แนวคิดใหม่ของ ‘Gen Z ญี่ปุ่น’ ฝากเงินน้อยลง ซื้อหุ้นมากขึ้น

ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ผู้คนมีนิสัยรักความมั่นคงทางการเงินมานานหลายทศวรรษ โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่เติบโตมาในยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ที่มักจะเลือกฝากเงินหรือเก็บเงินสดไว้ในธนาคารเป็นหลักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่ภาพเหล่านั้นกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตั้งคำถามกับการออมเงินเเบบเดิมๆ และหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เห็นได้ชัดในกลุ่ม Gen Z

หนึ่งในแรงกระตุ้นสำคัญคือภาวะเงินเฟ้อที่กลับมาอีกครั้งหลังจากญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะเงินฝืดมานานหลายปี บวกกับความกังวลเกี่ยวกับระบบบำนาญของประเทศที่อาจไม่เพียงพอรองรับประชากรสูงวัยในอนาคต คนรุ่นใหม่จึงเริ่มมองว่าการออมเงินอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป

นอกจากนี้ ความสนใจในการลงทุนของคนญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลผลักดันให้มีการพัฒนาความรู้ทางการเงินภายในโรงเรียนมัธยม และการขยายโครงการออมเงินเพื่อการลงทุนที่ได้รับการยกเว้นภาษีที่เรียกว่า NISA 

การผลักดันดังกล่าวทำให้จำนวนบัญชี NISA ที่ถือครองโดยคนอายุต่ำกว่า 40 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 7.4 ล้านบัญชี ณ เดือนกันยายน 2024 จาก 5.8 ล้านบัญชีในปีก่อนหน้า ตามข้อมูลของสำนักงานบริการทางการเงิน 

รวมถึงข้อมูลจากสมาคมทรัสต์เพื่อการลงทุนยังสะท้อนถึงเทรนด์นี้ชัดเจนมากขึ้น  โดยพบว่าคนในวัย 20 ปีในญี่ปุ่นที่หันมาลงทุนในหุ้น กองทุนรวม และตราสารหนี้ เพิ่มจาก 13% ในปี 2016 มาเป็นมากกว่า 36%  ในปี 2024 ขณะที่กลุ่มวัย 30 ปี ก็เพิ่มขึ้นจาก 24% เป็น 42.5% เช่นเดียวกัน

เพราะหากย้อนกลับไปในช่วงก่อนปี 2022 มีแค่เพียง 7% ของประชากรญี่ปุ่นที่เคยได้รับคำแนะด้านการเงิน ขณะที่ในสหรัฐฯ มีอยู่ที่ 20% ซึ่งมากกว่าญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะ

ตัวเลขนี้ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเร่งขยายการเรียนรู้สู่กลุ่มเยาวชนมากขึ้น และดูเหมือนจะได้ผลรับที่น่าพอใจจากตัวเลขต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น 

จากการที่คนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นหันมาลงทุนมากขึ้น ไม่เพียงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทัศนคติในส่วนบุคคลเท่านั้น

แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของระบบเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนั้นแล้ว แนวคิดของคนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นยังเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตมาก โดยเฉพาะมุมมองในการลงทุน  เพราะว่าแม้จะตระหนักถึงความเสี่ยงของตลาด

เช่น ความผันผวนจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ แต่พวกคนรุ่นใหม่กลับเลือกที่จะเรียนรู้และปรับตัวอยู่กับความไม่แน่นอน มากกว่าการหลีกเลี่ยงด้วยการเก็บเงินไว้เฉยๆ