SHARE

คัดลอกแล้ว

เรื่องสปาย สายลับ เป็นเรื่องที่ได้ยินได้ฟังกันอยู่บ่อยๆ และหลายครั้งก็บานปลายถึงขั้นไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

และคราวนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีกแล้ว เป็นเรื่องระหว่างจีนกับอังกฤษ เพราะมีการกล่าวหาว่า จีนส่งสายลับคนนึงเข้าไปแทรกซึม ถึงขนาดไปใกล้ชิดกับสมาชิกราชวงศ์ และอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษเลย เราจะสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เข้าใจง่ายที่สุด ในโพสต์เดียว 

ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา หลังจากที่ทางการอังกฤษ ไปพบว่ามีชายคนหนึ่ง ที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก พระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เป็นคนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ทำงานอยู่ในฝ่ายปฏิบัติการแนวร่วม ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับองค์กรต่างๆ ซึ่งรวมถึงองค์กรในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน 

ชายคนนี้ มีชื่อว่า หยาง เติ้งป๋อ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ คริส หยาง แต่ทางการอังกฤษเรียกเขาว่า สายลับรหัส H6 โดยจากการสืบประวัติพบว่า หยางเคยทำงานเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยในจีน ก่อนที่เขาจะย้ายมาเรียนต่อในอังกฤษเมื่อปี 2002 

หลังจากที่เขาเรียนจบปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์และนโยบายสาธาณะจากมหาวิทยาลัยยอร์ก หยางก็ได้เริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง และดำเนินธุรกิจในอังกฤษมาเรื่อยๆ จนเขาได้รับสิทธิ์ทำงานและพำนักในอังกฤษได้โดยไม่จำกัดระยะเวลามาตั้งแต่ปี 2013 

ตลอดเวลาที่อยู่ในอังกฤษ หยางทำธุรกิจหลายอย่าง โดยหนึ่งในธุรกิจของเขา ก็คือบริษัทที่ปรึกษาที่ชื่อว่า Hampton Group International ซึ่งเป็นบริษัทที่รับให้คำแนะนำ ปรึกษา ด้านความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับจีน 

ถือว่าหยางผู้มีอิทธิพลและกว้างขวางในอังกฤษอยู่พอสมควร เขาเคยพบกับอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษถึง 2 คน คือ นายเดวิด คาเมรอน และนางเทเรซา เมย์

แต่จุดที่ทำให้เรื่องนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก คือเขามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก พระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษ ถึงขั้นเคยได้รับเชิญไปร่วมงานวันเกิดของสมาชิกในราชวงศ์ และเขาก็ยังเคยได้เข้าไปในพระราชวังบักกิงแฮมถึง 2 ครั้ง รวมถึงยังเคยไปที่พระราชวังเซนต์เจมส์ และปราสาทวินด์เซอร์ ตามคำเชิญของเจ้าชายแอนดรูว์ด้วย 

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการเปิดเผยมาจากผู้ช่วยคนสนิทของเจ้าชายแอนดรูว์ด้วยว่า หยางได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในนามของเจ้าชายแอนดรูว์ ในการทำธุรกรรมกับนักลงทุนที่มีศักยภาพในจีน จนทำให้มีคำถามตามมาถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างทั้งสองคน

แม้หลังเกิดเรื่อง เจ้าชายแอนดรูว์จะออกมาประกาศว่า “พระองค์ได้ยุติการติดต่อทุกช่องทางกับนายหยางแล้ว หลังได้รับคำแนะนำจากรัฐบาล”  พร้อมกับยืนยันว่า การพบกันระหว่างพระองค์กับหยาง เป็นการพบปะกันอย่างเป็นทางการ และก็ไม่เคยมีการพูดคุยกันในเรื่องที่เป็นประเด็นอ่อนไหวเลย

 

อังกฤษเริ่มสงสัย สืบจนรู้ว่าเป็นสายลับ

พฤติกรรมและความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างหยางกับบุคคลสำคัญ ทั้งนักการเมือง และสมาชิกราชวงศ์ ทำให้อังกฤษเริ่มระแคะระคายถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา จนเริ่มมีการสืบหาความจริง และนำไปสู่การจับกุมเขาที่ชายแดนอังกฤษ ในวันที่ 6 พ.ย. 2021 

หยางถูกยึดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตัวอยู่ไปตรวจสอบ ก่อนที่เขาจะได้รับแจ้งจากทางการอังกฤษในภายหลังว่า หน่วยข่าวกรอง MI5 เชื่อว่า เขามีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่มีชื่อว่า United Front Work Department (UFWD) ซึ่งเป็นหน่วยงานลับที่ทำหน้าที่จัดการกับปฏิบัติการแผ่ขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมของจีน และเคยถูกกล่าวหาอยู่หลายครั้งว่า เป็นองค์กรที่รัฐบาลจีนใช้แทรกแซงชาติตะวันตก ผ่านความร่วมมือกับนักธุรกิจ และชุมชนชาวจีนในประเทศต่างๆ 

แต่หยางปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยเขายืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า สำหรับเขาแล้วอังกฤษก็คือบ้านหลังที่สอง ที่เขาใช้ชีวิตอยู่เป็นส่วนใหญ่ และเขาก็ไม่มีวันทำให้อังกฤษต้องตกอยู่ในอันตราย 

นับตั้งแต่นั้นมา หยางได้พยายามสู้คดีนี้มาตลอด แต่ก็ดูเหมือนว่าความพยายามของเขาไม่ได้ผล เพราะกระทรวงมหาดไทยอังกฤษสั่งยกเลิกสิทธิการพำนักของหยาง และห้ามไม่ให้เขาเดินทางเข้ามาในประเทศอีกต่อไป 

โดยเหตุผลที่ทำให้เขาถูกห้ามไม่ให้เข้าอังกฤษ เพิ่งจะมีการเปิดเผยออกมาต่อสาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ศาลมีพิพากษา ยืนยันว่าเขาสมควรต้องถูกเพิกถอนสิทธิพำนักในอังกฤษจริง 

ศาลให้เหตุผลว่า จากหลักฐานที่ตรวจพบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เจ้าหน้าที่ยึดมาจากตัวเขาเมื่อปี 2021 รวมถึงหลักฐานต่างๆ ที่สืบหามาได้ พบความเชื่อมโยงระหว่างหยางกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีน และตัวเขาก็มีการติดต่อกับรัฐบาลจีนอยู่บ่อยครั้ง แต่หยางจงใจปิดบังความเชื่อมโยงของเขากับรัฐบาลจีน 

แม้หยางจะพยายามโต้แย้งข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่าเขาไม่เคยได้รับคำสั่งใดๆ มาจากรัฐบาลจีนให้มาแทรกแซงผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่ศาลอังกฤษมองว่า ด้วยตำแหน่งของเขาที่มีอยู่ในพรรคคอมมิวนิสต์ เขาย่อมเข้าใจดีว่าตัวเองต้องทำอะไรเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ UFWD โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการมอบหมาย 

นอกจากนี้ ทางหน่วยข่าวกรองของอังกฤษ ยังไม่สืบพบมาอีกว่า หยางเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในลอนดอน มากถึง 48 กลุ่ม โดยกลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างอังกฤษกับจีน จึงอาจเป็นไปได้ว่าบทบาทความเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของเขา อาจถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการแทรกแซงทางการเมืองของรัฐบาลจีน

  

สื่อตีข่าว พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ไม่พอใจ

หลังจากที่คนสนิทเจ้าชายแอนดรูว์ถูกระบุว่าเป็นสายลับจีน เดลีเมล์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของอังกฤษ ออกมารายงานว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงไม่พอใจอย่างมาก หลังทรงทราบเรื่องนี้ แม้รายงานข่าวนี้ จะยังไม่ได้รับการยืนยันจากสำนักพระราชวังบักกิงแฮมว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

แต่ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตตามมาว่า หรือเรื่องนี้จะกลายมาเป็นประเด็นที่สร้างความสั่นคลอนภายในราชวงศ์อังกฤษอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสข่าวอีกเรื่องหนึ่งว่า เจ้าชายแอนดรูว์ จะไม่ไปร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่ตำหนักซานดริงแฮมตามประเพณีของราชวงศ์ 

แต่คำถามสำคัญกว่านั้น ก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอังกฤษมาน้อยแค่ไหน หากประเมินจากสถานการณ์ในเวลานี้ คงตอบได้ว่า รอยร้าวระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มปรากฏออกมาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ 

เพราะหลังจากที่ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับสายลับจีนมาจากทางการอังกฤษ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำลอนดอน ก็ได้ออกมาตอบโต้ทันที โดยระบุว่า “ผู้คนในสหราชอาณาจักร ชอบสร้างเรื่อง แต่งเรื่อง เกี่ยวกับสายลับจีน” พร้อมกับเปรียบเปรยเลยว่า สิ่งเรื่องที่ขึ้นเป็นเหมือนกัน “กรณีทั่วๆ ไป ที่ขโมยมักจะตะโกนให้จับขโมย” ทั้งที่ตัวเองเป็นคนก่อเหตุเอง

สถานทูตจีนฯ ยังระบุด้วยว่า “จุดประสงค์ของพวกเขาคือการใส่ร้ายจีน และทำลายการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนทั่วๆไปของจีนกับอังกฤษ” ดังนั้น เราขอประณามการกระทำนี้อย่างรุนแรง

ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเมื่อวันจันทร์ (16 ธ.ค.) “คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะหักล้างโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่ยุติธรรมเช่นนี้” 

คงต้องรอดูกันต่อไปว่า เหตุการณ์ล่าสุดนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอังกฤษสะดุดลงหรือไม่ หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ เพิ่งจะพบกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนไปเอง ซึ่งถือเป็นการพบกันระหว่างผู้นำจีนและอังกฤษเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี  ท่ามกลางความพยายามในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติ  

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า