ส่งต่อ ‘มรดกธุรกิจ’ ด้วย Passion สู่ความสำเร็จระดับโลก จาก เดอะวิสดอมกสิกรไทย

เรื่องราวเอ็กซ์คลูซีฟของธุรกิจครอบครัวระดับโลกที่เต็มด้วย Passion ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดย เดอะวิสดอมกสิกรไทย

TODAY Bizview มีโอกาสได้ร่วมในงาน THE WISDOM GALA DINNER: The Legends to the New Eras โดย เดอะวิสดอมกสิกรไทย ซึ่งสร้างสรรค์ความพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ ด้วยการเรียงร้อยเรื่องราวการถ่ายทอด บ่มเพาะประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่นในหลากหลายมิติของแบรนด์ธุรกิจครอบครัวชั้นนำที่สามารถต่อยอดขยายธุรกิจจนประสบความสำเร็จในระดับโลก โดยมี ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ให้การต้อนรับแขกคนสำคัญ เดอะวิสดอมกสิกรไทย

ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย

ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน

Exclusive Talk Show: Legacy Beyond Boundaries

เรื่องเล่าประวัติศาสตร์อาณาจักรแบรนด์ดังระดับโลกที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ที่ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน เรียบเรียงขึ้นสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ กับวิถีการเติบโตของธุรกิจครอบครัวจากรุ่นบุกเบิกสู่โลกยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21

ดร.วิทย์ เล่าว่า Family Business หรือธุรกิจครอบครัว มีอยู่ทุกภูมิภาคทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี บางท่านอาจคิดว่าธุรกิจครอบครัวจะถูกจำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มีความทันสมัยมากนัก แต่ความเป็นจริงแล้ว ธุรกิจระดับโลกในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วก็ยังคงมีความเป็นธุรกิจครอบครัวอีกมากมาย

เริ่มต้นกันที่ภูมิภาคเอเชีย

เกาหลี

Samsung บริษัทเทคโนโลยีที่เริ่มต้นจากการทำธุรกิจปลาแห้ง และขยับเข้าไปสู่ธุรกิจขนส่งยุทธภัณฑ์ให้กับทหารสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเกาหลี หลังจากนั้นส่งต่อธุรกิจสู่ทายาทรุ่นที่ 2 พลิกธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่เริ่มจากการผลิตมือถือและโทรทัศน์ และทายาทรุ่นที่ 3 ก็ยังไม่หยุดพัฒนาต่อ ทำให้ตอนนี้ Samsung เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการผลิต Chip and Semiconductor ขนาดใหญ่ของโลก จะเห็นได้ชัดว่าอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โครงสร้างธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น ก็ยังเป็นแกนหลักของการดำเนินธุรกิจของพวกเขา

อินเดีย

อีกหนึ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก อินเดียเป็นประเทศที่มีธุรกิจครอบครัวสัดส่วนค่อนข้างสูง หากดูข้อมูลบริษัท 10 อันดับแรกที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในอินเดีย จะพบว่ามีถึง 9 ใน 10 บริษัทที่เป็นธุรกิจครอบครัว โดยบุคคลที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชีย คือ Mukesh Ambani ผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจหลายด้านในอินเดีย ตั้งแต่ค้าปลีกไปจนถึงธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ปัจจุบันส่งต่อธุรกิจให้กับทายาทรุ่นลูกรับช่วงต่อ

จีน

เป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไม เราจึงไม่ค่อยได้ยินธุรกิจครอบครัวในจีน สาเหตุหลักมาจากจีนยุคใหม่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1978 ในยุคที่ผู้นำรุ่นที่ 2 เติ้ง เสี่ยวผิง ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ มีการเปิดประเทศพร้อมกับพลิกเศรษฐกิจจีนให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง โครงสร้างของเศรษฐกิจจีนจึงแตกต่างออกไป

มาดูกันต่อที่ฝั่งสหรัฐอเมริกา

ในปี 1831 ภายหลังการคิดค้นต้นแบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของไมเคิล ฟาราเดย์ ส่งผลให้เกิดธุรกิจขึ้นมากมาย และสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ อย่าง Walmart ผู้ก่อตั้งคือ Sam Walton ปัจจุบันส่งต่อธุรกิจให้ทายาทรุ่นที่ 3 เป็นผู้ดูแล

Cargill อุตสาหกรรมผลิตไก่แช่แข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สัญชาติอเมริกา เป็นตระกูลที่สืบทอดอุตสาหกรรมนี้มาแล้ว 5 รุ่น

ยุโรป

ซูเปอร์มาร์เก็ต Aldi รายใหญ่ของเยอรมนี ที่เน้นขายสินค้าราคาถูกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตโดยทั่วไป มาจากตระกูล Albrecht ที่ปัจจุบันทายาทรุ่นที่ 3 บริหารจัดการต่อ

Stella Artois โรงหมักเบียร์ในเบลเยี่ยม ปัจจุบันทายาทรุ่นที่ 4 เป็นผู้สืบทอดธุรกิจ

เครือ LVMH ของ Bernard Arnault มหาเศรษฐีและเป็นเจ้าของอาณาจักรของแบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลก ปัจจุบันเขาได้แบ่งบทบาทหน้าที่การบริหารธุรกิจให้กับลูกทั้ง  5 คนอย่างชัดเจน

ในขณะที่ธุรกิจบางแห่ง ทายาทมีความรักและความผูกพันกับธุรกิจที่บรรพบุรุษสร้างตำนานไว้ โดยยังคงเป็นเจ้าของกิจการและสามารถสืบทอดกิจการส่งต่อมาหลายรุ่น ตัวอย่างเด่นชัดคือ ‘Hermès’ เป็นธุรกิจครอบครัวที่ผ่านการบริหารงานจากลูกหลานมาแล้วถึง 6 รุ่น จากจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1837 เป็นธุรกิจผลิตอานม้าและบังเหียน ที่ได้รับความนิยมในหมู่ราชวงศ์และชนชั้นสูงในฝรั่งเศส

แบรนด์ CHANEL ยังคงธุรกิจในรูปแบบบริษัทเอกชนที่ไม่ได้อยู่ในเครือแบรนด์แฟชั่นนับตั้งแต่ Coco Chanel ก่อตั้งร่วมกับ Pierre Wertheimer ซึ่งเป็นปู่ของ Gerard Wertheimer ทายาทรุ่นที่ 3 ของครอบครัวและเขายังคงสถานะเป็นเจ้าของแบรนด์ CHANEL ในปัจจุบัน

ในขณะที่แบรนด์นาฬิกาหรู Panerai ที่มีจุดเริ่มต้นในเมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี ผลิตนาฬิกาให้กับกองทัพเรือ ได้เปลี่ยนผ่านธุรกิจมาอยู่ในการบริหารของกลุ่ม Richemont สวิตเซอร์แลนด์

ในขณะที่แบรนด์อุตสาหกรรมอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ติดอันดับโลกในปัจจุบัน มีหลายแบรนด์ที่ขยายอาณาจักรธุรกิจอย่างก้าวกระโดด โดยฝีมือการบริหารของทายาทรุ่นปัจจุบัน เช่น Roche บริษัทผลิตยา เวชภัณฑ์ และเทคโนโลยีชีวภาพใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ และมีขนาดธุรกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จากผู้ก่อตั้ง Fritz Hoffmann-La Roche มาสู่การบริหารในยุคของทายาทรุ่นที่ 5 ในปัจจุบัน

กลุ่มบริษัท Boehringer Ingelheim เยอรมัน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1885 โดย Albert Boehringer สามารถขยายธุรกิจจนก้าวขึ้นสู่ 1 ใน 20 อันดับของอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ระดับโลก ยืนหยัดธุรกิจมาได้กว่า 130 ปี เป็นธุรกิจเอกชนที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยธุรกิจยังคงอยู่ภายใต้การบริหารของครอบครัว Boehringer Von Baumbach

แบรนด์ Tetra Pak ของสวีเดนที่เริ่มต้นธุรกิจโดย Ruben Rausing คิดค้นนวัตกรรมในกระบวนการผลิต การบรรจุ และบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ขยายธุรกิจจนก้าวสู่เจนเนอเรชันที่ 4

ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน

อิตาลี กับ Passion ในธุรกิจครอบครัว

ดร.วิทย์ ได้เล่าถึงความน่าสนใจของธุรกิจครอบครัวในอิตาลีว่า ธุรกิจครอบครัวในอิตาลีส่วนใหญ่มีความรักในธุรกิจที่บรรพบุรุษสร้างและสืบทอดต่อกันมา และไม่ต้องการให้มีผู้ถือหุ้นเข้ามาเกี่ยวข้อง

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรู Molteni ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่รุ่นคุณปู่ Angelo และ Giuseppina Molteni ในปี ค.ศ. 1934 จนมาถึงทายาทรุ่นที่ 3 ในปัจจุบันที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์งานฝีมือประณีตของบรรพบุรุษเอาไว้ เช่น เดียวกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรู GECCI ซึ่งดำเนินธุรกิจมาถึงรุ่นที่ 3 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานมาสเตอร์พีซของต้นตระกูลผสมผสานกับความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น

ดร.วิทย์ ปิดท้ายว่า การส่งต่อธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นมีมิติมากมาย ทั้งการวางแผนส่งต่อให้กับทายาทธุรกิจ ความพยายามมุ่งมั่นสานต่อความมั่นคงให้กับธุรกิจ ในขณะเดียวกัน การดำเนินการเหล่านั้นต้องได้รับแรงสนับสนุนทางการเงิน รวมถึงการวางแผนลงทุน เพื่อส่งต่อความมั่งคั่งที่ยั่งยืน

Passion Driven Succession บริหารโรงแรมสไตล์ ‘ครอบครัวสุโกศล’

ไฮไลท์ที่สำคัญในงานนี้ คือ ช่วงพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองการบริหารธุรกิจที่ใช้ศาสตร์และศิลป์จนประสบความสำเร็จในระดับโลกในหัวข้อ PASSION DRIVEN SUCCESSION โดยได้รับเกียรติจากครอบครัวสุโกศล คือ มาริสา สุโกศล หนุนภักดี และ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ มาถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นในการบริหารธุรกิจโรงแรม ซึ่งล่าสุดโรงแรม เดอะ สยาม ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุด 50 แห่งทั่วโลกประจำปี 2567 ของ THE WORLD’S 50 BEST HOTELS 2024 นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และได้รับรางวัล 3 Keys Michelin ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของ Michelin Guide

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี รองประธานกรรมการ บริษัท สุโกศล จำกัด

เล่าให้ฟังว่า เครือโรงแรมสุโกศล มีโรงแรม 5 แห่ง คือ THE SUKOSOL BANGKOK, THE SIAM, SIAM BAYSHORE PATTAYA, THE BAYVIEW PATTAYA , และ WAVE โดยเตรียมแผนที่จะเปิดโรงแรม THE SIAM ที่เชียงใหม่เร็วๆ นี้ โดยปรัชญาบริหารงานโรงแรมคือ We Serve from the Heart ถึงแม้โรงแรมบางแห่งจะมีอายุ 50 ปีแล้ว แต่เป็นโรงแรมที่มีการปรับปรุง พัฒนาตลอด สิ่งที่เป็นจุดแข็งของเครือโรงแรมสุโกศลคือ บริการของพนักงาน ทีมงานของโรงแรมทั้งหมด ต้องสัมผัสใจลูกค้าให้ได้ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาใช้บริการอีก

“Passion ไม่ได้เกิดข้ามคืน ต้องใช้เวลา โดยช่วงแรกๆ ดิฉันไม่ได้อยากทำธุรกิจ อยากเป็นนักร้องมากกว่า แต่เนื่องจากตอนนั้นคุณแม่ไม่มีใครช่วย จึงได้ร่วมกันบริหารงานกับคุณแม่ ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาหลายเหตุการณ์ และได้เห็นผลลัพธ์ของพลังความทุ่มเท และสามารถผ่านวิกฤตร่วมกันมากมาย และเมื่อพบกับความสำเร็จ จึงเริ่มเกิดความภาคภูมิใจ เกิด Passion เราไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก แต่เรารักในสิ่งที่เราทำได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลา” มาริสา เล่าถึงการบ่มเพาะประสบการณ์ของตนเอง

นอกจากนี้ ด้านลักษณะวิธีการทำงานของครอบครัวสุโกศล จะแบ่งบทบาทกันอย่างชัดเจนตามความถนัดของแต่ละคน ทำให้ไม่มีหน้าที่ที่ทับซ้อนกัน เคารพการตัดสินใจของกันและกัน และยกให้ความปรองดองเป็นเรื่องสำคัญ

พร้อมกับเปิดโอกาสให้ทายาทรุ่นหลังๆ เดินทางหาความฝันของเขา แต่ต้องทำด้วยความรับผิดชอบ ถึงแม้วัยและสังคมที่เปลี่ยนไปจะทำให้ทัศนคติไม่ตรงกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาต้องมีคือความมั่นใจ ให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ จนเห็นความสำเร็จที่เกิดขึ้น เมื่อเขาประสบความสำเร็จแล้ว เขาจะภาคภูมิใจและมีความมั่นใจที่จะสามารถสร้างคุณค่าให้ธุรกิจได้จริง

“ธุรกิจครอบครัวเกิดขึ้นได้จากความรัก เมื่อครอบครัวรักกัน ธุรกิจจะงอกงาม เพราะคำว่าธุรกิจกับคำว่าครอบครัวแยกออกจากกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ที่ดีเกิดจากการแก้ปัญหาร่วมกันและยอมกันบ้าง ให้ความสำคัญกับความสุขระหว่างการทำงานมากกว่าการเร่งการเติบโตของธุรกิจเพียงอย่างเดียว พร้อมกับเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งไปพร้อมกัน”

กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ผู้บริหารโรงแรม THE SIAM

ด้าน กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ผู้บริหารโรงแรม THE SIAM หรือที่รู้จักกันดีในนาม ‘น้อย วงพรู’ ที่นอกจากบทบาทของผู้บริหารของธุรกิจโรงแรมแล้ว ยังมีบทบาทของศิลปินอีกด้วย กฤษดา เล่าว่า การที่ตนเองสามารถทำหน้าที่ได้ทั้ง 2 บทบาทนั้น เกิดจากมีพี่สาว (มาริสา สุโกศล หนุนภักดี) ที่ช่วยดำเนินธุรกิจโรงแรมเป็นอย่างดี บวกกับแรงสนับสนุนจากคุณแม่ (กมลา สุโกศล) ที่วางรากฐานของธุรกิจครอบครัวอย่างแข็งแกร่ง มองเห็นพรสวรรค์ ความชอบ และ Passion เกิดการผสมผสานออกมาเป็นคาแรกเตอร์ของโรงแรม THE SIAM บวกกับแรงสนับสนุนจากสมาชิกในครอบครัว

กฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือ ‘น้อย วงพรู’ เล่าถึงจุดยืนในชีวิตของตนเองว่า ต้องมีเป้าหมายในชีวิตว่า ไม่ว่าเราจะทำงานด้านไหน เราต้องภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำลงไป คิดว่าชีวิตเรามีคุณค่า อาจจะไม่ใช่แค่ในมุมของธุรกิจเท่านั้น รวมไปถึงมุมของความสัมพันธ์กับคนรอบข้างและประสบการณ์ที่ได้ทำร่วมกับผู้อื่น Experience กับ Relationship จะต้องไปด้วยกัน

“การรักษา Passion ได้ ต้องมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน มี Passion ในหลายบทบาท ผมชอบร้องเพลง ชอบดีไซน์ และเอามาใช้กับธุรกิจด้วย ความสำเร็จของโรงแรม THE SIAM ในวันที่ผมไปแชร์มุมมองการพัฒนาโรงแรมและรับรางวัลที่อังกฤษ และผมได้ถามผู้จัดงานถึงเหตุผลในการเชิญผมขึ้นพูดบนเวที ผู้จัดบอกว่า ความเป็นอาร์ทติสที่มีความสำเร็จของธุรกิจด้วย ผมคิดว่านั่นคือมุมธุรกิจของผม”

นอกจากนี้แล้ว ภายในงานยังได้สร้างสรรค์ความอิ่มเอมด้านสุนทรียรสผ่านเมนูอาหารที่เป็นการคิดสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่างเชฟที่เชี่ยวชาญอาหารต่างสไตล์ ต่างรุ่น และได้รางวัล    มิชลินสตาร์ติดต่อกันหลายปีซ้อน คือ เชฟธนินธร จันทรวรรณ แห่ง Chim by Siam Wisdom และ เชฟธิติฎฐ์ ทัศนาขจร แห่ง Le Du พร้อมกับ Exclusive Show โชว์พิเศษจากศิลปินระดับประเทศในธีมจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านบทเพลงเพราะๆ จาก มาริสา สุโกศล หนุนภักดี และ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ร่วมขับร้องกับศิลปินชั้นนำของประเทศ ได้แก่ ป๊อด ธนชัย อุชชิน, ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต, น้ำมนต์ ธีรนัยน์ ณ หนองคาย และ แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น

เชฟธิติฎฐ์ ทัศนาขจร แห่ง Le Du พร้อมกับ Exclusive Show,เชฟธนินธร จันทรวรรณ แห่ง Chim by Siam Wisdom