คิปโชเก้เยือนแผ่นดินไทย ไม่ว่าใครก็ได้ประโยชน์

เอลีอุด คิปโชเก้ นักวิ่งในตำนานชาวเคนย่า เดินทางมาที่ประเทศไทย สร้างกระแสอิมแพ็กต์แบบสุดๆ ภาพที่เขาวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ของประเทศไทย ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก

คิปโชเก้ มาทำไม และ ประเทศไทยได้ประโยชน์อะไร เราจะไปอธิบายอย่างเข้าใจง่าย

เอลีอุด คิปโชเก้ คือนักวิ่งระยะไกลชาวเคนย่า ที่เป็น ‘ไอคอน’ ของโลกใบนี้ จากผลงานสุดยอด ได้เหรียญทองมาราธอน 2 สมัยซ้อน ที่ริโอในปี 2016 และ โตเกียวในปี 2020

นอกจากนั้นยังเป็นนักวิ่งคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่วิ่ง ‘Sub 2’ หรือวิ่งมาราธอนในระยะเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้อีกด้วย ในอีเวนต์พิเศษ Ineos 1:59 Challenge ที่เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2019 โดยคิปโชเก้ ทำเวลาได้ 1:59:40 สามารถทำ Sub 2 ได้จริงๆ แต่สถิตินี้ จะไม่ถูกนับรวมอย่างเป็นทางการ เพราะเขาใช้ตัวช่วยพิเศษหลายอย่าง เช่น มีกลุ่มเพซเซอร์ จำนวน 41 คน ‘คอยช่วยลาก’  เพื่อทำให้เวลาเร็วขึ้นกว่าการวิ่งปกติเล็กน้อย

ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ ความดังของคิปโชเก้ ก็เหมือนโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ในกีฬาเทนนิส, ไทเกอร์ วูดส์ ในกีฬากอล์ฟ หรือ รอนนี่ โอ ซุลลิแวน ในสนุกเกอร์ นั่นคือเป็นตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของวงการวิ่ง

ในปัจจุบัน เขามีอายุ 40 ปีแล้ว แม้จะไม่สามารถวิ่งได้รวดเร็วเท่าในอดีต แต่ก็ยังถือว่าเร็วมาก และเป็นนักกีฬาระดับอีลีทเช่นเคย

คิปโชเก้ เดินทางมาที่ประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2024 จากความพยายามของ กอบเกียรติ แสงวนิชย์ ผู้บริหาร บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดอีเวนต์งานวิ่งในประเทศไทย โดยคุณกอบเกียรติตั้งใจว่า ถ้าหากไทยเราสามารถเชิญคิปโชเก้ มาเยือนประเทศไทยได้ การท่องเที่ยวเชิงกีฬาของไทย จะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

กอบเกียรติ แสงวนิชย์ อธิบายในโซเชียลมีเดียของตัวเองว่า เขาเชิญคิปโชเก้มาไทย แต่ตอนแรกๆ ก็ถูกปฏิเสธกลับมา เพราะรูทีนการซ้อมโดยปกติของคิปโชเก้ จะอยู่แต่ในเคนย่าเท่านั้น ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม NN Running Team ถ้าจะบินไปไหน คือไปแข่งรายการระดับโลก ดังนั้น การมาประเทศไทยเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ น่าจะเป็นไปได้ยาก

หลังจากกอบเกียรติพยายามอย่างหนัก ราว 7 เดือน ในที่สุดคิปโชเก้ ก็ตอบตกลงที่จะมาเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมกิจกรรมการวิ่ง ที่บริษัท ไตรลีก จัดขึ้น อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หยุดแค่ตรงนั้น เพราะในเมื่อวาระที่ตำนานอย่างคิปโชเก้มาเยือนแล้ว ทางรัฐบาลไทยก็เห็นเป็นโอกาสดี จึงเจรจา ให้คิปโชเก้ รับตำแหน่ง ‘ทูตการท่องเที่ยว กีฬา และ วัฒนธรรม’ ให้กับประเทศไทยไปด้วยเลย เป็นระยะเวลา 3 ปีเต็ม

ดังนั้นในช่วง 3 ปีนี้ เราจะได้เห็นคิปโชเก้ เดินทางมาร่วมอีเวนต์ที่ไทยบ่อยขึ้น โดยเฉพาะในงานวิ่งระยะไกล ที่มีจัดแข่งในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับอีเวนต์กีฬาใหญ่ในไทย ปัจจุบันเหลือน้อยมาก ถ้าจะมีก็คือ กอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ทัวร์ ที่มีนักแข่งระดับโลกมากันอย่างคับคั่ง แต่กีฬาอื่นๆ ก็ไม่ค่อยโดดเด่นมาก

ภาครัฐ มองว่ากิจกรรมกีฬาที่แข็งแรง จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดี และอีเวนต์กีฬา ที่เริ่มถูกพูดถึงในระดับนานาชาติ คือ วิ่งผ่าเมือง “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก” ที่จัดต่อเนื่อง เป็นครั้งที่ 7 แล้วในปีนี้

‘อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก’ จะเป็นการแข่งวิ่งในระยะมาราธอน (42.195 กม.), ฮาล์ฟมาราธอน (21.10 กม.) และ มินิฮาล์ฟ มาราธอน (10 กม.) โดยจะวิ่งในเขตกรุงเทพชั้นใน ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ อย่าง ถนนราชดำเนิน, พระบรมมหาราชวัง, ภูเขาทอง และ อนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า เป็นต้น

ในปี 2024 มีทั้งคนไทย และคนต่างประเทศ ลงทะเบียนร่วมแข่งขัน 33,712 คน แน่นอนว่า ทำให้การท่องเที่ยวในช่วงวันแข่งก็จะมีเงินสะพัด เพราะผู้คนที่เดินทางเข้ามา ก็ต้องจ่ายค่าโรงแรม ค่าเดินทาง ค่าอาหาร

สำหรับรายการวิ่งระยะไกล ที่ได้รับความนิยมลำดับต้นๆ ในเอเชีย คือ โตเกียวมาราธอน ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ละปี มีคนลงทะเบียนร่วมสมัครวิ่งมากกว่า 3 แสนคน แต่จะมอบโควต้าให้นักวิ่งเพียง 38,000 คนเท่านั้น

หลายคนเชื่อว่า ถ้าหากประเทศไทย พัฒนา อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก ให้ฮิตกว่านี้ ด้วยการโปรโมทที่ดี จำนวนผู้สมัครในอนาคตก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น และทำให้เป็นรายการที่ใหญ่กว่าเดิม นำมาซึ่งรายได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย

ในการแข่ง อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก คิปโชเก้ลงวิ่งแบบเพลินๆ ในระยะ 10K ร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ก่อนจะเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1:24:45 ชั่วโมง

เมื่อมีภาพคิปโชเก้มาร่วมอีเวนต์แบบนี้ ก็เชื่อได้ว่าเขาจะร่วมวิ่งอีกในปีหน้า เพราะเซ็นสัญญาเป็นทูตกับรัฐบาลไทยไว้แล้ว 3 ปี ดังนั้น ถ้าหากนักวิ่งคนไหน อยากจะมีโอกาสได้เห็นคิปโชเก้ตัวเป็นๆ ก็สามารถ มาลงทะเบียน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อกในปีหน้าได้ และบางทีเป้าหมายผู้สมัคร 4 หมื่นคน อาจไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม ซึ่งถ้าเกิดขึ้น ก็จะเพิ่มรายได้ ให้ประเทศไทยอย่างมหาศาลจากภาคการท่องเที่ยว

ความน่าสนใจคือ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป รายการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก จะถูกจับไปรวมอยู่ใน “คิปโชเก้ เวิลด์ซีรีส์” หรือชื่อเต็ม คือ Runfest Global Marathon Series ซึ่งจะมีการแข่งมาราธอนหลายสนาม แต่จะมาปิดท้ายที่ไทย

เชื่อว่าความนิยมของรายการนี้ ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก และบางทีประเทศไทย ก็อาจมีอีเวนต์กีฬา ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้มากๆ อีกหนึ่งรายการ

สำหรับการมาเยือนไทยครั้งนี้ของคิปโชเก้ จริงๆ ก็ถือว่า ได้ทำอะไรหลายอย่าง ไม่ใช่แค่วิ่งผ่าเมืองเท่านั้น แต่ยังไปถ่ายโฆษณาให้กับ ททท. , กกท. และ กระทรวงวัฒนธรรมฯ รวมถึงมีการเปิดคลีนิกสอนวิ่งร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกด้วย

เมื่อคิดตามหลักเหตุผลแล้ว การให้นักกีฬาระดับโลกอย่างคิปโชเก้ เป็นทูต ถือเป็นไอเดียที่ดีของรัฐบาลไทย เพราะคิปโชเก้ จะไปไหน ทำอะไร ก็เป็นข่าวหมด และเมื่อมีภาพของเขาวิ่งผ่านสถานที่สำคัญในกทม. ประเทศไทยก็จะถูกพูดถึงมากขึ้น

นอกจากนั้น การที่คิปโชเก้ นักกีฬาตำนานที่ปกติแทบไม่เคยไปไหน นอกจากไปแข่ง แต่ตัดสินใจมาประเทศไทย ก็สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทย เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ชอบปาร์ตี้ หรือชอบออกกำลังกาย ประเทศไทยของเราพร้อมตอบสนองได้ทุกรูปแบบ

ที่ผ่านมา เมื่อพูดถึง ทูตการท่องเที่ยวของไทย เรามักจะคิดถึงคนในวงการอื่นๆ เช่นวงการบันเทิง แต่การตัดสินใจเลือกคิปโชเก้ ที่เป็นสายกีฬา มาเป็นทูต ถือเป็นย่างก้าวที่ดีของภาครัฐ เพราะคงได้เห็นแล้วว่า บุคลากรกีฬาระดับโลก ก็มีอิมแพ็กต์มากในปัจจุบัน ไม่แพ้คนในวงการอื่นๆ เลยทีเดียว