ขนมโมจิ แม้อร่อย แต่ก็ทำให้ชาวญี่ปุ่นตายทุกปี

ชาวญี่ปุ่นมักทานขนมโมจิตามธรรมเนียมวันขึ้นปีใหม่ เชื่อว่าจะทำให้มีความสุข อายุยืน แต่ทำให้มีผู้เสียชีวิตทุกปี เนื่องจากการสำลักและติดคอ จนหายใจไม่ออก ซึ่งในปีนี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 15 คน ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ 

ขนมโมจิ (mochi: 餅) เป็นขนมดั้งเดิมสไตล์ญี่ปุ่น มีลักษณะคล้ายขนมเค้ก (เค้กข้าว) เนื้อนุ่มและเหนียว ทำจากข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้ว ก่อนที่จะนำมาตำจนเป็นแป้งเหนียวๆ ยืดได้ กลายเป็นแป้งโมจิ จะทานสดหรือนำไปทำเป็นขนมอื่นๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ขนมไดฟุกุ หรือดังโกะ บางสูตรก็จะมีไส้อยู่ข้างใน เช่น ถั่วแดงบด หรือไส้หวานๆ จะนำไปย่าง หรือนำไปต้มกับซุปถั่วแดงก็อร่อย

ตามธรรมเนียมของเทศกาลปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นจะทำโมจิไปใส่ในซุปผักร้อนๆ เรียกว่า โอะโซนิ (Ozoni: お雑煮)  เชื่อกันว่า หากใครได้ทานช่วงปีใหม่แล้ว จะทำให้โชคดี สุภาพร่างกายแข็งแรง อายุยืน และมีความสุข

แม้ว่าจะมีรสชาติหวานอร่อย แต่โมจิเป็นขนมที่เหนียว ก้อนใหญ่ และเคี้ยวยาก ต้องใช้แรงและเวลาในการเคี้ยวให้ละเอียด หากเคี้ยวไม่ละเอียดก่อนกลืน อาจทำให้ติดข้างอยู่ในลำคอ ทำให้หายใจไม่ออก เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมทานโมจินั้น ในแต่ละปี เจ้าหน้าที่ต้องออกคำเตือนให้ทานโมจิอย่างระมัดระวัง เช่น ควรตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ เคี้ยวละเอียดและช้าๆ ก่อนที่จะกลืน โดยเฉพาะเด็กและคนชรา สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้ที่ทานโมจิแล้วสำลักติดคอ จนต้องไปโรงพยาบาลนั้น กว่าร้อยละ 90 เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งแม้จะมีคำเตือนทุกปี แต่ก็มีผู้เสียชีวิตจากการทานโมจิทุกปีเช่นกัน

ย้อนกลับไปในปี 2014 – 2015 มีผู้เสียชีวิตจากการทานโมจิถึง 9 ราย และในปี 2016 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ในปีล่าสุด (2017) มีผู้เสียชีวิต 2 คน อายุประมาณ 50 ปี และ 80 ปี  นอกจากนี้ยังมี 7 คนมีอาการขั้นวิกฤต ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลรวมกว่า 15 คนทั่วประเทศญี่ปุ่น