วิกฤต Gucci ล้มแบรนด์เดียว พาบริษัทแม่รายได้ลดฮวบ

‘Gucci’ แบรนด์หรูที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 103 ปี ตำนานธุรกิจที่ถูกสืบทอดและเคยผ่านมรสุมเผชิญวิกฤตภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่ Gucci ก็สามารถฟื้นฟูพาแบรนด์กลับมาได้ผ่านการปรับตัวและการสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยการผสมผสานความคลาสสิกของแบรนด์เข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการนำแฟชั่นสตรีทแวร์มาใช้ การร่วมมือกับศิลปินและแบรนด์ดังอื่นๆ 

Gucci ยังเคยเป็นดาวเด่นในอุตสาหกรรมแฟชั่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อิงยอดขายที่ถล่มทลายผ่านสินค้าที่ ‘Alessandro Michele’ ออกแบบ โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าคนจีนที่ชื่นชอบแบรนด์นี้เอามากๆ 

แต่ดูเหมือนว่าในช่วง 2-3 ปีให้หลังมานี้ Gucci กำลังเผชิญกับวิกฤตอีกครั้ง จากเรื่องยอดขายและความนิยมที่ลดลงในจีน จนทำให้บริษัทแม่อย่าง Kering รายได้หายไปเกือบ 50% 

เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร แบรนด์จะกู้วิกฤตกลับมาได้อีกครั้งหรือไม่ TODAY Bizview จะสรุปให้

Gucci เป็นแบรนด์ที่อยู่ใน Kering อาณาจักรแบรนด์หรู ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Yves Saint Laurent, Balenciaga, Bottega Veneta และอื่นๆ ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักของเครือแบรนด์หรูอย่าง LVMH ที่เป็นเจ้าของ Louis Vuitton, Dior, CELINE, Loro Piana

Gucci ถือเป็นพระเอกของเครือ Kering เลยก็ว่าได้ เพราะรายได้กว่า 50% ของอาณาจักรแบรนด์หรูนี้ก็มาจาก Gucci ทว่าอย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่าแบรนด์เคยได้รับความนิยมมากๆ ในหมู่คนจีน ทำให้ยอดขายส่วนใหญ่ก็มาจากคนจีน

[ เคยเด่นมากในจีน แต่ตอนนี้ความนิยมจางหาย ]

ปัจจุบัน Gucci ในจีนได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ จนยอดขาย 3 ไตรมาสของปีนี้ (ปี 2024) หายไปถึง 25% YoY ความนิยมของแบรนด์จากคนจีนก็หายไป 35% หรือพูดง่ายๆ ว่าคนจีนสนใจแบรนด์น้อยลง 

ที่เป็นเช่นนี้ส่วนหนึ่งเพราะภาพรวมเศรษฐกิจในจีนกำลังซบเซา แม้รัฐบาลจีนจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เศรษฐกิจก็ยังชะลอตัว ชาวจีนกำลังรัดเข็มขัด ไม่ค่อยซื้อแบรนด์หรูที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ต่างกับ  LVMH คู่แข่งหลักก็กระทบเหมือนกัน แต่แรงกระเพื่อมนี้ไม่เท่า Gucci ที่กระทบทั้งเรื่องยอดขายและความนิยมที่หดหายไปจากจีน

ตอนนี้มีเพียงไม่กี่แบรนด์ไฮเอนด์เท่านั้นที่รอดพ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หนึ่งในนั้นคือ ‘Hermès’ ผู้ผลิตกระเป๋า Birkin ที่ยังได้รับความนิยมและมากขึ้นเรื่อยๆ และผู้คนก็ยอมจ่ายและยอมรอสินค้าแม้รู้ว่าอาจจะต้องรอเป็นปี 

[ บริษัทแม่ปีนี้คาดรายได้หด 46% ]

สำหรับ Gucci ในไตรมาส 2 ของปีนี้ (ปี 2024) มีรายได้ 354,000 ล้านบาท ลดลง 11% YoY กำไร 34,500 ล้านบาท ลดลง 51% YoY 

ภาพรวมรายได้ของ Kering บริษัทแม่ก็น่าห่วงไม่น้อย Kering บอกเองว่าปีนี้กำไรอาจหายไป -46% ซึ่งอาจจะมีรายได้รวมอยู่ที่ราว 9.67 หมื่นล้านบาทเท่านั้น  แถมยอดขายของแบรนด์อื่นๆ ในเครือก็ลดลงตามไปด้วย เช่น Saint Laurent เองก็ลดลง 12% ทำให้เป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 8 ปี หนักกว่าช่วง โควิด-19 เสียอีก

ในส่วนของราคาหุ้นของ Kering ปรับลดลงมากกว่า 40% ตั้งแต่ต้นปีด้วย ต่างจาก LVMH ที่ลดลงเพียง 16% เท่านั้น

สะท้อนแล้วว่าไม่ได้เกิดวิกฤตแค่ Gucci แต่วิกฤตทั้งเครือ Kering 

ในทางกลับกัน Gucci ก็ต้องสู้ต่ออีกครั้ง เพราะตัวเองยังคงเป็นพระเอกของอาณาจักรนี้ แม้ว่าไม่นานมานี้แบรนด์ได้แต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่มาช่วยฟื้นแบรนด์ นั่นก็คือ ‘Stefano Cantino’ ซึ่งเคยเป็นคนกอบกู้แบรนด์หรูอย่าง Prada และ Louis Vuitton มาก่อน

ต้องดูกันว่าหลังจากนี้ Gucci จะพาตัวเองฝ่ามรสุมฟื้นกลับมาได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่ปีนี้…