิจิทัลองค์กรต่างๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล การจัดการทรัพยากรด้านไอที และความต้องการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการนำ AI มาเป็นตัวเสริมศักยภาพการทำงาน Synology เปิดตัว 4 โซลูชันใหม่ ในปี 2024 ออกแบบเพื่อการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลอย่างครบวงจร นำ AI เข้ามาช่วยยกระดับการจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรในยุคดิจิทัลอย่างตรงจุด

โดยโซลูชันไฮไลท์ปี 2024 คือ

1.โซลูชัน การจัดเก็บและการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ช่วยให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพในยุคที่ข้อมูลเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

2.โซลูชันป้องกันข้อมูล ช่วยให้การปกป้องข้อมูลง่ายขึ้น รองรับการปกป้องเซิร์ฟเวอร์ได้มากถึง 2,500 เครื่อง ในหลายไซต์ทั่วโลก ด้วยนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลที่ครอบคลุม พร้อมระบบสำรองข้อมูลที่ช่วยลดการทำข้อมูลซ้ำและเพิ่มประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูล

3.โซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังและเตือนภัยครบวงจร ช่วยให้การจัดการระบบเฝ้าระวังในหลายสถานที่เป็นเรื่องง่ายขึ้นจากศูนย์ควบคุมเดียวช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการภาพจากกล้องในหลายเซิร์ฟเวอร์ได้ผ่านพอร์ทัลเดียว พร้อมกับ AI Feature ที่จะช่วยให้การเฝ้าระวังทรัพย์สินของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น ในงานนี้ยังมีการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ ที่ถูกพัฒนาเพื่อลดความซับซ้อนในการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ ช่วยให้การตั้งค่าและการใช้งานระบบเฝ้าระวังง่ายขึ้น

4. Productivity with AI โซลูชันการทำงานร่วมกันแบบครบวงจรที่รวมเครื่องมือต่างๆ เช่น Synology Drive, Synology Office, MailPlus, และ Chat ซึ่งรวมกับ Synology AI Console เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทีมภายในองค์กรที่สามารถใช้งานได้ช่วยให้การทำงานร่วมกันและการสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น มีความปลอดภัยเต็มประสิทธิภาพและองค์กรเป็นเจ้าของข้อมูล 100%

‘รหัท บุญตันจีน’ กล่าวว่า Synology มั่นใจในศักยภาพของตลาดประเทศไทย เห็นโอกาสการเติบโตจากการขยายตัวของธุรกิจดิจิทัล รวมถึงการเร่งผลักดันโครงการ Digital Transformation จากหน่วยงานภาครัฐ โดยหลังประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตถึง 150% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และคาดปีนี้จะมียอดขายแตะ 45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้