คนไทย 50 ล้านคนใช้โซเชียลมีเดีย เสพคอนเทนต์บันเทิงหนัก โดยเฉพาะ ‘หมีเนย-หมูเด้ง’ สะท้อนภาวะ ‘เครียดไม่รู้ตัว’

หากทั่วโลก 7,000 ล้านคนพร้อมใจกันใช้โซเชียลมีเดีย และขณะนี้โลกเราก็มีจำนวน Content Creators มากถึง 200 ล้านคน ถามว่า เป็นคนไทยที่ใช้โซเชียลมีเดียกี่คน และในจำนวนนั้นมี Content Creators เท่าไหร่ ที่สำคัญพวกเขาป้อนคอนเทนต์แนวไหนเข้าสู่ตลาด?

โดยขนาดตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์ทั่วโลกในปี 2024 ถูกประมาณการไว้ที่ 5.5 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตถึง 16 ล้านล้านบาทภายในปี 2030 ซึ่งยังไม่รวมตลาดของประเทศจีนที่มีขนาดใหญ่มากๆ

[ คนไทย 50 ล้านคนใช้โซเชียลมีเดีย ]

ปัจจุบันโซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน โดยมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในประเทศไทยถึง 50 ล้านคน หรือคิดเป็น 71.5% ของจำนวนประชากรทั้งหมด อีกทั้งในจำนวนนี้ราวๆ 55% บอกว่า โปรโมชั่นและส่วนลดจากเหล่า influencers ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาติดตามครีเอเตอร์มาตลอด

ข้อมูลของ Tellscore เปิดเผยว่า ในไทยมี Content Creators ประมาณเกือบ 9 ล้านคน โดยแบ่งเป็นครีเอเตอร์แบบ Full-time กว่า 2 ล้านคน และที่เหลือคือ Part-time เช่น Micro-influencers ที่มีผู้ติดตามอยู่ประมาณระหว่าง 1,000-20,000 followers ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศได้มากกว่า 45,000 ล้านบาทในปี 2024

สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ได้กล่าวว่า “ในงาน Thailand Influencer Awards จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จะมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของอินฟลูเอนเซอร์และนักการตลาดที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทาง และสร้างอนาคตเศรษฐกิจไทย”

“ที่สำคัญคือการเฟ้นหาอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพ เพื่อสร้างตัวอย่างที่ดีให้แก่วงการ สร้างมาตรฐานและความเข้มแข็งให้กับคอมมิวนิตีอินฟลูเอนเซอร์ไทย ซึ่งในปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 20-30% ต่อปี แต่ยังขาดทิศทางที่ชัดเจน นิยามของคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ในบริบทของสื่อมวลชนยังคงไม่ชัดเจน”

หมายความว่า บทบาทและอำนาจของ influencers ค่อยข้างสำคัญต่อสังคมและพฤติกรรมคนไทย รวมถึงคนทั้งโลก ดังนั้น การกำหนดทิศทางที่ชัด สร้างคุณค่าและคุณภาพของเหล่า Content Creators ก็น่าจะทำให้สังคมยกระดับขึ้นไปด้วย

อย่างที่ทาง Tellscore ยกตัวอย่าง แนวทางคอนเทนต์ในปัจจุบันจากการวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่าปรากฎการณ์ของ ‘ความฮีลใจ’ อย่าง Butterbear และน้องหมูเด้ง จอมสวบ ซึ่งนำไปสู่การดึงเม็ดเงินมหาศาลให้กับภาคท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า “สังคมไทยอยู่ในภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัว”

รวมถึงคนไทยต้องการคอนเทนต์ที่มอบความบันเทิงมากขึ้น ดังนั้นเทรนด์การทำคอนเทนต์แห่งปี 2025 คิดว่าน่าจะท้าทายขึ้น เพราะเนื้อหาต้องสร้างสรรค์ และฮีลในคนได้ ที่สำคัญคือ สนุก ให้ความรู้ได้ และแน่นอนว่าฝั่ง influencers หรือพ่อค้าแม่ค้าก็คาดหวังที่จะปิดยอดขายได้นั่นเอง

[ ตัวอย่างมุมมอง The Mall คาดหวัง influencers มากกว่ายอดติดตาม ]

ด้าน ‘วรลักษณ์ ตุลาภรณ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันอินฟลูเอนเซอร์มีบทบาทสำคัญในการสร้างแนวคิดและพฤติกรรมในสังคมดิจิทัล อินฟลูเอนเซอร์ไม่เพียงแต่เป็นผู้ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก แต่ยังเป็นผู้นำทางความคิดที่สามารถส่งต่อคุณค่าและทิศทางใหม่ๆ สู่สังคมได้”

ในฐานะ The Mall เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรีเทล เการเลือกใช้ influencers ก็สำคัญ และนี่คือตัวอย่างที่ วรลักษณ์ได้พูดถึงเกณฑ์ในการเลือก เช่น

• การผสานเล่าเรื่อง (Storytelling Integration) : ผู้สร้างคอนเทนต์ผสานสินค้าเข้ากับเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้การโปรโมทดูจริงใจ
• การมีส่วนร่วมกับชุมชน (Community Engagement) : พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้ติดตาม โดยตอบสนองต่อความคิดเห็นและเสริมสร้างความภักดีต่อแบรนด์
• การช้อปปิ้งแบบโต้ตอบ (Interactive Shopping) : การถ่ายทอดสดและโพสต์ที่สามารถซื้อได้ทันที ช่วยให้ผู้ติดตามสามารถซื้อสินค้าได้ในเวลาจริงผ่านเนื้อหา
• คำแนะนำเฉพาะบุคคล (Personalized Recommendations) : ผู้สร้างคอนเทนต์เสนอคำแนะนำที่ตรงกับความชอบของกลุ่มผู้ชมและสอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของตน
• การกำหนดเทรนด์ใหม่ (Trendsetting Influence) : ด้วยการติดตามความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม พวกเขาแนะนำเทรนด์ใหม่ที่ผู้ติดตามนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว