SHARE

คัดลอกแล้ว

ยูนิโคล่ (UNIQLO) แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง (Fast Retailing) ที่เป็นเจ้าของ 8 แบรนด์

โดยแบรนด์ที่เหลือคือ GU, Theory, PLST (Plus T), Comptoir des Cotonniers, Princesse tam.tam, J Brand และ Helmut Lang บริษัทฯ มียอดจำหน่ายทั่วโลกประมาณ 3.1 ล้านล้านเยนในปีบัญชี 2024

ตอนนี้ถ้ามาดูยูนิโคล่มีร้านสาขากว่า 2,500 ทั่วโลก แต่ถ้านับจำนวนรวมของร้านสาขาในกลุ่มฟาสต์ รีเทลลิ่งอยู่ที่ราว 3,600 ร้านทั่วโลก

ล่าสุด ฟาสต์ รีเทลลิ่ง บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ประชุมสรุปวิสัยทัศน์ประจำปี LifeWear = a New Industry คือการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายทั้งทางด้านการสร้างการเติบโตทางธุรกิจและตอบสนองเป้าหมายด้านความยั่งยืน

‘โคจิ ยาไน’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด เล่าว่า บริษัทรวบรวมและวิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้าผ่านกว่า 30 ล้านข้อคิดเห็นจากทั่วโลกต่อปี ส่งผลให้ได้รับข้อมูลเบื้องลึกที่ช่วยให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อความต้องการตลอดจนไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างเหมาะสม

เขาบอกว่า ฟาสต์ รีเทลลิ่งจึงสามารถผลิต ขนส่งและจัดจำหน่ายเฉพาะสิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง นับเป็นกระบวนการทางธุรกิจที่ช่วยป้องกันการก่อขยะที่ไม่จำเป็นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“เรามีเป้าหมายที่จะผลิตและขายเฉพาะสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ เท่านั้น ด้วยห่วงโซ่อุปทานที่ดูแลทั้งสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนเพื่อให้ลูกค้าทุกคนสบายใจ”

ในปีงบประมาณ 2567 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง รวบรวมความคิดเห็นของลูกค้า ได้มากถึง 31.4 ล้านข้อคิดเห็นจากทั่วโลก โดยนำข้อเสนอแนะที่ได้รับผ่านศูนย์บริการลูกค้ามาวิเคราะห์ร่วมกับความคิดเห็นต่อผลิตภัณฑ์ตามหน้าเพจร้านค้าออนไลน์และความคิดเห็นที่ลูกค้าแสดงต่อพนักงานประจำร้านโดยตรงจนได้รับข้อมูลเบื้องลึกที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์

ความคิดเห็นจากลูกค้าช่วยให้ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่มาแล้วมากมาย อาทิ ผ้าถักแบบใหม่ “Souffle Yarn Knit” ที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทฯ แล้ว รวมถึงเสื้อชั้นในที่ปรับให้ใช้งานได้ดีขึ้น ตลอดจนนวัตกรรมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงผ้าถักลายนูนที่ซักได้ หรือ PUFFTECH ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างสรรค์มาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า

ในปีงบประมาณ 2567 คะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจผลิตภัณฑ์ของลูกค้าอยู่ในระดับสูง โดยผลิตภัณฑ์จากคอลเลคชัน Spring/Summer และ Fall/Winter ได้รับคะแนน 4.5 จาก 5

ดังนั้น ฟาสต์ รีเทลลิ่งจึงสามารถลดหรือป้องกันการผลิตสิ่งที่ไม่จำเป็นได้ ตลอดจนค่อยๆ พัฒนาการดำเนินธุรกิจแบบที่เน้นผลิตเฉพาะสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดเท่านั้น

นอกจากนี้ยังได้ใช้ระบบคาดการณ์ความต้องการที่อิงตามอัลกอริทึมช่วยให้การวางแผนจำหน่ายแม่นยำถูกต้องยิ่งขึ้น ระบบใหม่เน้นการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายผลิตเพื่อให้แผนผลิตปรับตามความต้องการได้รายสัปดาห์ การแจ้งให้โรงงานต่างๆ ทราบแผนการผลิตหรือความคืบหน้าต่างๆ ช่วยให้มีการสต็อกวัตถุดิบที่จำเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ

‘ฟาสต์ รีเทลลิ่ง’ สรุปให้ฟังว่า บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึงร้อยละ 69.4 ในส่วนที่ตนเองควบคุมได้โดยตรง (ร้านค้าหรือสำนักงาน) เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2562 ถือเป็นความคืบหน้าสู่เป้าหมายที่บริษัทตั้งใจจะลดลงให้ได้ 90% ภายในปี 2573

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า