‘ชาตรามือ’ เดินทางมาถึง 80 ปีที่อยู่กับคนไทยมานาน จากวันแรกๆ ที่ครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับชาตั้งแต่ที่อยู่เมืองจีน จนตอนนี้กลายเป็นตำนานของ ‘ชาไทยสีส้ม’ เจ้าแรกๆ ในประเทศไทย โดยปี 2567 มียอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท
ภาพคุ้นเคยของคนไทยเกี่ยวกับ ‘ชาไทย’ คือต้องมีสีส้มเป็นเอกลักษณ์ โดยแบรนด์ชาตรามือ นอกจากจะเป็นเจ้าแรกๆ ที่เรียกเครื่องดื่มสิ่งนี้ว่า ‘ชาไทย’ (แทนคนสมัยก่อนที่เรียกชาซีลอนหรือชาอัสสัม) ชาตรามือยังเป็นเจ้าตลาดใหญ่ครองอันดับหนึ่งเรื่องชาในไทย 70% ในปัจจุบัน
[ 3 เครื่องดื่มครองใจคนไทยมานาน ]
พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ ได้เผยว่า เมนูเครื่องดื่มในร้านชาตรามือ มีอยู่ 3 เมนูที่ถือว่าเป็นเครื่องดื่มยอดฮิต คนไทยสั่งอยู่ตลอด เป็นเมนูขายดีที่สุดของร้าน ก็คือ
-
ชาไทย
-
ชาเขียวนม
-
ชามะนาว
ขณะที่กลยุทธ์ล่าสุดที่ชาตรามือได้ประกาศก็คือ การก้าวสู่การเป็น ‘Global Brand’ ต่อยอดชื่อเสียงของธุรกิจไทย ให้คนทั่วโลกรู้จักอย่างเป็นวงกว้างมากขึ้น
โดยในปีนี้ชาตรามือ ตั้งเป้าเติบโตอยู่ที่ 20% (หรือมากกว่า) โดยมีกลยุทธ์การขยายสาขาเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งปีนี้จะขยายร้านสาขาในประเทศให้ครบ 250 แห่ง (จากตอนนี้ 220 แห่ง) และในต่างประเทศ 130 สาขา (ปัจจุบันมีร้าน 124 สาขา)
ประเทศที่ปีนี้จะบุกไปแน่ๆ ก็คือ แคนาดา, สปป.ลาว, อินโดนีเซีย และเม็กซิโก
“ปัจจุบันชาตรามือ เราส่งออกสินค้ากว่า 50 อย่างในต่างประเทศ ราวๆ 23 ประเทศใน 5 ทวีป และในปีนี้เราจะมีสินค้าใหม่ที่เปิดตัวเร็วๆ นี้ เช่น ‘ชาไทยคอมบูฉะ’ (Sparkling Thai Tea Kombucha) เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ให้ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ”
[ เทรนด์ใหม่คนรักสุขภาพ เพิ่มทางเลือกเมนู ‘ชาไทย’ ]
‘เศรษฐิกิจ เรืองฤทธิเดช’ กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ ได้กล่าวถึงแนวทางธุรกิจของชาตรามือในเป้าหมายต่อไป คือต่อยอดความแข็งแกร่งของเมนูชาไทยซิกเนเจอร์ ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลก เพิ่มเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค
ในปีนี้จะเป็น ‘ครั้งแรก’ ของแบรนด์ชาตรามือที่นำเสนอนวัตกรรมชาสะท้อนแนวคิดการรักษารสชาติต้นตำรับ โดยไม่ยึดติดกับภาพจำเดิมให้กับลูกค้าได้ลิ้มลองด้วยเมนูใหม่ 2 เมนูาไทย ก็คือ
– ชาไทยไม่มีสี โดยจะพร้อมเสิร์ฟในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งเป็นสินค้าที่ชาตรามือส่งออกไปต่างประเทศอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เปิดขายในไทย
– ชาไทยสีธรรมชาติ ที่จะวางขายในไตรมาส 3/2568 ซึ่งเป็นชามาตรฐานชาตรามือ ที่อาจจะมีการใช้สีธรรมชาติ เช่น แครอท ในการแต่งเติม (ราคาจะแพงกว่าสินค้าเดิมเล็กน้อย ไม่เกิน 30%)
แล้วก็ ‘ชาไทยคอมบูฉะ’ ที่มาในรูปแบบ ‘กระป๋อง’ โดยจะเป็นเครื่องใหม่ประเภท sparkling จากชาตรามือ
[ ปีนี้อาจเปิดตัว Brand Ambassador ครั้งแรก ]
ในด้านของกิจกรรม หรือแคมเปญหารตลาดของชาตรามือในปีนี้ ในวาระครบรอบ 80 ปี ‘ศรัณพัฐ เรืองฤทธิเดช’ กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ เผยถึงอีเวนต์น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ว่า
งานแรกที่จะเห็นแน่ๆ ก็คือ ‘Thai Tea Festival : Celebrate ChaTraMue 80th Anniversary’ เป็นอีเวนต์ใหญ่ที่จะจัดในวันที่ 19 – 21 กันยายน 2568 ใจกลางกรุงเทพฯ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยพาร์ทเนอร์ร้านอาหารและคาเฟ่จะร่วมกันคิดค้นเมนูที่มาจาก ‘ชาไทย’ ของชาตรามือ
นอกจากนี้จะยังเห็นการแข่งขัน ‘Thai Tea Star Challenge’ โดยผู้เข้าแข่งขันจะร่วมครีเอตเมนูอาหารจากวัตถุดิบชาตรามือ โดยจะเริ่มแคมเปญนี้ในไตรมาส 3/2568
และ ChaTraMue Shop Campaign รวมถึงการเปิดตัว ‘แอปพลิเคชั่นชาตรามือ’ เพื่อแก้ pain point ลูกค้าที่เข้าคิวนานเกินไป ซึ่งได้ลงทุนไม่เกิน 5 ล้านบาทเพื่อปรับ journey ลูกค้าต่อแบรนด์ให้ดีขึ้นได้
‘ศรัณพัฐ’ ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ปีนี้ประมาณเดือนกันยายน ชาตรามืออาจจะเปิดตัว ‘Brand Ambassador’ ครั้งแรก นับตั้งแต่ที่ก่อตั้งธุรกิจมา
โดยคาดหวังว่าจะเป็นคนที่เข้าใจความเป็นชาตรามือ มีอินเนอร์กับชา และที่สำคัญคือ reflect ไปถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของชาตรามือได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยทำงาน ชาวออฟฟิศ
“ในปีนี้เราจะขยายร้านไปตามโลเคชั่นที่นอกเหนือจากย่านออฟฟิศ หรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งตั้งแต่หลังโควิด-19 พบว่ากลุ่มคนทำงานในโรงพยาบาล และมหาวิทยาลัย ก็เป็น FC เราเหมือนกัน กลยุทธ์ก้เลยจะมาทางโลเคชั่นเหล่านี้มากขึ้น รวมถึงการเปิดร้าน stand alone ด้วย”