SHARE

คัดลอกแล้ว

ถ้าจำกันได้เมื่อต้นปี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยออกมาแสดงความเห็นว่าหนึ่งในโอกาสและอนาตตของการลงทุนในไทย คือ การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของ ‘ระบบบล็อกเชน’ และ ‘คริปโทเคอร์เรนซี’ เพราะเชื่อว่าไทยมีความพร้อม และบอกด้วยว่าวางแผนนำร่องทำแซนด์บ็อกซ์ที่ภูเก็ต ใช้คริปโทฯ เป็นสกุลเงินในการแลกเปลี่ยน รวมถึงสเตเบิ้ลคอยน์ที่อยากจะผลักดันออกมาด้วย โดยหวังจะพัฒนาเป็นระบบภายในปีนี้ 

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (17 มิ.ย.68) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) ของโลก

โดยรัฐบาล ระบุว่า มาตรการนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการดันไทยให้เป็นผู้นำในโลกของคริปโทฯ และโทเคนดิจิทัล ซึ่งจะเปิดทางให้นักลงทุนรายย่อยสามารถ ขายคริปโทฯ หรือโทเคนดิจิทัลได้โดยไม่ต้องเสียภาษี ตั้งแต่ปี 2568 ไปจนถึงสิ้นปี 2572  คิดเป็นระยะเวลา 5 ปีเต็ม

[ เงื่อนไขการยกเว้นภาษี ]

สำหรับบุคคลธรรมดาที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนดิจิทัลจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรส่วนทุน (Capital Gains)  เฉพาะในกรณีที่ทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้แก่

        • ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange)
        • นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker)
        • ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer)

จากเดิมที่นักลงทุนต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% และต้องนำไปรายงานในภาษีเงินได้ประจำปีอีกครั้ง ตอนนี้ไม่ต้องเสียเลย หากเข้าเงื่อนไขพูดง่ายๆ ว่า ถ้าได้กำไรจากคริปโทไม่ต้องเสียภาษีเลยเหมือนกัน

เงื่อนไขจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 และจะต้องทำผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายเท่านั้น

หมายความว่าถ้าเราเทรดหรือขายคริปโตหลังวันที่ 1 มกราคม 2568 โดยผ่านช่องทางที่ได้รับอนุญาตแล้ว ส่วนกำไรจากการขาย (Capital Gains) จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้าเราเทรดหรือขายคริปโตก่อนวันที่ 1 มกราคม 2568 การยกเว้นภาษีนี้จะไม่ครอบคลุม ซึ่งเราจะต้องชำระภาษีตามเกณฑ์ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้

ดังนั้น อย่าลืมดูช่วงเวลาที่เราได้ทำธุรกรรมคริปโต หากเป็นหลังวันที่เริ่มมีมาตรการนี้ เราก็จะได้รับประโยชน์จากการยกเว้นภาษีในส่วนของกำไรจากการขาย

[ มาตรการช่วยหนุนไทยเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล ]

ด้าน ‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อธิบายว่า มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) ของโลกเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรส่วนทุน (Capital Gains) จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker) และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer)

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงิน (Financial Hub) ของโลก 

[ ระดมทุนเพิ่ม เก็บภาษีได้มากขึ้นไม่น้อยกว่า 1,000 ล้าน ]

ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่มีกฎหมายกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลและกฎหมายภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล และต่อมาได้มีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อส่งเสริมให้มีการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลและส่งเสริมให้การซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเกิดขึ้นผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) 

การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลในคราวนี้จะทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย รวมถึงธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้น ตลอดจนการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นและรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นในระยะปานกลางไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

 “มาตรการภาษีนี้เป็นการสนับสนุนการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทยที่อยู่ในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งมีการดำเนินการตามข้อแนะนำของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force (FATF) จึงเชื่อมั่นได้ว่า จะมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ 

นอกจากนี้ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างดำเนินการตามกรอบการรายงานข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัลแบบอัตโนมัติ (Crypto-Asset Reporting Framework: CARF) ของ OECD ซึ่งเป็นการเเลกเปลี่ยนข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัลกับประเทศทั่วโลก อันจะทำให้การทำธุรกรรมทางสินทรัพย์ดิจิทัลมีความโปร่งใสเพิ่มขึ้นอีก”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า