SHARE

คัดลอกแล้ว

แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจอาจจะไม่ดีอย่างที่หลายคนเห็น แต่ก็มีบางธุรกิจที่ยังสามารถเติบโตได้ หนึ่งในนั้นก็คือ ‘อุตสาหกรรมบิวตี้’ ซึ่งข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเผยว่า ในปี 2567 ตลาดความงามประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 2.81 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 10.4%

ที่น่าสนใจคือ แบรนด์โลคอลที่เกิดจากคนไทย กลับเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็เริ่มเข้าใจในตัวสินค้า และอุดหนุนสินค้าคนไทยมากขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มสินค้าบิวตี้ SMEs ของคนไทย

เทรนด์ที่เล่ามานี้ เป็นอินไซต์ที่มาจากร้าน EVEANDBOY หนึ่งในร้านชั้นนำที่มีแบรนด์เครื่องสำอางค์ สกินแคร์ทั้งไทยและต่างประเทศมากที่สุดในเมืองไทย ซึ่ง ‘หิรัญ ตันมิตร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีฟแอนด์บอย จำกัด ได้กล่าวถึง ภาพรวมธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ในปี 2567 ธุรกิจของ EVEANDBOY เติบโตมากถึง 40% คิดเป็นมูลค่าราวๆ 7,000 ล้านบาท ถือว่าเกินจากสิ่งที่ตั้งเป้าไว้มาก”

กลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนเติบโตมากที่สุด ดังนี้
  • กลุ่มเครื่องสำอาง (MAKEUP) เติบโต 45%

  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (SKINCARE) เติบโต 40%

  • กลุ่มน้ำหอม (FRAGRANCE) เติบโต 35%

[ ลูกค้าคนไทย อุดหนุนแบรนด์ไทย ]
เขาแชร์ว่า 90% กลุ่มลูกค้าของ EVEANDBOY คือ ‘คนไทย’ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจเปิดตัวมา 20 ปีแล้ว เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของสินค้าแบรนด์ไทยอย่างต่อเนื่อง
“แบรนด์ไทยช่วงนี้ต้องพูดว่า ได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มสินค้า SMEs แบรนด์ไทยที่ขายใน EVEANDBOY ถือว่าเติบโตระดับพันล้านกันทั้งนั้น ซึ่งตั้งแต่ปีก่อน ก็ได้เพิ่มแบรนด์บิวตี้เข้ามาอีกราวๆ 20% ส่วนมากเป็นแบรนด์ไทย”

“ถ้าเทียบอุตสาหกรรมบิวตี้ของบ้านเรากับญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ประเทศเหล่านั้นโตกว่าเรา 4 เท่า ดังนั้น ตลาดไทยยังมีโอกาสอีกมากสำหรับสินค้าประเภทนี้”

[ กลยุทธ์ เน้นความหลากหลาย ราคาดี เข้าถึงง่าย ]

ในปีนี้ EVEANDBOY ยังโฟกัสที่เรื่อง ‘ความหลากหลาย’ ของสินค้ามัลติแบรนด์ รวมถึงการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ‘Exclusive Brand’ ที่กำลังเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่นำสินค้าดังกล่าวเข้ามาวางจำหน่าย

ตัวอย่าง Kylie Cosmetics ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี กระทั่งได้ต่อสัญญาในฐานะ Exclusive Brand นอกจากนี้ยังมี International Brand แบรนด์ อย่าง Lilybyred, Tirtir, Cancer Council เพื่อทำให้ EVEANDBOY เป็นจุดหมายปลายทางของลูกค้าเมื่อนึกถึงสินค้าในกระแส

ารเพิ่ม Exclusive Brand เป็นการเข้ามาเสริมทัพให้กับ EVEANDBOY โดยกลยุทธ์ในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น ผ่านการขยายสาขาหน้าร้านโดยตั้งเป้ากว่า 25 สาขาภายในปีนี้

“ปลายปี 2568 เราจะมีร้านประมาณ 65 สาขา และภายในปี 2571 จะมี EVEANDBOY ทั้งหมด 140 สาขา สำหรับโลเคชั่นที่เลือกเปิดต้องมีศักยภาพ เป็น Strategic Location รวมถึงยังเน้นเจาะกลุ่มไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น เพรสะในปัจจุบันลูกค้า 90% ของเราเป็นคนไทย”

“โลเคชั่นที่มองไว้ก็คือ EmSphere, Platinum, Terminal 21 Asok, Siam Premium Outlet ทั้งยังมีการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด โดยปัจจุบัน EVEANDBOY มีทั้งหมด 45 สาขา แบ่งเป็นพื้นที่ในกรุงเทพฯ 26 สาขา และต่างจังหวัด 19 สาขา”

“สินค้าในร้าน EVEANDBOY เข้าถึงง่าย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 9 บาท และมีสินค้าหลากหลาย ตอนนี้ที่เริ่มนิยมมากขึ้นในร้านนอกจากสินค้าหลัก ก็คือ เครื่องประดับ หรือ ชุดบอดี้สูท”

“นอกจากนี้ ในร้านเรายังมีบริการอื่นๆ เช่น สอนแต่งหน้า ดังนั้น EVEANDBOY คือร้านที่มีครบ หลากหลาย และบริการเสริมต่างๆ”

EVEANDBOY มีการเปิดตัว Loyalty Program รูปแบบใหม่ ชื่อว่า ‘Ebbie Card’ (เอบบี การ์ด) ซึ่งจะช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการซื้อสินค้าตลอดอายุสมาชิก โดย Ebbie Card มีสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ส่วนลดพิเศษ, ดีลพิเศษเฉพาะสมาชิก, Gift Set สำหรับเดือนเกิด, สิทธิ์ในการซื้อสินค้าออกใหม่ก่อนลูกค้าทั่วไป, สิทธิ์เข้าร่วมในกิจกรรมหรืออีเวนต์ Exclusive เป็นต้น

ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกราวๆ 2.7 ล้านคน และเป้าหมายเพิ่มขึ้น 40% โดยปีนี้จะมีการลงทุนเพิ่มประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อดึงดูดจำนวนสมาชิกมากขึ้น 

ในภาพรวม EVEANDBOY ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในปี 2568 ตั้งเป้าว่าจะเติบโตจากปีก่อนหน้า 30% จากที่ไตรมาสแรกของปีนี้มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าที่ 30% จากการขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ และมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดกับสาขาเดิมเพื่อรองรับการเติบโตในปีนี้

หิรัญ ได้พูดทิ้งท้ายว่า เทรนด์บิวตี้ในเวลานี้เรียกว่าแทบไม่มี loyalty (ซึ่งก็คงคล้ายๆ กับอุตสาหกรรมอื่น) ผู้บริโภคอาจจะไม่ได้สนใจว่าต้องใช้แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเท่านั้นเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้น ธุรกิจต้องเร็วพอที่จะตอบโจทย์ลูกค้า ถ้าเราปรับตัวไม่ทัน ลูกค้าก็จะหลุดมือ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า