“นัท นิสามณี” อินฟลูฯ ดัง ปรับตัวสู้การแข่งขันสูงในตลาดคอนเทนต์ ไม่ตัดโอกาสคว้าเงินลอยในอากาศ

ในยุคที่โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น ใครๆ ก็สามารถมีอาชีพเป็น “คอนเทนต์ครีเอเตอร์” ได้ง่ายๆ แค่มีสมาร์ทโฟนที่มีกล้องและอินเตอร์เน็ต โดยในปัจจุบันการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ไม่ได้สร้างรายได้จากยอดผู้เข้าชมหรือการมีสปอนเซอร์เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างรายได้อีกช่องทาง จากการทำ Affiliate หรือที่คุ้นเคยกันว่า “การปักตะกร้า” ซึ่งเป็นการได้รับค่าคอมมิชชันจากการทำการตลาดให้กับร้านค้าหรือแบรนด์สินค้าต่างๆ โดยด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนต์โปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์ของเราเอง สามารถทำได้ทั้งอินฟลูเอนเซอร์ หรือบุคคลทั่วไป 

ทางสำนักข่าว TODAY ได้รับโอกาสพิเศษในการพูดคุยกับอินฟลูเอนเซอร์ดัง “นัท นิสามณี” เจ้าของช่อง Nisamanee.Nutt ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.43 ล้านคน ถึงการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในยุคปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะมีชื่อเสียงแค่ไหนก็ต้องมีปรับตัว ไม่ได้รอโอกาสลอยมาหาอีกต่อไป แต่เป็นตนที่ต้องคว้าเงินที่ลอยอยู่ในอากาศเอง ซึ่งเริ่มต้นเธอได้เล่าถึงการก้าวเข้ามาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ จนก้าวเข้ามาสู่การเป็นยูทูบเบอร์แนวหน้าว่า “การมาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ของนัทมาแบบไม่ได้ตั้งใจจะเป็น เพราะนัทเป็นคนที่ชอบอัปเดตชีวิตส่วนตัว วันนี้แต่งตัวอะไร วันนี้ไปไหน นัทก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมันจะกลายมาเป็นอาชีพ หรือที่ทุกคนในยุคนี้ทำ แต่เราเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จนคนมาติดตามชีวิตเรา และกลายมาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ นัทหาเงินกับโลกอินเตอร์เนตมามากกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนการเปิดช่อง Youtube ครั้งแรก ต้องขอบคุณเพื่อน ตอนแรกนัทมีคนติดตาม 1 ล้านกว่าคนแล้วในแพลตฟอร์มนึง ซึ่งยุคนั้นเราก็มั่นอยู่แล้ว ไลฟ์ทีคนดู 3-4 หมื่นคน เป็นยุคที่ไม่ได้มีคนไลฟ์เยอะเหมือนทุกวันนี้ เพื่อนก็บอกว่าเธอต้องเปิดช่อง Youtube นะ เธอจะมีแค่ทางเดียวไม่ได้ นัทก็บอกว่าถ้าเขาอยากดูฉัน เขาก็จะตามมาดูฉันที่นี่แหละ แต่เพื่อนก็พยายามบอกว่าเปิดเถอะ ด้วยความตัดรำคาญ เราก็เลยแบบเปิดก็เปิด ก็ต้องขอบคุณเพื่อน ถ้าวันนั้นนัทไม่เปิด ชีวิตคงพลิกไปเยอะมาก เพราะทุกวันนี้แพลตฟอร์มที่นัททำงานหลักๆ หนึ่งในนั้นก็คือ Youtube”

[ “ยอดวิว” ไม่ใช่รายได้หลักอย่างเดียวจากการเป็นยูทูบเบอร์ ]

“นัท นิสามณี” เปิดเผยว่ารายได้หลักของเธอ ไม่ได้มาจากยอดวิวของคลิปใน Youtube อย่างที่คนทั่วไปเข้าใจว่า “นัทพูดตรงๆ นะ ตั้งแต่ทำ Youtube มา รายได้หลักของนัทไม่เคยเป็นค่าวิวเลย ทุกครั้งที่นัทลงคลิป นัทจะไม่ได้ซีเรียสว่าเราต้องได้คลิปยอดวิวเยอะๆ เพื่อจะได้เงินตอนสิ้นเดือน และหลายๆ คลิปของนัทติดเหลือง เพราะเราแต่งตัวแบบตัวแม่ไง เพราะฉะนั้นรายได้หลักของนัทไม่ได้มาจากค่าวิว แต่จะมาจากสปอนเซอร์ที่ติดต่อเข้ามาให้รีวิวสินค้า ซึ่งจะเป็นรายได้หลักในยุคนึง แต่ปัจจุบันรายได้ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ก็จะมีอีกรูปแบบนึงที่เกิดขึ้น”

[ ถ้าไม่ปรับตัว คุณตายแน่นอน สร้างโอกาสคว้าเงินที่ลอยในอากาศ ] 

ในยุคที่มีการแข่งขันสูง มีคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นทุกวัน แม้ “นัท นิสามณี” จะเป็นอินฟลูอินเซอร์แนวหน้าของประเทศไทย มีผู้ติดตามกว่า 2.43 ล้านคน แต่เธอก็ยังต้องปรับตัวในการหารายได้ ไม่ได้รอรับแต่สปอนเซอร์ที่เข้ามาจ้างเท่านั้น เธอยังคว้าโอกาสในการทำ Affiliate ที่เธอให้นิยามว่าเป็นเงินลอยอยู่ในอากาศ โดยใช้ฟีเจอร์ YouTube Shopping Affiliate ที่ทาง Youtube ร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee 

“อยากบอกกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ทั้งหน้าเก่า และคนที่กำลังจะมาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ว่าตอนนี้มีอีกหนึ่งช่องทางที่เงินลอยอยู่ในอากาศ คือการได้เงินจากการทำ Affiliate ปกติลูกค้าจ้างให้นัทรีวิวสินค้าตัวนี้ นัทได้ค่าจ้าง จบ แต่ปัจจุบันนี้ บางอย่างเราไม่ต้องรอลูกค้าจ้างก็ได้ เพราะการแข่งขันสูงขึ้น เมื่อก่อนคอนเทนต์ครีเอเตอร์จะมีประมาณนึง แต่ทุกวันนี้ด้วยรูปแบบแพลตฟอร์มมันออกแบบให้คนกลายเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์กันหมด แต่แบรนด์สินค้ายังมีงบจำกัดต่อปีเท่าเดิม ถ้าเราไม่แน่จริง สมมติเมื่อก่อนมี 10 ชื่อ แต่ตอนนี้มี 100 ชื่อ แปลว่ามีโอกาสที่ลูกค้าจะจ้างงานเรา หลุดไปที่อื่นได้ ถ้าคุณไม่ปรับตัว คุณตายแน่นอน แม้กระทั่งตัวนัทเอง เมื่อก่อนนัทเคยสัมภาษณ์ว่านัทจะไม่มีวันหยิบกล้องหรือโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิป ถ้าไม่มีสปอนเซอร์ เพราะนัทก็เคยอยู่ในยุคที่มีสปอนเซอร์ทุกคลิป แต่ปัจจุบันนี้อย่างที่นัทบอกว่าแม้กระทั่งตัวนัทเองมองว่านัทเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์อันดับต้นๆ นะ นัทยังมีการหลุดอันดับในบางไตรมาสด้วยซ้ำ ฉะนั้นคนที่ตัวเล็กกว่านัทลงไป คุณก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน ถ้าเราจะอยู่ตรงนี้ให้ได้ เราต้องตามให้ทันทุกสถานการณ์ ทุกวันนี้นัทก็ยังหันมายึดอีกช่องทาง คือการทำ Affiliate

คลิปของนัทสามารถหาเงินได้หมดเลย เพราะฟีเจอร์ใหม่ YouTube Shopping Affiliate ที่ร่วมมือกับ Shopee สมมตินัทกินอันนี้อยู่ นัทก็แค่ใส่ Link สินค้าจาก Shopee ว่านัทกินอันนี้ ใส่รองเท้าคู่นี้สวยมากเลย ใครอยากจะกดสั่งซื้อก็กด Link ที่นัทใส่ไว้ คนก็จะกดซื้อตามเรา แล้วเงินค่า Affiliate ก็จะเข้าบัญชีที่เราที่เชื่อมไว้ มันง่ายทั้งคอนเทนต์ครีเอเตอร์และผู้บริโภค แล้วอีกอย่างหนึ่ง คนที่ติดตามเราก็อยากจะสนับสนุนเรา ยิ่งเขารู้ว่ากดซื้อตรงนี้ เราได้ค่า Affiliate นะ มันก็เป็นสายสัมพันธ์ที่น่ารักระหว่างคนดูกับเจ้าของช่อง แทนที่เขาจะตรงเข้าไปซื้อที่ร้านเอง เขาก็ไม่ได้สนับสนุนคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่เขาชอบ พอเราบอกว่าเราขายอันนี้ เขาอยากซื้อพอดี เขาก็ได้สนับสนุนคอนเทนต์ครีเอเตอร์ด้วย แบรนด์สินค้าก็ได้ขายของด้วย มันมีแต่ข้อดีไปหมดเลย”

เมื่อถามถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าผู้ชมในช่องของ “นัท นิสามณี” มีอะไรที่สามารถป้ายยาผู้ชมได้บ้าง เธอตอบว่า “ตอนแรกๆ นัทโตมาจาก ‘สะบัดแปรง’ เลยคิดว่าคนคงซื้อตามนัทแค่เครื่องสำอาง พอหลังๆ นัทผันตัวมาทำ VLOG แบบไลฟ์สไตล์ คนตามดูนัทตั้งแต่ตื่นยันนอน ก็จะถามว่าใช้อะไร แม้กระทั่งล่าสุดหม่าม้าทำกับข้าวในคอนเทนต์ “เรื่องราวเช้านี้” คนไปซื้อเครื่องปรุงตามที่แม่นัทใช้ นัทถึงบอกว่าเงินมันลอยอยู่ในอากาศจริงๆ มันอยู่แค่ว่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในยุคนี้ จะทำคอนเทนต์เอนเตอร์เทนเฉยๆ หรือจะทำคลิปเอนเตอร์เทนแล้วได้เงินด้วย เพราะคนดูในทุกวันนี้ ไม่อึดอัดกับการขายของอีกต่อไป เพราะมันมีการขายของอยู่ตลอดเวลา แค่คนดูลืมตาขึ้นมา มันมีโฆษณาอยู่ในทุกที่แล้ว ในยุคนึงเราต้องขายของยังไงก็ได้ให้รู้สึกไม่อึดอัดมากที่สุด แต่ทุกวันนี้เสน่ห์ของการขายของก็คือให้มันโจ่งแจ้ง ให้มันชัดไปเลย นัทว่าคนดูก็รู้สึกว่ามันแฟร์ดี ตัวคอนเทนต์ครีเอเตอร์เองก็รู้สึกไม่ต้องอึดอัดในการขาย”

[ การทำ Affiliate ง่ายสำหรับอินฟลูฯ ที่มีชื่อเสียงมากกว่าคนทั่วไปจริงหรือ? ]

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วงการการทำ Affiliate บางคนอาจจะมีความสงสัยว่าการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามเยอะอยู่แล้ว ส่งผลให้ทำ Affiliate ได้ง่ายขึ้น มีรายได้มากกว่าบุคคลทั่วไปทำ Affiliate ทาง  “นัท นิสามณี” ได้ให้คำตอบในมุมมองของตนเองว่า “ทั้งในแง่ของอินฟลูเอนเซอร์ก็มีข้อดีและข้อยาก คนที่จะเริ่มเข้ามาทำ Affiliate ก็มีทั้งข้อดีและข้อยากเหมือนกัน ข้อดีของอินฟลูเอนเซอร์คือเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว การปักตะกร้าอาจจะมีการมองเห็นมาก ก็จะมีความน่าเชื่อถือประมาณนึง เพราะเราปักตะกร้ากันบ่อย แต่ของผู้ใช้หน้าใหม่ที่จะเข้ามา นัทว่าก็จะมีเสน่ห์ตรงที่ความจริงใจ มันดูสดใหม่ แม้ว่าคนดูอาจจะไม่เยอะ แต่คุณอาจจะได้ค่า Affiliate เยอะกว่าคนที่มีผู้ติดตามเยอะก็ได้นะ มันไม่ตายตัวเลยว่าคนติดตามเยอะ ถึงจะได้ค่า Affiliate เยอะ”

เมื่อล้วงลึกถึงเคล็ดลับการทำ Affiliate ให้ประสบความสำเร็จในสไตล์นัท นิสามณี “ไม่สะดวกบอกค่ะ (หัวเราะ) ล้อเล่น บอกได้เลยๆ แต่เอาจริงพอมันไปรวมกับกระบวนการต่างๆ ทุกคนต้องเอาไปปรับใช้ มันไม่มีรูปแบบตายตัว ถ้าให้นัทแนะนำเคล็ดลับ คือปักตะกร้าสินค้าใกล้ตัว หรือสินค้าที่เหมาะกับเราที่มีขายบน Shopee นี่แหละ อย่างนัทอยู่ในหมวดของความสวยความงาม การใช้เครื่องสำอาง หรือเสื้อผ้า คนดูจะอินไปกับนัท แต่ถ้านัทมานั่งขายอุปกรณ์ IT ทุกวันนี้ยังเล่นโทรศัพท์ไม่ครบทุกฟังก์ชันเลย คนดูก็อาจจะไม่อินไปกับเรา อย่างทุกวันนี้นัทเปิดช่องให้หม่าม้า กลายเป็นว่าสินค้าที่เข้าหม่าม้า ไม่เข้านัทนะ ก็จะเป็นพวกเครื่องครัว เครื่องปรุงหรือวัตถุดิบทำอาหาร แปลว่าแต่ละคนจะมีเสน่ห์ของตัวเอง มีสิ่งที่คนอยากจะรอซื้อตามเราอยู่ เสน่ห์ของการทำคอนเทนต์อย่าไปตั้งข้อจำกัดมาก อย่างของหิ้วหวี จากอีพีแรกจนถึงตอนนี้ ทุกคนเติบโตมาก แต่ยังคงความไม่เป๊ะ ซึ่งถ้าจะทำให้มันเป๊ะก็ทำได้ เพราะเรามีทีมงาน มีโปรดักชัน แต่คนที่ตามหิ้วหวี เขาอยากติดตามความเละๆ เทะๆ นิดนึง ซึ่งการทำ Affiliates ผ่าน Shopee และ Youtube ก็เหมือนกัน เราไม่ต้องเครียดว่าต้องตั้งโต๊ะขายไหม เราต้องมีพื้นหลังเป็นโกดังไหม นัทว่าคุณหยิบขึ้นมาเถอะ เสน่ห์คุณเป็นยังไง ก็เป็นแบบนั้น”

นอกจากจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่นำสินค้าของแบรนด์อื่นๆ มาทำ Affiliate แล้ว “นัท นิสามณี” ยังเป็นเจ้าของธุรกิจที่มาร้านค้าอยู่บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee อีกด้วย เธอจึงได้เปิดเผยในมุมมองของเจ้าของธุรกิจที่มีคอนเทนต์ครีเอเตอร์ท่านอื่นๆ นำสินค้าของตัวเองไปปักตะกร้าทำ  Affiliate

“นัทมองว่าในยุคของการมี Affiliate มันเลิศ ถ้านัทโพสต์ นัทถึงได้ขาย ถ้านัทไม่โพสต์ นัทไม่ได้ขาย แต่พอมีการทำ Affiliate ทุกคนซื้อสินค้าเราไปใช้ เขาใช้ดี แล้วเขาอยากลง มีการขายได้ ผู้บริโภคได้เงินไปด้วย แล้วเราก็ได้ขายด้วย นัทมองว่ามันมีช่องทางการขายมากขึ้น นัทแนะนำว่าเจ้าของธุรกิจก็ต้องไปร่วมมือกับ Shopee ในการสร้าง Link เพื่อทำ  Affiliate อย่าคิดแค่ว่าจะรอตัวแทนจำหน่ายอย่างเดียว ยุคนี้มันมีเงินลอยอยู่ในอากาศตลอดเวลา”

[ การทำ Affiliate สร้างความสุขและรายได้ให้คนวัยเกษียณ ]

นอกจากจะทำ Affiliate กับช่องของตัวเองแล้ว ล่าสุด “นัท นิสามณี” ยังเปิดช่องให้แม่ของเธอ นำเสนอคอนเทนต์ทำอาหาร ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำคอนเทนต์สนุกๆ ยังเป็นการเพิ่มช่องทางหารายได้และสร้างคุณค่าให้กับผู้ใหญ่วัยเกษียณอีกด้วย

“นัทเปิดช่องให้หม่าม้า เพราะชอบเล่าเรื่อง นัทกินอะไรนัทก็เล่า จนคนอยากเห็นตอนหม่าม้าทำกับข้าวบ้าง นัทเลยเปิดช่องให้หม่าม้า ต้องขอบคุณ Affiliate ที่ทำให้การทำคลิปด้วยความสนุกของแม่บ้านคนนึงที่อยู่บ้านเฉยๆ กลายเป็นการสร้างรายได้ จากเมื่อก่อนที่หม่าม้าต้องมาเบิกเงินนัทในการซื้อของทำกับข้าวให้นัท ทุกวันนี้กลายเป็นอาชีพ บางอย่างนัทไม่ได้อยากกินนะ แต่คนดูเรียกร้อง หม่าม้าก็ทำ แล้วหม่าม้าก็ได้เงิน ซึ่งการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และการทำ Affiliate ไม่ใช่สำหรับเด็กรุ่นใหม่เท่านั้น มันออกแบบมาเหมาะสำหรับคนวัยเกษียณด้วยนะ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ยังทำงานได้ แล้วมันก็เป็นงานที่สนุกและเขาก็ไม่อึดอัด คุณแค่เป็นตัวเอง”

ปิดท้ายการพูดคุย “นัท นิสามณี” ฝากถึงคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่อยากทำ Affiliate เป็นอาชีพหลักไว้ว่า “อยากฝากถึงทุกคนที่อยากเข้ามาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ แล้วรู้สึกว่ายอดวิวน้อยจังเลย ทุกคนมีวิวแรกเสมอ กว่านัทจะมาถึงจุดนี้ นัทก็มียอดวิวแรกจากการดูด้วยตัวเอง วิวที่สองจากแม่ วิวที่สามจากตัวเองอีกรอบนึง (หัวเราะ) นัทบอกไม่ได้หรอกว่าคุณจะดังเมื่อไหร่ แต่ถ้าคุณไม่ลงคลิป คุณไม่ดังแน่นอน แต่ถ้าคุณลงคลิป คุณมีโอกาสที่จะดัง แม้มันจะน้อย แต่แปลว่ามันมี แต่ถ้าคุณไม่ลงเลย แปลว่าคุณตัดโอกาสตัวเองตั้งแต่แรก”