WHA ยืนยันไม่ซื้อหุ้นคืน แม้ราคาร่วง-P/E ต่ำ มั่นใจพื้นฐานบริษัทแข็งแกร่ง

WHA ยืนยันวันนี้ว่า ‘ไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน’ แม้ราคาจะปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี P/E เหลือเพียง 8 เท่าก็ตาม โดยมั่นใจว่าพื้นฐานบริษัทยังคงแข็งแกร่ง และท้ายที่สุดแล้ว ราคาหุ้นจะปรับตัวตามผลงานเอง

แม้ราคาหุ้นของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จะร่วงลงต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ราคาปรับตัวลงมาแล้ว 47.52% และล่าสุดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาปรับตัวลง 10.63% ก็ตาม

แต่ทางด้าน ‘จรีพร จารุกรสกุล’ CEO ยังยืนยันว่า บริษัทไม่มีแผนที่จะซื้อหุ้นคืนในเวลานี้ แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลงต่ำสุดเท่าที่ตนเคยเห็นมาก็ตาม โดยล่าสุด อัตราส่วนราคาต่อกำไร (ค่า P/E) ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 8 เท่าเท่านั้น

ที่ตัดสินใจแบบนี้ เพราะเห็นแล้วว่า บริษัทที่ตัดสินใจซื้อหุ้นคืนในตลาด ท้ายที่สุดราคาหุ้นก็ไม่ได้ปรับตัวขึ้นอยู่ดี และเชื่อว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ WHA จะสะท้อนออกมาเป็นราคาหุ้นในท้ายที่สุด

นอกจากนี้ CEO มองว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้น เพราะราคาปรับตัวลงมามาก ส่งผลให้อัตราเงินปันผล (Dividend Yield) ขยับขึ้นเป็น 6-7% ตนที่ได้ปันผลมารอบก่อนก็ตัดสินใจซื้อหุ้นบริษัทตัวเองเหมือนกัน เพราะไม่มั่นใจบริษัทอื่นๆ ในช่วงเวลาแบบนี้

ในวันเดียวกัน WHA ยังอัปเดตถึงแผนธุรกิจ ซึ่งล่าสุดทำได้เกินเป้าหมายไปแล้ว เช่น ยอดขายที่ดินในไทยที่ตั้งเอาไว้ที่ 1,700 ไร่ แต่ปัจจุบันสามารถทำได้เกินกว่า 2,000 ไร่แล้ว ส่งผลให้ยอดขายที่ดินของ WHA จะทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) อีกครั้งในปีนี้

สำหรับปัจจัยสนับสนุนมาจากนโยบายการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา หรือนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตมาไทยและเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม WHA ยังไม่มีการปรับเป้าหมายยอดขายในขณะนี้ เนื่องจากยังรอประเมินธุรกิจนิคมฯ ในเวียดนาม ซึ่งอาจจะไม่ได้ดีมากนัก เพราะถูกกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ที่ 46%

เมื่อสอบถามถึงภาพรวมไตรมาส 2 ปีนี้ที่กำลังจะจบในอีกไม่กี่วัน CEO ระบุว่า ไตรมาสนี้ยังเป็นไปตามแผน สะท้อนจากยอดโอนที่ยังเป็นไปตามเป้าประมาณ 500 ไร่ จากการปิดดีลลูกค้ารายใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 5 (WHA ESIE 5)

อย่างไรก็ตาม ยอดขายอาจจะยังเข้ามาไม่ทันเดือนนี้ (มิ.ย. 2568) เนื่องจากยังอยู่ระหว่างลงรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญา เช่น ข้อกฎหมายต่างๆ ดังนั้น ยอดขายอาจจะขยับไปรับรู้ในเดือน ก.ค. 2568 ซึ่งเป็นไตรมาส 3 แล้วก็เป็นได้

สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะทยอยปิดดีลได้ต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน WHA อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ามากกว่า 100 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) และมีสัญญารอเซ็น (LOI) มากกว่า 1,300 ไร่

ส่วนที่ WHA อยากจะเน้นในปีนี้ คือการตอกย้ำการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งต้องสามารถ ‘กินได้’ หรือสร้างรายได้และกำไรให้กับธุรกิจได้ด้วย

อาทิ แพลตฟอร์ม ‘โมบิลิกส์’ (Mobilix) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเช่ารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อธุรกิจ ปัจจุบันปล่อยเช่าไปแล้ว 330 คัน สร้างรายได้ให้กับ WHA กว่า 132 ล้านบาท และช่วยลดคาร์บอนได้มากกว่า 2,800 ตัน เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา (2567) ธุรกิจสีเขียวของ WHA สร้างรายได้แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท และเชื่อว่าปีนี้ (2568) ธุรกิจสีเขียวจะสร้างรายได้ต่อเนื่องอีก 1,500 ล้านบาท

เมื่อสอบถามถึงปัจจัยการเมืองในประเทศที่มีความเสี่ยงจะเกิด ‘สุญญากาศทางการเมือง’ CEO มองว่า การเมืองในประเทศไม่กระทบต่อธุรกิจของ WHA ไม่ว่าจะเป็นการสู้รบบริเวณชายแดน หรือความเสี่ยงเกิดสุญญากาศ โดยลูกค้ายังลงทุนต่อเนื่อง

ขณะที่การเมืองต่างประเทศ ซึ่งดูจะส่งผลต่อ WHA มากกว่านั้น ก็ส่งผลในทางบวก เพราะนโยบายภาษีของทรัมป์ ก่อให้เกิดการย้ายฐานการผลิต สะท้อนจากยอดขายที่ดินของ WHA ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ามา อยู่ที่ประมาณ 1,000-1,200 ไร่เท่านั้น แต่ภายหลังการเข้ามาของทรัมป์ ยอดขายที่ดินกลับพุ่งขึ้นเป็น 2,000 ไร่

ในส่วนของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลให้หลายบริษัทชะลอการลงทุนออกไปก่อนนั้น WHA ก็ตรงข้ามกับธุรกิจอื่นๆ เพราะลูกค้า โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติจีน ยังเร่งการผลิตเพื่อขายของ ส่งผลให้ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมไม่ได้รับผลประทบ และส่งผลบวกต่อเนื่องไปยังธุรกิจอื่นๆ ของ WHA ที่เกี่ยวจ้องด้วย

ทั้งนี้ จากเทรนด์ธุรกิจ Data Center ที่เข้ามามากขึ้น WHA อยู่ระหว่างศึกษาการสร้างโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง (Captive Power Plant) กำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มธุรกิ จดังกล่าวอีกด้วย…

*** อัปเดตตัวเลข 5 ธุรกิจ ***

1. Logistics Properties Developer ปัจจุบันมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารรวมกว่า 3,108,190 ตารางเมตร (WHAID 810,482 ตารางเมตร) ใน 69 โลเคชั่น

2. Built-to-Suit EV Ecosystem of Logistics ปัจจุบันปล่อยเช่ารถอีวีไปแล้ว 330 คัน พร้อมติดตั้งหัวชาร์จเร็วพิเศษ 38 แห่ง

3. Industrial Estate Developer ปัจจุบันมีนิคมอุตสาหกรรมภายใต้การบริหารกว่า 78,500 ไร่ รวม 16 อุตสาหกรรม และลูกค้ากว่า 1,000 ราย 

4. Lending Industial Utilities and Power Provider ปัจจุบันมีน้ำที่ขายและบริหารกว่า 166 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 965 เมกะวัตต์

5. WHA Digitalization Enabler ปัจจุบันมีโพรเจกต์ทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลกว่า 40 โครงการ และ​​โพรเจกต์ทรานสฟอร์มสู่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) 12 โครงการ