Skechers แบรนด์รองเท้าชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คนไทยคุ้นเคยกันอย่างดี ล่าสุดกำลังจะถูกซื้อกิจการโดยบริษัทการลงทุนระดับโลกอย่าง 3G Capital เพราะผลกระทบสงครามภาษี
ท่ามกลางแรงกดดันจากภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่พุ่งสูงถึง 145% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับปัญหาผลประกอบการที่เริ่มสั่นคลอนมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
ดีลนี้นับเป็นหนึ่งในดีลที่ใหญ่ที่สุดของวงการรองเท้า ด้วยมูลค่ากว่า 9,420 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.4 แสนล้านบาท คาดว่าจะปิดดีลได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2025
โดยใช้เงินทุนจาก 3G Capital ร่วมกับเงินกู้จากธนาคาร JPMorgan Chase
หากข้อตกลงสำเร็จ Skechers จะถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) อย่างเป็นทางการ เปลี่ยนจากบริษัทมหาชนกลับมาเป็นบริษัทเอกชน หลังจากอยู่ในตลาดมานานถึง 26 ปี
สำหรับ 3G Capital เป็นบริษัทลงทุนระดับโลก ก่อตั้งโดย Jorge Paulo Lemann มหาเศรษฐีชาวบราซิล และกลุ่มนักธุรกิจผู้มีอิทธิพล มีชื่อเสียงในด้านการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่ โดยเน้นการปรับโครงสร้างองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนอย่างจริงจัง
ในอดีต 3G Capital เคยร่วมมือกับ Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett เข้าซื้อกิจการใหญ่หลายแห่ง เช่น Burger King, Tim Hortons และ Kraft Heinz ซึ่งทุกกรณีล้วนมีการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรอย่างเข้มข้นทั้งด้านการเงินและการบริหาร
ส่วน Skechers เอง ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 เริ่มจากแบรนด์แนวสตรีทสำหรับผู้ชาย และเติบโตมาเป็นแบรนด์รองเท้าที่เน้นความสบาย มีจำหน่ายกว่า 5,000 สาขาทั่วโลก และเคยร่วมแคมเปญกับคนดังอย่าง Britney Spears และ Kim Kardashian มาแล้ว
แม้จะเปลี่ยนมือเจ้าของ แต่ Robert Greenberg ผู้ก่อตั้งและซีอีโอวัย 85 ปี จะยังคงบริหารงานต่อ เช่นเดียวกับ Michael Greenberg และ David Weinberg ซึ่งเป็นทีมบริหารหลักของบริษัท
ความน่าสนใจของข้อตกลงครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Skechers แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ทำให้แม้แต่แบรนด์ใหญ่ก็ต้องปรับตัว การเข้าสู่มือของ 3G Capital อาจเป็นโอกาสใหม่ในการรีเซ็ตธุรกิจ และเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาอย่างแข็งแกร่งในอนาคต