SHARE

คัดลอกแล้ว

ทำถึงอีกแล้ว สำหรับ Erewhon Smoothie ที่ต่อยอดกระแสน้ำปั่นขวัญใจเซเลบริตี้อีกครั้ง ด้วยการคอลแลปกับ ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล เปิดตัว ‘ชาไทย’ สูตรเอ็กซ์คลูซีฟ จนได้รับความสนใจจากคนไทย และคนทั่วโลก

 

น้ำปั่นแก้วเฉียดพันของ ‘Erewhon’ ทำให้เกิดกระแสร้านสมูททีพรีเมียมขึ้นในไทยมาแล้ว และจากกระแสฟีเวอร์ครั้งนั้น ยังทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายสินค้าพรีเมียมได้รับความสนใจ และกลับมาเติบโตไปด้วย

แต่รู้หรือไม่ Erewhon ถือกำเนิดมาจากการกินที่เข้มงวด แถมชาวอเมริกันยังนิยามว่ามันเหมือน ‘ลัทธิ’ ทั้งก่อนจะปัง ก็เคยเจ๊งมาก่อน อะไรเป็นจุดพลิก ให้ซูเปอร์ขายอาหารเฉพาะทางเล็กๆ กลายมาเป็นร้าน ที่ทำให้คนยอมควักเงินซื้อน้ำปั่น แก้วละ 800 บาท น้ำดื่มออกซิเจน ขวดละ 900 กว่าบาท ได้กันนะ

[Erewhon เป็นใคร]

ทุกวันนี้ Erewhon เป็นที่รู้จักจากน้ำปั่นสุดฮิต แต่ต้องบอกเลยว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตสุดพรีเมียมสัญชาติอเมริกันเจ้านี้ น่าสนใจกว่านั้นมาก เพราะมันมาจากความเชื่อในการกินที่ไปสุดอยู่

จุดเริ่มต้นของ Erewhon มาจาก Michio และ Aveline Kuchi คู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่น ที่ย้ายไปอยู่อเมริกา หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมกับพกแนวคิด เรื่องการกินแบบแมคโครไบโอติกส์ (Macrobiotic) คือการกินอย่างมีสมดุล ใช้หลักหยินหยางตามปรัชญาแบบเต๋า ที่เขาเรียนมาจาก จอร์จ โอซาวะ (George Osawa) ผู้สร้างแนวคิดเรื่องการกินแบบ Zen Macrobiotic ที่มีรูปแบบชัดเจน และมีความเชื่อสุดโต่งเรื่องการกิน

โดยต้องบาลานซ์หยินกับหยาง ตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงเครื่องใช้ในครัว อาหารก็ควรเป็นอาหารตามฤดูกาล ที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี นำมาปรุงโดยใช้เครื่องครัวที่ทำมาจากไม้และแก้วเป็นหลัก

และมีความเชื่อที่ว่า “คนป่วยควรจะถูกส่งไปเข้าคุก ส่วนอาชญากรควรถูกส่งไปเข้าโรงพยาบาล” คำพูดของ George Osawa บันทึกไว้โดย Aveline Kushi 

ต่อมา Michio และ Aveline Kushi เริ่มสอนและเขียนหนังสือเรื่องการกิน รวมถึงจัดสัมมนาเพื่อแพร่แนวคิดต่างๆ จนเกิดเป็นกระแสเรื่องการกินแบบแมคโครไบโอติ และการกินอาหารจากธรรมชาติ ผู้คนต่างเข้ามาหาพวกเขา มากินอยู่ที่บ้านพวกเขาเป็นเดือนๆ เพื่อให้สอนวิธีการกิน และการทำอาหารแบบแมคโครไบโอติก แต่ปัญหาคือในยุคนั้นอาหารลักษณะนี้หาซื้อยาก

ถึงได้เกิดกิจการร้านขายวัตถุดิบทำอาหารแมคโครไบโอติก ที่เริ่มต้นจากการเป็นชมรมเล็กๆ ดำเนินงานจากห้องใต้ดินของครอบครัว Kuchi เกิดเป็นร้าน Erewhon 

สำหรับชื่อนี้ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายเสียดสีของ Samuel Butler เป็นเรื่องราวของ อาณาจักรชื่อ Erewon ที่สลับตัวอักษรมาจะได้คำว่า nowhere เมืองสมมติในเรื่อง ที่การป่วยถือเป็นคดีอาญา ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อของ จอร์จ โอซาวะ

ในช่วงยุค 1970 Erewhon เติบโตขึ้นเป็นกิจการขนาดใหญ่ โดยมีโกดังในบอสตัน และลอสแองเจลิส แต่เมื่อกิจการขยายใหญ่เกินควบคุม บริษัทก็ล้มละลาย จึงจำต้องเปลี่ยนมือเจ้าของ จนตกมาอยู่กับ Tony และ Josephine Antoci ครอบครัวมหาเศรษฐรอเมริกัน ในปี 2011 โดยในตอนนั้น เหลือ Erewhon สาขาเดียวเท่านั้น ที่ Beverly Blvd. ก่อนที่กิจการจะเติบโต จากยอดขายเฉลี่ยต่อสัปดาห์อยู่ที่ 180,000 ดอลลาร์ มาเป็น 900,000 ดอลลาร์ ในปี 2023

ช่วงโควิด-19 ระบาด และทุกคนติดอยู่กับบ้าน แทนที่จะซบเซา เปล่าเลย ดารา ศิลปิน เซเลปในย่านนั้น กลับเริ่มมาแวะเวียนซื้อของ และพบปะกัน ทำให้ยอดขายของพวกเขาพุ่งขึ้น 30% ทั้งที่ของก็แพงจับใจ

cr. Erewhon

[นอกจากสมูทที Erewhon ขายอะไรอีกบ้าง?]

นอกจากสมูททีแล้ว Erewhon เขาก็จะมีขายของสดพรีเมียม เช่นผักผลไม้ออร์แกนิก อาหารสำหรับคนกินคีโต อาหารปรุงแล้วพร้อมทาน เอากลับบ้านได้เลย

โดยหนึ่งในเมนูดัง คือ Organic Buffalo Cauliflower ราคา 20 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 690 บาท ซึ่งอธิบายง่ายๆ ก็เป็นการเอาดอกกะหล่ำมาชุบแป้งข้าวเจ้าและแป้งเท้ายายม่อม ปรุงรสด้วยออริกาโน พริกไทยป่น และยีสต์ที่มีโภชนาการสูง ทอดในน้ำมันอะโวคาโด ที่ไม่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรม เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบ ปรุงรสด้วยเกลือทะเล และพริกไทยดำ เหมือนไก่ทอดเผ็ดแบบดีต่อสุขภาพ

หรือของกินที่เฉพาะทางมากๆ เช่น ซูเปอร์ฟู้ดอย่าง Sea Moss Gel สีรุ้ง จากแหล่งน้ำอันบริสุทธิ์อย่างเซนต์ลูเซีย ที่ทำมาจาก Sea moss พืชทะเลคล้ายๆ สาหร่าย ที่ว่ากันว่าดีต่อสุขภาพมากๆ แต่บางคนก็บอกว่าสถานะมันเหมือนกับถังเช่า ที่สรรพคุณมากมาย แต่ก็ไม่ชัดเจน

ยังไม่รวม นมไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ราคา 19.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 692 บาท ในขณะที่ นมพาสเจอร์ไรส์ขนาดใกล้ๆ กันราคาปกติตกอยู่ราว 100 บาทเท่านั้น

cr. Erewhon

ถ้าเทียบกับของที่คล้ายๆ หรืออยู่ในประเภทเดียวกัน ของใน Erewhon จะแพงกว่าในซูเปอร์มาเก็ตทั่วไปราวๆ 4-5 เท่า ยกตัวอย่างเช่น ดาร์กช็อกโกแลตออร์แกนิก ที่มีโกโก้ 70% Erewho ขายในราคาสูงถึง 16.99 เหรียญสหรัฐฯ ราว 580 บาท ขณะที่ Trader Joe’s ซูเปอร์มาเก็ตอีกแห่ง ขายในราคา 1.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 69 บาทเท่านั้น

นอกจากผักผลไม้ออร์แกนิก ที่นี่ยังขายอาหารเฉพาะทางสำหรับคนกินคีโต รวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่าง สบู่ ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า เลยดูเหมือน อีกหนึ่งสิ่งที่ Erewhon ขาย คือประสบการณ์การซื้อของที่ติดแกลมมากกว่าที่อื่นๆ ด้วยการออกแบบร้านที่คิดมาแล้ว ถ่ายมุมไหนก็สวย ทำคอนเทนต์กันได้แทบทุกมุม แถมทำเลของ Erewhon ยังทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์เดียวกันกับเหล่าเซเลบริตี้ที่ชื่นชอบอักด้วย 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า