SHARE

คัดลอกแล้ว

จับตาการค้าโลกต้นปีหน้าระอุ เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาแล้วว่าจะขึ้นภาษีศุลากรครั้งใหญ่ โดยเลือกจิ้มประเดิมกับ 3 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ คือ แคนาดา เม็กซิโก และจีน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายจับตาเรื่องสงครามการค้าที่จะเกิดขึ้น

โดยทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งทางการในวันที่ 20 มกราคม 2568 และประกาศว่าจะเซ็นลงนามคำสั่งผู้บริหารเพิ่มอัตราภาษีกับ 3 ประเทศในวันแรกที่ทำงานทันที โดยจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา และเม็กซิโก 25 เปอร์เซ็นต์ จนกว่าทั้งสองประเทศจะปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะเฟนทานิล และปราบปรามผู้อพยพที่ข้ามพรมแดน

โดยทรัมป์ได้ระบุรายละเอียดว่าสำหรับสินค้านำเข้าจากจีน จะเป็นการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก 10% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าใดๆ

การเคลื่อนไหวนี้ มาจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ไปโพสต์ไว้ในแพลทฟอร์ม Truth Social วันที่ 25 พ.ย.ที่แสดงความคิดเห็นว่าจะดำเนินการจัดการเรื่องเศรษฐกิจอย่างไรบ้างหลังเข้ารับตำแหน่ง

ตอนนี้หากเทียบการส่งออกแล้ว สินค้าจากเม็กซิโก ส่งออกไปสหรัฐมากถึง 83% ส่วนสินค้าส่งออกจากแคนาดาไปสหรัฐมากถึง 75%

มีการมองกันว่าอาจถือเป็นการละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐ เม็กซิโก และแคนาดา ที่เรียกว่า USMCA ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ทรัมป์เคยลงนามสมัยเป็นประธานาธิบดีสมััยแรก ในการดำเนินการค้าปลอดภาษีระหว่าง 3 ประเทศด้วยกัน

ที่สำคัญการขึ้นภาษีนี้เริ่มมีความวิตกกังวลว่าอาจจะสร้างปัญหาให้กับบริษัทในต่างประเทศ เช่น บริษัทผู้ผลิตยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายที่ใช้เม็กซิโกเป็นประตูการผลิตต้นทุนต่ำในการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ

หลังจากทรัมป์ โพสต์ข้อความจะขึ้นภาษีนำเข้า มีรายงานข่าวว่าเขาได้พูดคุยกับจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา โดยทั้งสองคนได้หารือเกี่ยวกับการค้าและความมั่นคงตามแนวชายแดน แหล่งข่าวทางแคนาดาบอกว่าบรรยากาศเป็นการหารือที่ดี

อย่างไรก็ตามมีเสียงวิจารณ์ว่าสิ่งที่ทรัมป์ประกาศมานั้นดูเป็นการคุกคามมากกว่าอย่างอื่นใด และเห็นว่าหากต้องการแก้ปัญหายาเสพติดและผู้อพยพเข้าสหรัฐตามแนวชายแดนควรใช้กลไกทวิภาคีและการเจรจาระดับสถาบันในการปราบปรามการค้ามนุษย์ ยาเสพติด และอาวุธเถื่อนมากกว่าใช้มาตรการการขึ้นภาษี เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการตอบโต้ทางการค้าเพิ่มมากขึ้น และคนที่จะได้รับผลกระทบก็หนีไม่พ้นประชาชนตาดำๆ อยู่ดี

[ ไทยมีเสียว ]

ถ้าไปดูสัดส่วนว่าสหรัฐอเมริกาขาดดุลกับประเทศไหนมากที่สุดในโลก แน่นอนว่าอันดับหนึ่งคือ จีน รองลงมาเม็กซิโก อันดับ 3 คือเวียดนาม ส่วนแคนาดาอยู่อันดับ 6

และที่ต้องมองหน้าเหลียวหลังดีๆ ในบัญชีของสหรัฐขาดดุลไทยเป็นอันดับที่ 12 ดังนั้นไทยก็ติด TOP 20 ที่สหรัฐมองๆ อยู่เช่นกัน ซึ่งทรัมป์ก็พูดชัดเจนว่าอเมริกาต้องมาก่อน ดังนั้นไม่มีว่าประเทศไหนจะรอดพ้นเรดาห์ของประธานาธิบดีคนใหม่แน่นอน

ตอนนี้สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าลำดับที่ 2 ของไทยรองจากจีน โดยการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯมีมูลค่า 67,659.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 3.65

ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 1 ของไทย โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 48,352.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 1.72

ทั้งนี้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 55,681.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 9.84

ไทยส่งออกไปสหรัฐฯมีมูลค่า 40,610.98 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 12.48 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ก๊าซธรรมชาติ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องบิน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า