‘Everything Traveler’ เน้นแพลนเที่ยวยืดหยุ่น พักผ่อน ทำกิจกรรม แล้วก็ ‘ทำงาน’

ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวสมัยก่อนเราจะเห็นการแบ่งแยกเวลาชัดเจน เที่ยวคือเที่ยว ทำงานคือทำงาน แต่ยุคนี้เส้นแบ่ง 2 ฝั่งนี้นับวันยิ่งเบลอไม่ชัดเจน กลายเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวแบบใหม่ที่นักการตลาดกำลังพูดถึง ก็คือ ‘Everything Traveler’

ในความหมายของ ‘Everything Traveler’ มันคือ การเน้นประสบการณ์หลายๆ แบบ ไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรมอย่างเดียว พักผ่อนอย่างเดียว หรือตามรอยร้านอร่อยอย่างเดียวก็ได้ แต่เราสามารถทำหลายๆ อย่างไปด้วยกันในทริปเที่ยว โดยไม่คาดหวังว่ามันต้องออกมาเพอร์เฟ็กต์ เน้นเยอะ หลายอย่าง เอ็นจอย ได้หลายอารมณ์

รายงาน SiteMinder’s Changing Traveller Report 2025 จากนักเดินทาง 12,000 คนจาก 14 ประเทศ ได้พูดถึง Everything Traveler ว่าเป็นรูปแบบการใหม่ของการท่องเที่ยวยุคนี้ที่ผสมผสานเทรนด์แบบดั้งเดิมกับเทรนด์กระแสใหม่เข้าด้วยกัน

พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ สรุปให้เข้าใจง่ายก็คือ

– ก่อนจองโรงแรมพวกเขาจะเสิร์ช ดูรีวิว และความใกล้ของที่พักกับสถานที่ทำกิจกรรม ทั้งจากที่พักเอง และรอบข้างด้วย เพื่อประหยุดการเดินทางไกล

– สนใจทำกิจกรรมเชิงสังคมมากขึ้น

– กิจกรรมพิเศษของโรงแรม/ที่พัก ตั้งใจว่าจะเข้าร่วม เช่น โยคะ, การชิมไวน์

– มีการวางแผนท่องเที่ยวค่อนข้างยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตลอด

– เลือกที่จะใช้เวลาในโรงแรมให้คุ้มค่า มากกว่าตระเวนท่องเที่ยว และทำกิจกรรมที่ไกลออกไป

– ตามรอยร้านอร่อยใกล้ฉันก่อน

– แบ่งเวลาสำหรับการทำงานด้วย มาทั้งทีต้องใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด

[ เปิดโลกในต่างประเทศมากขึ้น ]

นักท่องเที่ยวที่ทำการสำรวจ วางแผนที่จะออกสำรวจต่างประเทศมากขึ้นในปี 2025 โดย 72% มีแผนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 65% ในปี 2024 และ 62% ในปี 2023

‘ญี่ปุ่น’ เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด ประมาณ 13% โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยและอินโดนีเซีย มีแนวโน้มที่จะจองทริปไปที่นั่นมากที่สุด

ตามด้วย สหรัฐอเมริกา (9.5%) และฝรั่งเศส (9%) นอกจากนี้ นักท่องเที่ยว 1 ใน 2 มีแนวโน้มที่จะซื้อแพ็คเกจทัวร์แบบส่วนตัว เพราะไม่ต้องการไปร่วมทริปกับคนแปลกหน้า

แม้ว่าพวกเขาอยากไปท่องเที่ยวในต่างประเทศมากขึ้น แต่ก็มองว่า การได้ใช้เวลากับที่พักอย่างคุ้มค่าเป็นเรื่องจำเป็น โดย ‘คนไทย’ 65% คิดว่าต้องใช้เวลาในโรงแรม หรือห้องพักมากขึ้นในระหว่างทริป

ส่วนชาติที่คิดแบบนี้มากที่สุดก็คือ ‘อินเดีย’ 80% ตามด้วย ‘สิงคโปร์’ 63% เทียบกับค่าเฉลี่ยของคนทั่วโลกที่ทำการสำรวจ อยู่ที่ 51%

[ คนไทยใช้เวลายืดหยุ่น ทำงานด้วย เที่ยวด้วย ]

อย่างที่บอกว่า คนไทยส่วนใหญ่ตั้งใจจะใช้เวลากับที่พักมากขึ้น แต่พวกเขายังมองหากิจกรรมพิเศษๆ อยู่ในระหว่างทริป ดังนั้น ผลสำรวจครั้งนี้พบว่า 4 ใน 5 ของนักท่องเที่ยวคนไทยมีแนวโน้มจะเดินทางไปชมเทศกาลดนตรี หรือกิจกรรมอื่นๆ ข้างนอกโรงแรม

แต่พวกเขายังแบ่งเวลาสำหรับงาน ยังรับผิดชอบงานที่ทำอยู่แม้ว่าจะท่องเที่ยวก็ตาม โดย 68% พบว่า นักเดินทางคนไทยมีแนวโน้มที่จะทำงานไปด้วยระหว่างเสมอ หากอยู่ในห้องพัก หรืออยู่ในสถานที่ที่สามารถทำงานได้

นอกจากนี้ ‘สุภกฤษฎิ์ แผนสมบูรณ์’ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท SiteMinder ได้กล่าวว่า “ผลสำรวจของปี 2025 แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวคนไทยมีการผสมผสานเทคโนโลยีและความยืดหยุ่นในการทำงานเข้ากับการพักผ่อน รวมถึงแนวโน้มการทำงานไปด้วยระหว่างการเข้าพัก ทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำเทรนด์โลกในการผสมผสานการพักผ่อน การทำงาน และเครื่องมือดิจิทัลเข้าด้วยกัน”