อสังหาฯ ภูเก็ตฮอตไม่เลิก ต่างชาติอยู่เอง คนไทยปล่อยเช่า แอสเซสไวท์ เปิดอีก 4 โครงการใหม่

หลังจากที่นักท่องเที่ยวหลั่งใหลเข้ามาในประเทศไทย หนึ่งในจุดหมายปลายทางสุดฮอต คงหนีไม่พ้น ‘ภูเก็ต’ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มาแค่ระยะสั้นๆ แต่บางคนก็มากันทั้งครอบครัว เน้นใช้ชีวิตอยู่ที่นี่แบบระยะยาว บ้างก็ซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง โดยชาติที่เข้ามาเยอะสุดได้แก่ รัสเซีย ยูเครน ยุโรป และจีน ด้วยเหตุนี้ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโตต่อเนื่อง สวนกระแสตลาดโดยรวม 

[ ต่างชาติซื้ออสังหาฯ เฉลี่ย 3-5 ล้านอยู่เอง คนไทยซื้อ 2-3 ล้านปล่อยเช่า ]

‘พัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล’ เลขาธิการ และอุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เล่าให้ฟังว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตปี 2567 ได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติ ส่งผลให้กำลังซื้อในพื้นที่แข็งแกร่งขึ้น เช่นเดียวกับความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย 

โดยเฉพาะกับชาวรัสเซีย ยูเครน ยุโรปที่เข้ามาอยู่อาศัยในภูเก็ตมากขึ้น ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติมักสนใจที่อยู่อาศัยในราคา 3-5 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่กลุ่มคนไทยมองหาคอนโดในภูเก็ตราคาไม่เกิน 2-3 ล้านบาทเพื่อปล่อยเช่าต่อ 

หรือพูดง่ายๆ ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง ซื้ออยู่ยาวหรือย้ายมาอยู่ไทยเลย ขณะที่คนไทยเน้นซื้อในภูเก็ตเพื่อปล่อยเช่าทำเงินเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ว่า ปีนี้จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมในภูเก็ตทั้งหมด มูลค่ารวมประมาณ 33,730 ล้านบาท หรือขยายตัวขึ้นราว 7.1% YoY 

ด้านยอดขายใหม่ของคอนโดมิเนียมในช่วงครึ่งแรกปี 2567 มีจำนวน 4,497 หน่วย ขยายตัวขึ้น 259.8% YoY และมีมูลค่าทั้งหมดราว 40,190 ล้านบาท เติบ โตขึ้น 799% ซึ่งทำเลที่มียอดขายใหม่โดดเด่นมากที่สุดคือ “หาดบางเทา-หาดสุรินทร์” จำนวน 2,202 หน่วย หรือคิดเป็น 48.97% ของจำนวนหน่วยยอดขายใหม่ทั้งหมด

[แอสเซทไวส์ เปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 15,500 ล้านบาท ]

ด้วยความน่าสนใจของภูเก็ตทำให้แบรนด์อสังหาฯ รายใหญ่หลายแบรนด์จากกรุงเทพฯ เข้ามาลงเล่นในตลาดนี้ เช่นเดียวกับ เครือแอสเซทไวส์ ที่มีบริษัทในเครืออย่าง ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) เปิดโครงการใหม่ภูเก็ต 4 โครงการ มูลค่ารวม 15,500 ล้านบาท พร้อมโชว์ Backlog แกร่ง 8,022 ล้านบาท 

‘กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เล่าให้ฟังว่า บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือภายใต้แบรนด์ “เดอะ ไทเทิล” (THE TITLE) อยู่ในภูเก็ตมานานกว่า 12 ปี และมีโครงการที่อยู่อาศัยกระจายอยู่ตามทำเลศักยภาพ 3 ทำเล คือ บางเทา ในยาง และราไวย์ ซึ่งเป็น Strategic Locations ที่โดดเด่นทั้งด้านการเดินทาง ความงดงามของธรรมชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับการพักอาศัยระยะยาว (Long-Stay) และท่องเที่ยวระยะสั้น และการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ล่าสุด ASW ได้ปรับแผนเปิดตัวโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ต โดยเปิดโครงการใหม่รวม 4 โครงการ 

1. 1. 1. 1. 1. เดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ (THE TITLE CIELO RAWAI) มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจนมียอดขายถึง 90% หลังเปิดขายได้เพียง 1 สัปดาห์ 
            2. เดอะ โมเดวา (THE MODEVA) มูลค่า 6,200 ล้านบาท 
            3. เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา (THE TITLE ARTRIO BANG-TAO) มูลค่า 2,600 ล้านบาท เตรียมเปิดขายในเดือนตุลาคมนี้ 
            4. คาตาเบลโล (KATABELLO) ในกะตะ มูลค่า 5,500 ล้านบาท มีแผนเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2568

สำหรับรายละเอียดของ “THE MODEVA” เป็นโครงการ Leisure Residences สูง 7 ชั้น จำนวน 6 อาคาร และ Pet-Friendly อีก 1 อาคาร รวม 859 ยูนิต บนพื้นที่ราว 15 ไร่ ใกล้หาดบางเทาเพียง 500 ม. มีห้องให้เลือกถึง 11 รูปแบบ ขนาด 29-148 ตร.ม. และห้อง Penthouse ใหญ่สุด 148 ตร.ม. โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางถึง 7,458 ตร.ม. ทั้งโซน Indoor กว่า 26 รายการ เช่น Business Lounge, Co-Kitchen, Health Center, Salon, Kid’s Club และอื่นๆ ราคาเริ่มต้น 4.1-18.7 ล้านบาท

ถัดมาเป็น “THE TITLE ARTRIO BANG-TAO” เป็นโครงการ Leisure Residences สูง 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และ Pet-Friendly อีก 1 อาคาร รวม 435 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 6 ไร่ ติด Porto de Phuket สามารถเปิดรั้วเดินไปช็อปปิ้งได้เลย มีห้องพักให้เลือกตั้งแต่ ขนาด 28-132 ตร.ม. พร้อมส่วนกลางมากกว่า 41 รายการ ราคาเริ่มต้น 4.23-19.67 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ “The Esquire” ให้บริการด้าน Property Management ครอบคลุมทั้งทีมนิติบุคคลช่วยบริหารจัดการภายในโครงการ บริการจัดหาและประสานผู้เช่า บริการซักรีด และบริการทำความสะอาดภายในห้องพัก ช่วยดูแลทรัพย์สินและคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกคนภายในโครงการ THE TITLE