ไทยครองประเทศ ‘คนโสด’ และดีไซน์ ‘บ้านคนโสด’ กลายเป็นคอนเซปต์ที่คนถามหาเยอะที่สุดของ SC Asset

สังคมประเทศไทยที่ใครๆ ก็พูดแต่เรื่อง ‘สังคมสูงอายุ’ แต่รู้หรือไม่ว่าคนไทยเป็นกลุ่มประเทศที่เรียกกันว่า ‘คนโสดครองเมือง’ และหลายคนก็อาจไม่รู้ว่าจำนวนคนโสด ไม่มีคู่ ไม่แต่งงาน ไม่มีลูก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี

ในปี 2567 ที่ผ่านมา สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เคยให้ข้อมูลอินไซต์น่าสนใจว่าไทยเป็นประเทศแห่ง ‘คนโสด’

โดยข้อมูลระบุว่า ประเทศไทยมีคนโสดมากถึง 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งหมด คิดเป็น 23.9% และส่วนใหญ่เป็นคนที่อาศัยในเขตเมือง นอกจากนี้ กลุ่มคนโสดที่ว่านั้นเป็น ‘คนวัยเจริญพันธุ์’ มากขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ 50.9%

และ ‘กรุงเทพฯ’ กลายเป็นเมืองที่มีคนโสดอาศัยอยู่มากถึง 50.4 % เมื่อเทียบสัดส่วนคนโสดต่อประชากรเชิงพื้นที่

สอดคล้องกับดีมานด์ที่ SC Asset ได้ให้สัมภาษณ์กับ TODAY Bizview เกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าจากคอนเซปต์บ้านทั้งหมดที่เคยเปิดตัว 4 ซีรีส์

• บ้านคนโสด
• บ้านเดียวกัน
• บ้าน introvert-extrovert
• บ้านเกมเมอร์

และซีรีส์ที่ 5 จะเปิดตัวในอนาคตเร็วๆ นี้ แต่ไม่บอกว่าเกี่ยวกับอะไร เพียงแต่มาจากอินไซต์ที่ได้มา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากพนักงาน, การส่งเซอร์เวย์ไปหาลูกบ้าน, การร้องเรียนหรือคำติชมของลูกบ้านผ่านแอปพลิเคชั่น, เทรนด์ต่างๆ และเซอร์เวย์ที่มาจาก 3rd party ของ SC Asset

‘สมยศ วรวุฒิยานนท์’ Senior Vice President Innovative Digital Marketing บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกว่า เวลาที่เราเห็นข้อมูลทั้งหมดจากตรงนั้น ก็จะเห็นเองว่าในข้อมูลพวกนั้นมันมีอะไรซ่อนอยู่

เทียบง่ายๆ 5 ปีก่อนการเก็บข้อมูลใน mailbox มันเล็กกว่านี้ เราก็แค่ขยาย mailbox ให้มันกว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น เราไม่ได้ต้องลดต้นทุนลงเพื่อให้ประหยัดากขึ้น แต่ลงทุนในเรื่องที่สมเหตุสมผลมากขึ้น

“SC Asset เราไม่เคยหยุดพัฒนา เรามองจากอินไซต์แล้วเอามาปรับปรุง และก็เอาโปรดักส์ใหม่มานำเสนอลูกค้าอีกที”

[ แบรนด์แรกๆ ‘พื้นรับแรงกระแทกผู้สูงอายุ’ ]

SC Asset เป็นแบรนด์แรกๆ ที่ทำพื้นรับแรงกระแทกผู้สูงอายุ แม้ว่าจะนานมากแล้ แต่ถ้าพูดถึงการไม่หยุดพัฒนา แนวคิดหรือมุมมองในเรื่องนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีจาก SC Asset

จากพื้นที่รองรับแค่ผู้สูงอายุในบ้าน ก็เริ่มขยายแนวความคิดไปเป็นคอนเซปต์อื่น คิดในพื้นฐานที่ว่า “ One size doesn’t fit all” คือ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมือนหรือความต้องการเดียวกันหมด

สมยศ เล่าว่า พอเราเห็นอินไซต์เกี่ยวกับ ‘คนโสด’ SC Asset ก็พัฒนาไปสู่ ‘บ้านคนโสด’ ซึ่งไม่ใช่แค่บ้านแต่มันหมายถึงพื้นที่ในบ้าน พื้นที่ใช้สอยอื่นๆ เช่น บ้านคนโสดอาจจะมีแค่ 2 ห้องนอน ที่เหลือเป็นห้องอเนกประสงค์อย่างอื่น หรือมีพื้นที่สำหรับน้องหมาน้องแมว มีประตูต่างๆ สำหรับน้อง ทั้งหมดนี้คือผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว

ส่วนวิธีการเลือกซีรีส์บ้านของ SC Asset เขาบอกว่า การที่มีข้อมูลเยอะๆ ก็เป็นความเสี่ยงของธุรกิจ หากเราไม่สามารถวิเคราะห์ได้ เราไม่สามารถหยิบทุกอย่างที่บอกในข้อมูลมาทำได้

ดังนั้น เราเลือกทำแค่ไม่กี่หลังก่อน เป็น prototype ซึ่งหลายครั้งที่เราทำมาเราได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี อย่างบ้านคนโสด แม้ว่าคนๆ นั้นไม่ใช่คนโสด แต่เขาก็อยากได้เหมือนกัน

“ที่จริงเรามีแพลนว่า อยากจะทำซีรีส์บ้านใหม่ๆ ทุกปี แต่ว่าต้องดูหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ ซึ่งตอนนี้สิ่งที่คิดจะทำก่อนก็คือ เราจะนำ 4-5 แบบที่เราทำดีอยู่แล้ว มาขยายต่อในโครงการอื่นๆ โลเคชั่นอื่นเพิ่มเติม”

“ซึ่งในแต่ละปีเราจะเปิดแบรนด์บ้านประมาณ 10-20 โครงการต่อปี ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งของเราอยู่แล้ว แล้วเราก็จะสอดแทรกซีรีส์บ้านต่างๆ ไปด้วย”

“อย่างซีรีส์บ้านที่คนเรียกร้องมากๆ และถามเข้ามาตลอดว่าเมื่อไหร่จะมีเพิ่มเข้ามาอีก ก็คือ บ้านคนโสด”

[ ยังเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่จับดีไซน์รุปแบบนี้ ]

สมยศ แชร์ว่า ปัจจุบันการทำซีรีส์บ้านของ SC Asset ในแต่ละแบบ คิดว่ายังไม่มีใครมาจับตลาดนี้นัก น่าจะเป็นรายแรกๆ และรายเดียวในตลาดตอนนี้

ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมปี 2568 สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของ ‘สมยศ’ เขามองว่า “น่ายากนิดหนึ่ง ทั้งเศรษฐกิจต่างๆ ดอกเบี้ยแบงก์ที่ไม่ปล่อยกู้มากนัก ก็เลยคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องยากเหมือนกันสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แล้วเราไม่รู้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็นไงด้วย ภาพรวมหลายๆ อย่างประกอบกัน เราก็ไม่รู้ว่าลูกค้าของเราจะมีธุรกิจ หรือมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับอเมริการึเปล่า”

อย่างไรก็ตาม SC Asset ได้รับผลกระทบเช่นกันแต่อาจจะไม่รุนแรงเทียบกับอีกหลายแบรนด์ที่เจาะตลาด ‘กลุ่มแมส’ ซึ่งในปีนี้ SC Asset ยังโฟกัสไปที่กลุ่มตลาดพรีเมียม ลักชัวรี่ เป็นกลุ่มคนมีกำลังซื้อที่มีเครดิตดีพอสมควร