ไม่นานมานี้ Apple เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง iPhone 16e น้องใหม่จิ๋วแต่แจ๋วไป เมื่อคืนนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่ Apple เปิดตัว iPad Air พร้อมชิป M3 และ Magic Keyboard ใหม่ เหมาะกับนักศึกษาและนักสร้างสรรค์ผลงาน ราคาเริ่มต้นเท่าเดิมแต่สเปคดีกว่า
TODAY Bizview จะมาสรุปสเปคคร่าวๆ ให้ฟังกัน
[ เร็วกว่า iPad Air ชิป M1 เกือบ 2 เท่า ]
เริ่มจากเรื่องของความเร็ว iPad Air พร้อมชิป M3 เร็วกว่า iPad Air พร้อมชิป M1 เกือบ 2 เท่า และเร็วกว่า iPad Air พร้อมชิป A14 Bionic สูงสุด 3.5 เท่า ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจได้รวดเร็วกว่าที่เคย จนถึงการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนักๆ ใช้แอปที่ต้องประมวลผลหนักๆ จนถึงนักเดินทางที่ตัดต่อคอนเทนต์ขณะอยู่นอกสถานที่
โดยชิป M3 มาพร้อม CPU แบบ 8-core ทำให้เวิร์กโฟลว์ CPU ขณะที่ GPU แบบ 9-core ในชิป M3 ก็มอบประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่เร็วกว่าชิป M1 สูงสุด 40% และชิป M3 ยังนำสถาปัตยกรรมกราฟิกของ Apple มาไว้บน iPad Air เป็นครั้งแรก
พร้อมทั้งรองรับ Dynamic Caching รวมไปถึงการให้แสงเงาแบบเมชและเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งสำหรับเวิร์กโฟลว์การเรนเดอร์ที่เน้นกราฟิกหนักๆ ก็ต้องบอกว่า iPad Air พร้อมชิป M3 มีประสิทธิภาพเร็วกว่า iPad Air พร้อมชิป M1 สูงสุด 4 เท่า จึงทำให้แสงเงาและภาพสะท้อนนั้นถูกต้องแม่นยำขึ้น แถมยังมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สวยงามสมจริง
นอกจากนี้ ยังมี Neural Engine ที่เร็วขึ้นในชิป M3 ทำให้ผู้ใช้ iPad Air สัมผัสความสามารถด้าน AI ที่มากยิ่งขึ้นใน iPadOS โดย Neural Engine ในชิป M3 นั้นเร็วขึ้นสูงสุด 60% สำหรับเวิร์กโหลดด้าน AI เมื่อเทียบกับชิป M1 iPad รุ่นที่ใช้ชิปตระกูล A ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ Apple Intelligence หรือขนาดที่มีให้เลือกทั้ง 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว รวมถึงการรองรับอุปกรณ์ Magic Keyboard ใหม่ และ Apple Pencil Pro
[ ใช้ Apple Intelligence ช่วยในการเขียนหรือสเก็ตซ์ภาพได้ ]
iPad Air รองรับ Apple Intelligence ใช้ได้หลายเครื่องมือ เช่น เครื่องมือ “ลบออก” ในแอปรูปภาพที่ช่วยลบสิ่งรบกวนสายตาในภาพได้ง่ายๆ หรือการค้นหาด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ค้นหารูปภาพหรือวิดีโอได้แทบทั้งหมด เปลี่ยนภาพสเก็ตช์คร่าวๆ เป็นภาพที่สวยงาม เพียงแค่วาดวงกลมล้อมรอบภาพสเก็ตช์ด้วย Apple Pencil หรือวาดวงกลมรอบพื้นที่ว่างๆ ภายในโน้ต แล้วไม้เสกภาพก็จะรวบรวมบริบทจากบริเวณรอบๆ
ในขณะที่ Siri เองก็มีความสามารถในการสนทนาที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และจับใจความได้ถึงแม้ผู้ใช้จะพูดตะกุกตะกัก นอกจากนี้ Siri ยังสามารถรักษาบริบทของบทสนทนาแล้วนำไปปรับใช้กับบทสนทนาถัดไปได้ อีกทั้งยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยให้ Siri สามารถตอบคำถามหลายพันคำถาม
ผู้ใช้สามารถนำความเชี่ยวชาญของ ChatGPT มาใช้โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างแอปพลิเคชัน เพราะ ChatGPT จะผสานรวมเข้ากับเครื่องมือการเขียนและ Siri แบบไร้รอยต่อ เพื่อให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ เสร็จได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึง ChatGPT ได้ฟรีโดยไม่ต้องสร้างบัญชี
และมั่นใจได้ว่าจะได้รับการปกป้องความเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ทั้งการอำพรางที่อยู่ IP และการที่ OpenAI ไม่จัดเก็บข้อมูลคำขอ ทั้งยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะเปิดใช้การผสานรวมกับ ChatGPT หรือไม่ และควบคุมได้เต็มที่ว่าจะใช้เมื่อใด และแชร์ข้อมูลอะไรบ้างกับ ChatGPT
นอกจากนี้ Magic Keyboard แบบใหม่หมดสำหรับ iPad Air ให้ผู้ใช้ทำอะไรๆ ได้มากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีแทร็คแพดในตัวที่ใหญ่ขึ้นเพื่อช่วยให้จัดการกับงานที่ต้องใช้ความละเอียดได้แม่นยำยิ่งกว่าเดิม และแถวปุ่มฟังก์ชั่น 14 ปุ่มใหม่ก็ช่วยให้เข้าถึงคุณสมบัติต่างๆ
อย่างความสว่างหน้าจอและการควบคุมระดับเสียงได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ Magic Keyboard ใหม่ยังติดเข้ากับตัวเครื่องด้วยแม่เหล็กโดยมี Smart Connector ที่จะเชื่อมต่อเพื่อจ่ายไฟและรับส่งข้อมูลในทันทีโดยไม่ต้องใช้ Bluetooth ส่วนบานพับอะลูมิเนียมที่ตัดแต่งด้วยเครื่องจักรก็มาพร้อมช่องต่อ USB-C สำหรับชาร์จ โดย Magic Keyboard ใหม่สำหรับ iPad Air มาในสีขาว
iPad Air 4 สี เริ่มต้นในราคาเท่าเดิม 21,900 บาท สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ 28,900 บาท สำหรับรุ่น 13 นิ้ว ส่วนราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ iPad Air รุ่น 11 นิ้ว เริ่มต้นเพียง 20,100 บาท และสำหรับรุ่น 13 นิ้ว เริ่มต้นเพียง 27,100 บาท วางจำหน่ายเร็วๆ นี้