ปัจจุบันเราต่างก็พยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาโลกร้อน หนึ่งในความพยายามคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ใส่ใจเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ผ่านการเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของ Nielsen เผยว่า 64% ของคนไทย สนใจเลือกสินค้ารักษ์โลก และกว่า 52% พร้อมจ่ายเพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน สิ่งนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมกรีนที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้ามากขึ้นด้วย พฤติกรรมเหล่านี้ คือความพยายามที่พวกเรากำลังช่วยกันสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งเป็นหนทางสู่เป้าหมาย Net Zero ที่เป้าหมายของโลก !
ปรับสู่วิถีชีวิตคาร์บอนต่ำ ทำได้จริง ทำได้เลย
ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน มีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า นำวัสดุเหลือใช้กลับมาหมุนเวียน ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ได้มหาศาล
สนับสนุน “ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกภายใต้แบรนด์ NETS UP” จากความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม SCGC, The Youth Fund และเครือข่าย ที่นำอวนประมงเก่าที่ไม่ใช้งานไปรีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง และนำกลับมาผลิตตามความต้องการของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิตผ้าสำหรับเสื้อผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยปี 2566 เก็บรวบรวมอวนได้ 1 ตัน ซึ่งเทียบเท่าการผลิตเสื้อยืด 3,300 ตัว และลดการใช้ทรัพยากรใหม่ได้ 20,812.5 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์
เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “Fest Redi Pak” ถาดอาหารแช่เย็นพร้อมทาน นวัตกรรมที่ช่วยรักษาความสดและรสชาติของอาหาร นวัตกรรมใหม่จาก SCGP และ REO’s Deli ผลิตจากเยื่อยูคาลิปตัส 90% และอีก 10% ของวัสดุเป็นพลาสติกฟิล์มที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ บรรจุภัณฑ์นี้ยังออกแบบให้สะดวกในการใช้งานไม่ร้อนมือ และทนต่ออาหารร้อนสูงสุด 100 องศาเซลเซียส ประหยัดพลังงานด้วยการลดเวลาการอุ่นอาหารลง 25% และประหยัดเวลาการอุ่นไมโครเวฟได้ 40 วินาทีต่อกล่อง ซึ่งได้รับการันตีด้วยรางวัล “Taste Innovation Show Finalists” จากงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 ซึ่งเป็นการยอมรับในระดับเอเชีย
นำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าภายในบ้านมาแลกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ กับโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” ความร่วมมือระหว่าง โฮมโปร (HomePro) และ SCGC โดย SCGC นำพลาสติกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าไปรีไซเคิลด้วยระบบ Close-Loop เพื่อเปลี่ยนพลาสติกใช้แล้วให้เป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ “SCGC GREEN POLYMER™” และขึ้นรูปเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลก (Circular Product) ที่มีความแข็งแรง คงทน มีจำหน่ายในโฮมโปร ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
คัดแยกและขายขยะรีไซเคิลกับแพลตฟอร์มจัดการขยะ “Wake Up Waste” จาก SCGC ผ่าน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
1. แยก – คัดแยกขยะให้ถูกต้อง และนัดหมายให้เข้ารับขยะ ซึ่งรับเป็นรอบประจำทำให้จัดสรรเวลาง่าย
2. ย่อ – เครื่องบีบอัดขยะในรถจะช่วยบีบอัดขยะรีไซเคิลให้เป็นก้อน ทำให้สามารถขนขยะได้ในปริมาณมากขึ้น 5-10 เท่า พร้อมมีการคำนวณการลด Carbon Footprint
3. ย่อย – โดยโรงงานรีไซเคิลรับวัตถุดิบที่ผ่านการคัดแยกแล้วเพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการรีไซเคิล เพื่อนำไปผลิตเป็นเม็ดและเส้นใยพลาสติกสำหรับส่งต่อไปยังโรงงานแปรรูป ที่จะนำไปขึ้นรูปเป็นสินค้ารักษ์โลกต่อไป นับเป็นการช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์แบบครั้งเดียวทิ้ง ลดปริมาณขยะฝังกลบ และขยะเชื้อเพลิง
เรื่องบ้านและอาคารก็เลือกสร้างได้ให้ยั่งยืน
นอกจากการปรับพฤติกรรม เช่น ปิดไฟ-ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน ตั้งเวลา-เปิดปิด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ฯลฯ จะช่วยลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้การก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างบ้าน ไปจนถึงการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ หรือแม้แต่การเลือกสุขภัณฑ์ภายในบ้าน ก็เลือกให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยเช่นกัน
เปลี่ยนมาใช้ “ปูนเอสซีจี คาร์บอนต่ำ” รายแรกของไทย ได้รับการยอมรับระดับโลก ส่งออกสู่อเมริกา 1.3 ล้านตัน แคนาดา ออสเตรเลีย อาเซียน ช่วยลดก๊าซ CO₂ ได้กว่า 15-20% จากกระบวนการผลิต ตอบโจทย์โครงการต่าง ๆ ได้ดี ทั้งอาคารใหญ่ นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ ไปจนถึงงานใต้ทะเล และ “CPAC Low Carbon -High Strength Concrete” คอนกรีตกำลังอัดสูง ซีแพค เพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ลดปริมาณการใช้วัสดุในการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ปูพื้น “กระเบื้องพีวีซีรีไซเคิลจากถุงน้ำยาล้างไต” ครั้งแรกของประเทศไทย จากความร่วมมือของ SCGC x Baxter PRINC x Dynoflex ที่นำถุงน้ำยาล้างไตจากโรงพยาบาล มาผ่านกระบวนการรีไซเคิลขั้นสูง เป็นเม็ดพลาสติกพีวีรีไซเคิล เพื่อขึ้นรูปเป็นกระเบื้องทดแทน PVC ถึง 80% ช่วยลดขยะทางการแพทย์ และยังช่วยโลกให้ยั่งยืนขึ้นได้อีกขั้น!
ติดตั้ง ”สุขภัณฑ์เซรามิคจากเปลือกไข่” นวัตกรรมใหม่จาก COTTO ร่วมกับ CPF และชุมชน นำเศษเปลือกไข่เหลือใช้ซึ่งเดิมใช้การฝังกลบและก่อให้เกิดก๊าซมีเทนและกลิ่นเหม็น มาใช้ทดแทนหินปูนในการผลิตสีเคลือบและพ่นเคลือบผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์ ช่วยลดการใช้หินปูนได้ถึง 460 ตันต่อปีและลดการปล่อยก๊าซ CO₂ จากการผลิตสุขภัณฑ์ได้ 930 ตัน CO₂ ต่อปีเทียบเท่าการดูดซับก๊าซ C CO₂ ของต้นไม้ได้ถึง 8,340 ต้น
เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างของนวัตกรรมและสินค้ากรีนที่ทำให้เห็นถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการ เพื่อสร้างทางเลือกให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมและโลกใบนี้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
แม้ว่าการการก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero จะเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็สามารถเป็นไปได้หากทุกคนให้ความร่วมมือ ลองดูเรื่องราวของ ‘โปรจีน – อาฒยา ฐิติกุล’ นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลก เธอผ่านอุปสรรคและความยากลำบากมากมาย แต่ด้วยความเชื่อว่า “เรื่องยากไม่เท่ากับเป็นไปไม่ได้” เธอพัฒนาตนเองและนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย จนกลายเป็นมือหนึ่งของโลก สอดคล้องกับแนวคิด “Passion for Inclusive Green Growth for Net Zero Society” การมี Passion ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดียิ่งขึ้นไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ต่างจากการร่วมมือกันสร้างสังคม Net Zero
ติดตามเรื่องราวของเธอได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=2nwp791qqfI