SHARE

คัดลอกแล้ว

หลังจากสัปดาห์ก่อนมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT จากเดิม 7% เป็น 15% ทำเอาหลายคนวิตกกังวลกันว่าอาจจะต้องจ่ายเงินซื้อข้าวของต่างๆ ในราคาที่แพงขึ้น

แต่ในท้ายที่สุดก็ยังไม่ได้มีการประกาศเก็บ VAT เพิ่มเพราะถูกหลายฝ่ายคัดค้านและประชาชนก็อาจจะยังไม่พร้อมในสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีแบบนี้ทำให้ถูกปัดตกไป

ทุกคนรู้ไหม? แม้ว่าเราจะเห็นหลายๆ ประเทศมีการใช้นโยบายเก็บ VAT เหมือนกันกับของไทย แต่ก็มีอีกหลายประเทศที่ไม่มีระบบ VAT แบบนี้

แล้วถ้าไม่มีเก็บ VAT เขาใช้วิธีไหนแทนล่ะ? TODAY Bizview รอบนี้หยิบเรื่องนี้มาอธิบายให้ฟังแบบเข้าใจง่าย เกี่ยวกับนโยบายเก็บ VAT ของต่างประเทศ และอัตรา VAT ที่ถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับอะไร

[ เกือบทั้งโลกใช้ระบบ VAT ]

ปัจจุบันมีประเทศที่ใช้นโยบายเก็บ VAT ประมาณ 170 ประเทศ จากทั้งหมด 195 ประเทศในโลก

ตัวอย่างภูมิภาคและประเทศที่เก็บ VAT

ยุโรป : ทุกประเทศในสหภาพยุโรป (EU) ใช้ระบบ VAT โดยมีการกำหนดขั้นต่ำที่ 15% (ตามกฎหมายของ EU) และแต่ละประเทศสามารถตั้งอัตราของตนได้ เช่น เยอรมนี 19% สวีเดน 25%

เอเชีย : ประเทศส่วนใหญ่ใช้ระบบ VAT เช่น ไทย 7% จีน  13% ญี่ปุ่น (ใช้ระบบ GST ที่คล้าย VAT ซึ่งเก็บอยู่ที่ 10%

แอฟริกา : หลายประเทศก็ใช้นโยบาย VAT เช่นกัน อย่างแอฟริกาใต้ 15% เคนยา 16%  และอียิปต์ 14%

อเมริกาใต้ : ประเทศในภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่ก็ใช้ VAT เช่น บราซิล 18-25% (แล้วแต่รัฐ) อาร์เจนตินา 21% ชิลี 19%

ตะวันออกกลาง : โซนนี้เริ่มนำระบบ VAT มาใช้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5% และซาอุดีอาระเบีย 15%

[ ถ้าไม่เก็บ VAT แล้วเก็บอะไร? ]

สำหรับประเทศที่ไม่ได้นโยบายเก็บ VAT ก็จะมีระบบภาษีที่แตกต่างกันออกไป เห็นได้ชัดในสหรัฐอเมริกา ที่ไม่มีระบบ VAT แต่ใช้ระบบ Sales Tax ซึ่งเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากการขายสินค้าและบริการในระดับรัฐหรือท้องถิ่น

โดยอัตรา Sales Tax จะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ และบางรัฐไม่มีการเก็บ Sales Tax เลย เช่น เดลาแวร์, โอเรกอน, นิวแฮมป์เชียร์, มอนแทนา, และอลาสกา

หรืออย่างประเทศโมนาโก ก็ไม่มีระบบ VAT แยกต่างหาก เพราะใช้ระบบเดียวกับฝรั่งเศส โดยโมนาโกใช้ VAT ในบางกรณีที่เกี่ยวข้องกับการค้าขาย แต่ไม่ใช่ภาษีที่ส่งผลต่อประชากร

และประเทศในแคริบเบียนบางประเทศเช่น บาฮามาส ไม่มี VAT แต่ใช้ภาษีอื่น เช่น ภาษีนำเข้า หรือค่าธรรมเนียมพิเศษแทน

รวมถึงฮ่องกง ปัจจุบันก็ยังไม่มีระบบเก็บ VAT แต่มีระบบภาษีที่แตกต่าง โดยรายได้หลักของรัฐบาลจะมาจากภาษีรายได้และภาษีจากธุรกรรมแทน

หากเราโฟกัสมากขึ้นจะพบว่าประเทศที่ไม่มี VAT หรือมีอัตรา VAT 0% ก็มักจะมีรายได้จากแหล่งอื่นมาทดแทน เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ การส่งออก หรือการท่องเที่ยว และในบางประเทศการไม่เก็บ VAT อาจเป็นวิธีดึงดูดการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วย

[ จะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับอะไร? ]

คงจะเห็นว่าถึงจะมีการเก็บ VAT เหมือนกัน แต่อัตรา VAT ที่ถูกเรียกเก็บกับไม่เท่ากันเลย แม้ว่าจะอยู่ในโซนประเทศเดียวกันก็ตาม

โดยตัวที่จะกำหนดอัตรา VAT ให้ถูกหรือแพงในแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ตัวอย่างเช่น

ประเทศที่มีความจำเป็นต้องระดมรายได้สูง เช่น ประเทศที่มีโครงการสวัสดิการสังคมขนาดใหญ่ หรือมีภาระหนี้สินมาก มักกำหนด VAT ในระดับสูง เช่น ฮังการี  27%

ส่วนประเทศส่วนใหญ่ที่ต้องการส่งเสริมการบริโภคหรือกระตุ้นเศรษฐกิจมักกำหนด VAT ต่ำ เช่น ลักเซมเบิร์ก 16% หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5%

นอกจากนี้ ปัจจัยเรื่องค่าครองชีพและความเหลี่ยมล้ำทางสังคมของแต่ละประเทศก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญในการกำหนดอัตรา VAT

อย่างประเทศที่มีค่าครองชีพสูงและความเหลื่อมล้ำต่ำ มักตั้ง VAT สูง เพราะประชาชนสามารถรับภาระภาษีได้ ในทางกลับกันประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำอาจกำหนด VAT ต่ำ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชน เช่น ไทยที่  7%

นอกจากนี้ ประเทศที่ต้องการดึงดูดการลงทุนและการท่องเที่ยว อาจกำหนด VAT ให้ต่ำ เพื่อให้สินค้าและบริการในประเทศมีราคาที่แข่งขันได้ เช่น มอลตาที่ 18%

ดังนั้นแล้ว อัตรา VAT ที่เรียกเก็บจะถูกหรือแพงจะขึ้นอยู่กับนโยบายเศรษฐกิจและสังคมของประเทศนั้นๆ รวมถึงเป้าหมายของรัฐบาลในการบริหารจัดการรายได้และค่าใช้จ่าย ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า