SHARE

คัดลอกแล้ว

ไทยพาณิชย์เปิดผลดำเนินงาน 9 เดือนยังแข็งแกร่งทุกเป้าหมาย เติบโตทั้งผลกำไร รายได้ดิจิทัล และรายได้การบริหารความมั่งคั่ง มั่นใจกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch สามารถนำองค์กรก้าวข้ามทุกความท้าทาย

เผยแผนปี 2568 เน้นสร้างการเติบโตธุรกิจและพัฒนากระบวนการภายในให้เป็นธนาคารดิจิทัลที่เหนือกว่าทั้งเทคโนโลยีและบริการ เตรียมปรับโครงสร้างดูแลลูกค้าโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ควบรวมช่องทางให้บริการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อ ให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงบริการที่ตรงใจมากยิ่งขึ้น

เสริมความแข็งแกร่งโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน AI & Data Intelligence เร่งยกระดับประสิทธิภาพบุคลากรด้วยความสามารถด้านเทคโนโลยี เดินหน้ายุทธวิธี AI-First Bank ต่อเนื่องเพื่อพัฒนารูปแบบบริการสู่ธนาคารแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมวิ่งนำในอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล

‘กฤษณ์ จันทโนทก’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า การดำเนินงานตามกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch สร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง และสามารถพิชิตทุกเป้าหมายที่วางได้ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2567 ธนาคารไทยพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 3.85 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (yoy)

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 3.1% yoy รายได้จากธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งเติบโต 19% yoy อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ระดับ 12.1% ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic Systemically Important bank: D-SIBs) มีต้นทุนต่อรายได้ที่ 36.7% ต่ำที่สุดในระบบ D-SIBs

นอกจากนี้ ในเรื่องความยั่งยืนนั้น ธนาคารไทยพาณิชย์ตอกย้ำบทบาทพันธมิตรในการพาลูกค้าทุกกลุ่มเร่งปรับตัวสู่สังคมคาร์บอนต่ำมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนกว่า 1.34 แสนล้านบาท (ณ พ.ย. 2567) จากเป้าหมาย 1.5 แสนล้านบาทในปี 2568

จากผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 แสดงให้เห็นพัฒนาการทางด้านดิจิทัลแบงก์ ด้วย 5 ผลงานสำคัญ ได้แก่ 1. รายได้จากช่องทางดิจิทัลต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นสู่ 15% จาก 7% ณ ปลายปี 2566

2. นำการใช้ AI ครอบคลุมมิติสำคัญของธนาคาร อาทิ การใช้ AI อนุมัติสินเชื่อ 100% และเพิ่มขีดความสามารถด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแบบเฉพาะบุคคล (Hyper-personalization) รวมถึงการใช้ AI เสริมประสิทธิภาพให้กับพนักงานดูแลลูกค้าและบริการสาขา เป็นต้น

3. การเปลี่ยนกระบวนการจากระบบมือสู่อัตโนมัติได้มากกว่า 1,000 กระบวนการ 4. การเพิ่มเสถียรภาพให้แก่ SCB EASY ซึ่งสามารถลด Downtime จาก 4 ช.ม. ในปี 2566 เป็น 1 ช.ม. ในปีนี้ และ 5.การวางรากฐานการเป็นธนาคารแห่งอนาคต ด้วยการลงทุนระบบหลักของธนาคาร (Core Bank) บนระบบคลาวด์

ขณะที่ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ได้สร้างผลงานโดดเด่นเชิงประจักษ์อย่างมาก โดยรายได้การบริหารความมั่งคั่งเติบโต 19% yoy ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน (Asset Under Advisory) เติบโต 11% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่เติบโต 1.5%

นอกจากนี้ ธนาคารยังครองอันดับหนึ่งสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการประเภทอนุพันธ์แฝง (Structured Product) ครองอันดับหนึ่ง Wealth Lending และรักษาอันดับหนึ่งยอดประกันผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร (Bancassurance) ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 23%

สำหรับในปี 2568 อุตสาหกรรมธนาคารยังพบกับความท้าทาย 3 ด้านใหญ่ๆ กล่าวคือ 1. ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตช้าลง โดยคาดการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 2.4% 2. ระดับหนี้ครัวเรือนไทยที่ยังสูงซึ่งเพิ่มความท้าทายในธุรกิจสินเชื่อมากขึ้น และ

3. เทรนด์ AI และกฎกติกาด้าน ESG ยังคงมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเกิดขึ้นของธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศผู้ที่ได้ใบอนุญาต Virtual Bank อย่างเป็นทางการภายในไตรมาส 2 ของปี 2568 จะเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญในระบบการเงินของไทย

ในปี 2568 ธนาคารจึงได้วางแผนปรับทิศทางธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch โดยมุ่งสร้างการเติบโตธุรกิจและพัฒนากระบวนการภายใน (Scale & Operate) ให้เป็นธนาคารดิจิทัลที่เหนือกว่าทั้งเทคโนโลยีและบริการ เพื่อเป็นรากฐานไปสู่องค์กรยั่งยืนจากนี้ จึงเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกับความท้าทายใหม่ที่จะเกิดขึ้น

โดยจะให้ความสำคัญกับการสร้างคุณภาพใน 3 ส่วน ได้แก่ การมอบคุณภาพให้ลูกค้าด้วยบริการที่ตรงใจ การยกระดับคุณภาพขององค์กร และการสร้างพนักงานที่มีคุณภาพ ผ่านการปรับโครงสร้างและวิถีการทำงาน สร้างความสามารถในการแข่งขัน พร้อมพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยจะดำเนินการบน 3 แนวทาง ดังนี้

1) ปรับโครงสร้างการดูแลลูกค้าโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง โดยควบรวมช่องทางให้บริการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อให้เกิดขึ้นจริง ทั้งยังสร้างความคล่องตัวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม

2) วางรากฐานดิจิทัลให้แข็งแกร่ง เร่งเสริมความสามารถทางด้าน Digital และ AI ให้ครอบคลุมทั้งองค์กร และแบ่งทีมดิจิทัลเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน AI & DATA Intelligence (Center of Excellence: COE) เป็นศูนย์กลางสนับสนุนการพัฒนาทางด้านดิจิทัลโดยเฉพาะ และอีกส่วนหนึ่งจะถูกจัดลงสู่ทีมธุรกิจเพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินของแต่ละกลุ่มธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง

3) เสริมศักยภาพในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการ ภายใต้โจทย์ เร็ว ดี มีนวัตกรรม เพื่อให้รูปแบบการทำงานแบบใหม่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เข้าถึงความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริง และไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบเฉพาะบุคคล (Hyper-personalization)

‘ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและธุรกิจที่มีความท้าทาย ธนาคารต้องเร่งเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันเพื่อสร้างการเติบโตของกำไรอย่างยั่งยืน ความสำเร็จที่เราเป็นในวันนี้อาจไม่เพียงพอต่อการเป็นผู้นำในวันข้างหน้า’

ดังนั้น เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขันในอนาคต ธนาคารไทยพาณิชย์จึงต้องเร่งพัฒนาเพื่อให้เรายังคงวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและเป็นผู้นำต่อไปได้ โดยมีเป้าหมายในการนำยุทธวิธี AI-First Bank มาเป็นเครื่องยนต์หลักในการยกระดับธนาคารสู่ ‘ธนาคารแห่งอนาคต’ ด้วยการนำ AI เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างสมบูรณ์ และมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

‘ไม่ใช่แค่เพียงสร้างความพึงพอใจ แต่ต้องสามารถคาดการณ์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าได้แบบรายบุคคล รวมถึงการนำ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมของบุคลากร และสร้างไทยพาณิชย์ให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น’ ซีอีโอกล่าวปิดท้าย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า