SHARE

คัดลอกแล้ว

เส้นทางการมุ่งสู่ความยั่งยืนของ‘ยูนิโคล่’ แบรนด์เครื่องแต่งกายชั้นนำของโลก เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณปี 2001 โดยเริ่มจากการบริจาคเสื้อผ้าให้กลุ่มที่ต้องการและมีความจำเป็น อย่าง ผู้ลี้ภัยใรอัฟกานิสถาน ก่อนที่จะปรับโฉมแบรนด์และตั้งชื่อโครงการให้ชัดมากขึ้น คือ REUNIQLO ในปี 2006 

ตลอดเส้นทางที่ผ่านมาจนปี 2015 REUNIQLO เริ่มบุกเบอกในประเทศไทยครั้งแรก หลังจากที่ยูนิโคล่สาขาแรกในไทยเปิดตัวไปในปี 2011 พร้อมกับได้ตั้งเป้าความยั่งยืนที่ยูนิโคล่พยายามมุ่งเน้นทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมนุษย์ต่อมาเรื่อยๆ จนปี 2024 ที่ล่าสุดวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา มร.โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย)

ได้เปิดเวทีแถลงหัวข้อ “เป้าหมายและแผนการด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ในปี 2568” พร้อมกับรีวิวผลงานด้านความยั่งยืนในปีที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำจุดยืนด้านความยั่งยืนเพื่อคนไทยที่ถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของแบรนด์เสื้อผ้า life waer สัญชาติญี่ปุ่น ‘ยูนิโคล่’

“เราจะทำเสื้อผ้าที่ดีที่สุดให้กับสังคม” มร.โยชิทาเกะ วาคากุวะ กล่าวขึ้นมาพร้อมกับเปิดผลงานความยั่งยืนของยูนิโคล่ประเทศไทยในปีที่ผ่านมาว่า

ยูนิโคล่มีเป้าหมายด้านความยั่งยืน หลักๆ อยู่สองประการคือ หนึ่ง ผลิตเสื้อผ้าที่สอดคล้องกับแนวคิด LifeWear

และ สอง ช่วยสร้างสังคมที่ยั่งยืนผ่านธุรกิจ โดยการสร้างสรรค์ LifeWear ที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่องไปสู่ห่วงโซ่อุปทานที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน โดยได้บริหารระบบซัพพลายเชนทั้งหมดตั้งแต่ ควบคุมขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ การจัดซื้อ การผลิต สิ่งแวดล้อม และสิทธิพื้นฐานของแรงงาน ในขณะเดียวกัน ก็ตั้งใจเร่งหาโมเดลธุรกิจหมุนเวียน ที่มุ่งไปสู่ การลด (reduce) การใช้ซ้ำ (resue) และการรีไซเคิลเสื้อผ้าและทรัพยากร (recycle) เพื่อยืดอายุการใช้งานของ LifeWear อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ซึ่งสำหรับฟาสต์ รีเทลลิ่ง บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ได้มีการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนและแผนปฏิบัติการสำหรับปีงบประมาณ 2030 โดยมี 2 แกนหลัก ดังนี้ :

  1. ผลิตเสื้อผ้าที่ดีกว่าสำหรับสิ่งแวดล้อม 

โดยในปีงบประมาณ 2023 ยูนิโคล่เผยว่าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของเราเองได้ 69% และลดจากห่วงโซ่อุปทานได้ 10% และเพิ่มสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลเพิ่มขึ้นเป็น 18.2% ในปี 2024

2. ผลิตเสื้อผ้าที่ดีสำหรับผู้คนและสังคม

ผ่านการสร้างความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับของห่วงโซ่อุปทาน (Traceability) การจัดซื้อวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรมและรับผิดชอบ หร้อมกับส่งเสริมโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมทั่วโลก อย่างในปีที่ผ่านมายูนิโคล่ได้บริจาคสิ่งของ 4.77 ล้านตัว และมีผู้ได้รับประโยชน์ทั่วโลกกว่า 2.34 ล้านคน

หรืออย่าง โครงการ “The Heart of LifeWear” ที่เกิดขึ้นจากการที่ยูนิโคล่ตั้งคำถามว่า ‘What makes life better?’ หรือ ‘อะไรที่จะทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น?’ ทำให้โครงการ “The Heart of LifeWear” ส่งมอบฮีทเทค (HEATTECH) และ เสื้อผ้า LifeWear อื่นๆ จำนวนกว่า 1 ล้านตัว ให้แก่ผู้ถูกบังคับให้พลัดถิ่น เด็กๆ ที่ขาดแคลน และผู้ประสบภัยพิบัติทั่วโลก อย่างในประเทศไทย ก็ได้มีโครงการมอบเสื้อผ้าและเครื่องนุงห่มเพื่อป้องกันภัยหนาว

อย่างปี 2023 โครงการ RE.UNIQLO ‘Warmth for All’ ได้บริจาคเสื้อผ้ากันหนาว 50,000 ตัว เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยหนาวในภาคเหนือโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อส่งต่อให้ผู้ที่ต้องการผ่านความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิบ้านร่มไทร และ UNHCR ประเทศไทย 

และได้ได้สานต่อโครงการด้วยการมอบฮีทเทคจำนวน 15,000 ตัว ให้แก่มูลนิธิบ้านร่มไทรและมูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิละ 7,500 ตัว เพื่อส่งต่อความอบอุ่นให้กับผู้ประสบภัยหนาวทางภาคเหนือของไทย และยังคงเปิดรับบริจาคที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาทั่วประเทศ ตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ยังได้เน้นโครงการด้านความยั่งยืนมาตลอด อย่างในปี 2023 ยูนิโคล่ ประเทศไทย ก็ได้เปิดตัว RE.UNIQLO Studioที่เปิดให้บริการซ่อมแซมและแปลงโฉมเสื้อผ้าครั้งแรก ที่ร้านยูนิโคล่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ทำให้ในปี 2024 มีลูกค้ากว่า 18% ที่ซื้อเสื้อผ้ายูนิโคล่ มาใช้บริการ RE.UNIQLO Studio

ไม่เพียงแค่มุมสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นเบื้องหลังของการสนับสนุนการดับไฟป่า และผู้ส่งความช่วยเหลือในเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ โดยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ต้องการเสื้อผ้า 

โดยในเดือนเมษายน 2024:  ยูนิโคล่ ประเทศไทย ได้บริจาคเสื้อฮู้ดกันยูวีผ้าดรายเอ็กซ์ จำนวน 200 ตัว ให้กับฮีโร่ทีมดับไฟป่าและอาสาสมัครของมูลนิธิกระจกเงา สำหรับใช้ในภารกิจดับไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย และในเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 ยูนิโคล่เองก็ส่งมอบเสื้อผ้ากว่า 8,000 ตัวให้มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก หรือ Save the Children และ มูลนิธิกระจกเงา เพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้

และหากมองกลับมาในมุมธุรกิจ ยูนิโคล่พยายามส่งเสริมสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้ถุงกระดาษแทนถุงพลาสติก แต่เพราะถุงกระดาษต้องมีการตัดต้นไม้จำนวนมาก ทำให้ยูนิโคล่บริจาคเงินที่ได้จากการขายถุงกระดาษ 1 ล้านบาททุกปีให้แก่ มูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ พร้อมจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ที่สวนป่านิเวศอ่อนนุช ภายใต้โครงการ Let’s Grow Together ร่วมกับกรุงเทพมหานคร พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกทางสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กและเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ในปีนี้

และมีการปรับเปลี่ยนใช้พลังงานหมุนเวียน 100% มาตั้งแต่ปี 2021 ที่เรียกว่า I-REC และรณรงค์ลดการใช้พลังงานที่ร้านสาขาและสำนักงานใหญ่

จากความยั่งยืนในแต่ละด้านของยูนิโคล่ ตามเป้าที่ บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ได้มีการกำหนดเป้าหมาย 2 แกนหลัก คือ การผลิตเสื้อผ้าที่ดีกว่าสำหรับสิ่งแวดล้อม และการผลิตเสื้อผ้าที่ดีสำหรับผู้คนและสังคม ทำให้ส่งต่อเป้าความยั่งยืนนี้สู่ปี 2025 ที่ได้วางเป้าไว้ ดังนี้

เป้าหมายและแผนการด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ ประเทศไทย ในปี 2568

โครงการ RE.UNIQLO Warmth for All

  • ตั้งเป้ารับบริจาค 160,000 ตัว คิดเป็น 130% จากยอดเสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคในปี 2567
  • สานต่อความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิบ้านร่มไทร และ UNHCR ประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ

RE.UNIQLO Studio

  • สนับสนุนให้คนไทยใช้ไอเทม LifeWear ที่มีอยู่ให้ยาวนานและยั่งยืนยิ่งขึ้นผ่านบริการ RE.UNIQLO Studio
  • สร้างสรรค์ลายปักใหม่ๆ และลายปักในช่วงเทศกาล อาทิ สงกรานต์, Pride Month และคริสต์มาส อย่างต่อเนื่อง
  • เน้นบริการอื่นๆ อาทิ บริการปักลาย Sashiko (ซาชิโกะ) ที่เป็นลายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งจะปรับโฉมให้เสื้อผ้าของคุณมีเอกลักษณ์และไม่ซ้ำใคร และการบริการซ่อมแซมเสื้อผ้าตัวโปรดของคุณ

การจ้างงานพนักงานผู้พิการ

  • ในปี 2567 ยูนิโคล่มีการจ้างงานพนักงานผู้พิการทั้งสิ้น 28 คน 
  • ในปี 2568 นี้ ยูนิโคล่ตั้งเป้าหมายในการจ้างพนักงานผู้พิการทั้งสิ้น 33 คน

เดินหน้าสนับสนุนเยาวชนไทย

  • สนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยผ่านการเล่นกีฬา ภายใต้โครงการ UNIQLO NEXT GENERATION DEVELOPMENT PROGRAM โดยในปี 2568 ยูนิโคล่ตั้งเป้าว่าจะจัดกิจกรรมร่วมกับเยาวชนไทยกว่า 150 คนทั่วประเทศ

ความร่วมมือกับพันธมิตร

  • ดำเนินการด้านความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อช่วยผลักดันแผนการด้านความยั่งยืนในประเทศไทย
  1. PM Warrior Award – Kids & Rajapruk Foundation & BMA โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้สำหรับเยาวชนไทยในเรื่อง PM 2.5 
  2. ความร่วมมือกับ UNESCO สำหรับโครงการ “Sustaining Our OCEANS” 
  3. ความร่วมมือกับ GC และสาธิตจุฬา สำหรับการนำวัสดุที่ถูกใช้งานแล้วมาใช้งานใหม่อีกครั้ง

ก้าวสู่เป้าหมายการลดขยะให้เป็นศูนย์ (Zero Waste)

  • ลดการใช้พลาสติกในการขนส่ง โดยรวมบรรจุภัณฑ์เสื้อผ้าเข้าด้วยกันในถุงพลาสติกใบเดียวในการขนส่งจากโรงงานผลิตมายังร้านยูนิโคล่ ซึ่งประเทศไทยจะเริ่มดำเนินการสำหรับสินค้าฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิในปี 2568 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกได้ถึง 1 ใน 4 ภายในปีนี้
  • สนับสนุนให้ลูกค้าใช้ถุงผ้าของตนเอง เพื่อลดการใช้ถุงกระดาษ
  • การใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งที่ร้านสาขาและสำนักงานใหญ่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า