SHARE

คัดลอกแล้ว

“มีเงินสดหมุนเวียนอยู่เป็นจำนวนมากในระบบนี้และถ้าพูดถึงคนไทย ไม่ใช่หน้าใหม่หรือคนที่ไม่ประสีประสากับการพนันในรูปแบบกาสิโน” ‘ทิม เชพเพิร์ด’ หุ้นส่วนอาวุโสของบริษัทลงทุนด้านเกม Fortuna Investments Worldwide ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกง และเคยเกี่ยวข้องกับกาสิโนในกัมพูชาและลาวกล่าว

‘นิกเกอิ เอเชีย’ ลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์กาสิโนตรงข้ามชายแดนไทยที่เมืองไพลิน ประเทศกัมพูชา ห่างจากชายแดนไทยเพียง 600 เมตร ซึ่งมีคนไทยข้ามฝั่งเข้าไปเล่นกันจำนวนมาก แม้กระทั่งเงินเดิมพันที่รับแทงก็เป็นเงินบาท ไม่ใช่เงินสกุลเรียลของกัมพูชา

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่พูดถึงกาสิโนอีกหลายแห่งที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดนฝั่งประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า และหลายแห่งมีความหรูหราเทียบเท่า หรืออาจจะมากกว่าในมาเก๊าและสิงคโปร์ด้วย โดยหากมีนักเล่นระดับไฮเอนด์จากฝั่งไทยมาเยือนก็จะมีทีมงานฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ที่พูดภาษาไทยได้มาให้บริการ ส่วนถ้าใครไม่มีเวลามาถึงชายแดนก็มีกาสิโนใต้ดินในประเทศไทย ที่ถูกปราบปรามอยู่เป็นระยะ

สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่ารัฐบาลไทยกำลังให้ความสนใจกับกิจกรรมการพนันทุกประเภทอย่างจริงจัง เนื่องจากเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณเป็นประวัติการณ์ที่ 865,700 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.3% ของจีดีพีในประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ในปีงบประมาณใหม่นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะนำเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี พร้อมทั้งพูดถึงแผนการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์

โดยกรณีตัวอย่างในสิงคโปร์จะเรียกสถานบันเทิงประเภทที่มีกาสิโนว่า Integrated resort ซึ่งเป็นกาสิโนที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มครอบครัว นอกจากมีกาสิโนก็มีสถานที่ช้อปปิ้ง มีความบันเทิง และบริการอื่นๆ

ถ้าตามแผนการที่รัฐบาลปัจจุบันให้ความสนใจเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ คือความพยายามเสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรเข้าสู่สภาได้ภายในสิ้นปีนี้

สื่อญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่าหากประเทศไทยจะเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ในฐานะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในเอเชีย ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับประเทศ แต่ยังมีข้อติดขัดที่ว่าจะสามารถเอาชนะความวิตกกังวลของประชาชน และแรงต่อต้านทางการเมืองที่ยังมีอยู่ได้หรือไม่ และหากรัฐสภารับรองกฎหมายได้จริง ยังมีกระบวนการขั้นตอนที่มีรายละเอียดอย่างมาก

ตัวอย่างในญี่ปุ่นที่มีโครงการกาสิโนที่วางแผนไว้ แต่มีเพียง 1 ใน 3 โครงการเท่านั้นที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และที่เหลือยังล่าช้าออกไป ซึ่งนี่ก็อาจะเป็นความเสี่ยงของไทยที่แผนที่วางไว้อาจเบนไปจากเป้าหมายเช่นเดียวกับญี่ปุ่น

ตอนนี้ผู้ประกอบการธุรกิจกาสิโนทั่วโลกต่างจับตามองความเป็นไปได้ที่ไทยจะทำเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย

‘เครก บิลลิ่ง’ ซีอีโอของ Wynn Resorts กล่าวว่า ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยม มีจุดแข็งด้านการบริการ และมีโครงสร้างต่างๆ ที่เอื้ออำนวย ดังนั้นเราจึงติดตามกระบวนการออกกฎหมายกาสิโนอย่างใกล้ชิด

ส่วนความสนใจในการลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ในไทยหรือไม่นั้น เขาบอกว่า จำเป็นต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างการกำกับดูแลและใบอนุญาตก่อน

บริษัทจะไม่ดำเนินการใดในสถานการณ์ที่ผลตอบแทนจากการลงทุนดู “ไม่เหมาะสม”

หากดูจากรายละเอียดที่มีการเปิดเผยออกมาเบื้องต้นรัฐบาลไทยระบุถึงการกำหนดอัตราภาษีการพนันไว้ที่ 17% ซึ่งต่ำกว่าอัตราภาษีที่มีผลบังคับใช้ของมาเก๊าที่ 40% ส่วนจำนวนใบอนุญาตที่เป็นไปได้นั้นไม่ได้ระบุชัดเจน แต่ก็มีการพูดถึงธุรกิจที่สนใจประมูลอาจได้รับการอนุมัติมากถึง 10 ราย เมื่อเทียบกับมาเลเซียที่มีกาสิโน 1 แห่ง และสิงค์โปร์มี 2 แห่ง โดยภายใต้ร่างกฎหมายของไทย ผู้รับใบอนุญาตจะต้องมีทุนจดทะเบียนอย่างน้อย 10,000 ล้านบาท และในโครงการแรกจะต้องลงทุนอย่างน้อย 100,000 ล้านบาท

ตัวเลขที่ดูสูงขนาดนี้อาจไม่ใช่เรื่องลำบากหรือน่ากังวลสำหรับบริษัทหรือธุรกิจในวงการนี้ โดยนักธุรกิจรายหนึ่งในวงการ ให้ความเห็นว่า กรุงเทพฯ มีศักยภาพที่จะดึงดูดการลงทุนมหาศาลนี้ได้ รองลงมาคือ จังหวัดที่อยู่ในระยะขับรถ 2-3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ขณะที่ถ้าประเมินพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวในภาคเหนือและพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวทะเลดังๆ ในภาคใต้อาจจะไม่ได้ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทกาสิโนมากนัก

‘วิทาลลี อูมันสกี้’ นักวิเคราะห์อาวุโสผู้เชี่ยวชาญด้านกาสิโนจาก Seaport Research Partners ในฮ่องกง ให้ข้อสังเกตว่า แม้รีสอร์ทในแถบแคริบเบียนและเมดิเตอร์เรเนียนหลายแห่งจะมีกาสิโน แต่ก็เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกเสริมอย่างหนึ่งมากกว่าจะเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักให้กับผู้ประกอบการหรือประเทศนั้นๆ เพราะผู้คนไม่ได้เข้ากาสิโนหรือเข้าไปเที่ยวเล่นการพนันโดยเฉพาะ พวกเขาต้องการพักผ่อนอยู่บนชายหาด ไม่ได้ต้องการอยู่ในกาสิโน

และยังตั้งคำถามต่อแนวทางกำกับดูแลของไทยด้วยว่าจะเข้มงวดเพียงพอหรือไม่ รวมทั้งหน่วยงานกำกับดูแลเรื่องนี้จะมีอิสระแค่ไหนในการพิจารณาผู้รับใบอนุญาต และยังต้องพิจารณาความเสี่ยงเกี่ยวกับการฟอกเงินและความเสี่ยงเกี่ยวกับอาชญากรรมอื่นๆ ด้วย

มีรายงานด้วยว่าในบรรดากลุ่มธุรกิจในไทยมีชื่อของ Royal Turf Club of Thailand ซึ่งเคยดำเนินกิจการสนามแข่งม้า เป็นหนึ่งในไม่กี่องค์กรที่แสดงความสนใจอย่างเปิดเผยในการเสนอราคาเพื่อขอใบอนุญาต

ทางสโมสรได้เปิดเผยแผนงานโครงการมูลค่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยสนามแข่งม้าแห่งใหม่ สนามกอล์ฟ สโมสรเรือยอทช์ และโรงพยาบาลด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ นอกจากนี้ก็มีกระแสข่าวว่ากลุ่ม AWC ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ก็ให้ความสนใจด้วยเช่นกัน

แต่ ‘วัลลภา ไตรโสรัส’ ซีอีโอ ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “การลงทุนด้านการท่องเที่ยวที่เน้นความบันเทิงระดับนานาชาติของ AWC มุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวคุณภาพ เช่น กลุ่มครอบครัวและนักเดินทางเพื่อธุรกิจ เราไม่ได้วางแผนที่จะรวมกาสิโนไว้ในโครงการของเรา เนื่องจากไม่สอดคล้องกับตำแหน่งและจุดหมายปลายทางที่เรากำลังพัฒนา”

นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึง เดอะมอลล์กรุ๊ป ที่ปรากฎเป็นรายงานข่าว แต่ ‘ศุภลักษณ์ อัมพุช’ ประธานกรรมการบริหารของกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป บอกว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าบริษัทจะเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะกฎระเบียบและข้อบังคับยังไม่ชัดเจน

ขณะที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับความสนใจจากสื่อว่า จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนากาสิโนหรือไม่ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่ ‘ธนินท์ เจียรวนนท์’ ประธานอาวุโสของกลุ่มซีพี ได้เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้ประเทศผ่านการท่องเที่ยว แต่จนถึงขณะนี้ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในเรื่องนี้

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ มองว่าผู้เล่นในประเทศไทยที่มีเงินทุนมาก อาทิ เครือซีพีหากจะเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ สามารถจัดการรีสอร์ทกาสิโนได้ด้วยศักยภาพของตัวเอง โดยไม่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการระดับโลก เช่น Las Vegas Sands หรือ MGM Resorts โดยยกกรณีศึกษาของ Galaxy Entertainment Group ในมาเก๊า และ Bloomberry Resorts ของฟิลิปปินส์

ทั้งสองบริษัทได้สร้างรีสอร์ทกาสิโนที่มีชื่อเสียงในตลาดของตนเอง บริษัทเหล่านี้ใช้ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ระดับนานาชาติ โดยไม่แบ่งกำไรกับบริษัทใหญ่ๆ ในลาสเวกัส

ในบทวิเคราะห์ต่างประเทศ อ้างถึงนักธุรกิจในแวดวงอุตสาหกรรมนี้มั่นใจว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะพัฒนากาสิโนให้เติบโต และสามารถแข่งขันขึ้นมามีขนาดเทียบเท่ากับฟิลิปปินส์ที่มีกาสิโนที่ได้รับอนุญาต 14 แห่ง หรือสิงคโปร์ ซึ่งทั้งสองประเทศสร้างรายได้รวมจากธุรกิจนี้ราว 5,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว แม้จะยังน้อยกว่ามาเก๊าที่ทำรายได้ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตามการทำให้กาสิโนถูกกฎหมายยังเป็นความเห็นที่ก้ำกึ่งหากดูจากแบบสำรวจโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แม้ส่วนใหญ่จะสนับสนุนแบบไม่เต็มใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จำนวนไม่น้อย 41.6% บอกว่าต่อต้าน และยังมีคำถามว่ารัฐบาลจะมีศักยภาพควบคุมธุรกิจนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่กังวลใจมากที่สุดว่า กาสิโนถูกฎหมายจะทำให้คนที่ติดการพนันอยู่แล้วติดมากขึ้นไปอีก

ตอนนี้หนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ที่ 90.8% ของจีดีพี ซึ่งถือว่าตัวเลขติดในกลุ่มสูงของเอเชีย ทำให้เกิดความกังวลว่าหากมีกาสิโนถูกกฎหมายอาจส่งผลต่อหนี้ครัวเรือนด้วย เพราะจะมีหนี้ใหม่เกิดขึ้นมาในระบบ แม้รัฐบาลเสนอแนวคิดเก็บค่าธรรมเนียมเข้ากาสิโนครั้งละ 5,000 บาท กับคนไทย แต่ก็ไม่ได้ทำให้หลายคนสบายใจ

สื่อญี่ปุ่นยังไปสอบถามนักพนันคนไทยรายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า ถึงแม้ไทยจะมีกาสิโนถูกกฎหมายได้จริงในอนาคต แต่พวกเขาก็อาจจะข้ามไปเล่นที่ฝั่งกัมพูชาอยู่ดี ยกเว้นว่าถ้ากาสิโนในไทยมีตัวเลือกเท่าๆกัน เช่น ราคาค่าเข้าเอื้อมถึงและมีความสะดวกสบาย

แต่ที่น่าคิดคือ นักพนันรายนี้ มองว่า ถึงไทยจะมีกาสิโนถูกกฎหมาย แต่เงินจะไม่ไปถึงมือประชาชนอยู่แล้ว แต่จะไปถึงบริษัทที่ร่ำรวยเท่านั้น

 

เรียบเรียงจาก Nikkei Asia

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า