ยกมือไหว้ยอมรับผิด ! หนุ่มขับเก๋งพกดาบไล่แทงในห้างมอบตัวแล้ว

ประเด็นคือ – หนุ่มขับรถ BMW เข้ามอบตัว หลังใช้อาวุธมีดดาบไล่แทงคู่กรณีบริเวณอาคารจอดรถห้างดัง ไม่พอใจโดนขับเบียด สารภาพทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ 

จากกรณีคลิปชายหนุ่มขับรถ BMW สีขาวใช้อาวุธมีดดาบไล่แทงคู่กรณี ในห้างเดอะมอลล์ท่าพระ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. เวลา 21.30 น. โดยนายปธิกร อรุณเดชา และ นางภิญดา อรุณเดชา สองสามีภรรยาเข้าแจ้งความที่ สน.บุคคโล พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างและรถที่ขับตามมาด้านหลัง มอบให้กับพนักงานสอบสวน เป็นภาพเหตุการณ์ ขณะกำลังขับรถออกจากห้าง แล้วมีรถเก๋ง ยี่ห้อ BMW สีขาว เลี้ยวซ้ายเพื่อจะออกจากห้างในอีกช่องทางหนึ่งมาชนรถของตนบริเวณล้อรถด้านซ้าย พร้อมมุมภาพจากกล้องวงจรปิดภายในลานจอดรถช่วงเวลาเกิดเหตุ และภาพบาดแผลที่ถูกมีดดาบของคู่กรณีใช้ดาบยาวพยายามแทงคนในรถ

ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 12.30 น. วันที่ 30 ธ.ค. ที่สน.บุคคโล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุซะมา ขะหลีดี อายุ 52 ปี เดินทางนำนายมะนุ๊ ขะหลีดี อายุ 24 ปี บุตรชายซึ่งก่อเหตุใช้มีดดาบฟันคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บ มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

โดยหลังจากเข้าให้ปากคำกับตำรวจเรียบร้อย ต่อมาทางผู้ต้องหาได้ออกมาพบเพื่อเจรจากับนายปธิกรและนางภิญดา พร้อมนายธนกฤต 21 ปี บุตรชายผู้โพสต์คลิปลงเฟซบุ๊ก
นายมะนุ๊ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกขอโทษมากๆ ที่ทำไปทั้งหมดเป็น เพราะอารมณ์ชั่ววูบ ตอนนั้นรถของตนและผู้เสียหายจะออกพร้อมกัน จึงขับเบียดกัน ไม่ได้คิดถึงลูกและภรรยาที่นั่งอยู่ในรถเลยว่าจะรู้สึกอย่างไร เพียงแต่รู้สึกโมโหจนหน้ามืด ส่วนดาบยาว เป็นดาบที่เพิ่งซื้อมาได้เพียง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมาตนเอาเก็บไว้ในรถ และกำลังจะนำไปเก็บที่บ้าน แต่นำมาก่อเหตุก่อน

ด้าน พ.ต.อ.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ ผกก.สน.บุคคโล กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย พกพาอาวุธมีด สอบปากคำ ส่วนข้อหาพยายามฆ่า ต้องไปดูกล้องวงจรปิดและการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ถ้ามีพยานหลักฐานเพิ่มเติมแจ้งข้อหาเพิ่มได้ ผู้ต้องหาก็ให้การรับว่า แสดงอาวุธ แต่ไม่ได้เจตนาทำร้าย แต่ภาพวงจรปิดตอบคำถามได้หมด การแสดงอาวุธดาบยาวข่มขู่ ค่อนข้างน่ากลัว ในสังคม ส่วนรถได้มาถูกต้อง เป็นรถของพี่ชาย จดทะเบียน เสียภาษีถูกต้อง ผู้ต้องหาไม่เคยมีประวัติที่มีปัญหา เรื่องดื่มสุรา หลังสอบปากคำ นำฟ้องศาลอาญา โดยพ่อผู้ต้องหาได้พาผู้ต้องหาเข้าไปยกมือไหว้ขอโทษสองสามีภรรยา ซึ่งฝ่ายภรรยาคู่กรณีได้กล่าวตักเตือนว่า อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก เวลาจะทำอะไรให้มองหน้าลูกไว้

นายปธิกร หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ในส่วนของค่าเสียหาย ในเบื้องต้นต้องรอผลการรักษาจากเเพทย์โรงพยาบาลธนบุรีในวันที่ 6 มกราคม ก่อนที่จะสรุปได้ว่า เสียค่าใช้จ่ายในส่วนใดไปบ้าง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นัดมาคุยเรื่องค่าเสียหายอีกทีในวันที่ 8 ม.ค.

ด้านนางภิญดา ผู้เสียหาย กล่าวว่า ในเมื่อมีการขอโทษตนก็พร้อมให้อภัย เเต่อยากฝากว่าอย่าก่อเหตุลักษณะนี้อีก ผู้ต้องหาเองก็มีลูกที่น่ารัก ลูกเขาก็อยู่ ไม่น่าก่อเหตุเเบบนี้อยากฝากว่าต่อไปทำอะไรคิดถึงลูกตนเองให้มากๆ เกิดเหตุอะไรมาลูกเค้าก็จะต้องเสียใจ เเละถ้าตนโดนกระทำครอบครัวของตนก็จะต้องเสียใจเช่นกัน อยากให้ควบคุมสติอารมณ์มากกว่านี้