สรุปมุมมองคนทำสื่อยุคนี้ มีจุดยืน สร้างตัวตน หาจุดแข็ง ปั้นคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์

ในยุคที่ใครๆ ก็สามารถเป็นสื่อได้เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง โลกของการสื่อสารจึงเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉม เส้นแบ่งระหว่าง “สื่อ – อินฟลูเอ็นเซอร์ – AI” เริ่มเลือนราง และความท้าทายที่แท้จริงสำหรับองค์กรสื่อในยุคนี้ คือการสร้าง “ตัวตน” และ “จุดยืน” ที่ชัดเจน ท่ามกลางภูมิทัศน์สื่อที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในงาน CREATIVE TALK CONFERENCE 2025 เซสชั่น ‘Media Directions 2026: ทิศทางสื่อและการต่อยอดธุรกิจด้วยสื่อ’  โดย ‘ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา’ Co-founder, Managing Director Cloud & Ground Co.,Ltd. ‘ทีปกร วุฒิพิทยามงคล’ CMO Thairath และ ‘นภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์’ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว TODAY มาแชร์ข้อมูลของการทำสื่อในยุคสมัยนี้ให้ฟัง

[ ความท้าทายของการทำสื่อในยุคปัจจุบัน ] 

เริ่มจากเรื่องความท้าทายของสื่อในปัจจุบันก่อน ฝั่ง ‘The Cloud’ แชร์ให้ฟังว่า ปัจจุบันธุรกิจต่างๆ สามารถผลิตคอนเทนต์และสื่อโฆษณาด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสื่ออีกต่อไป รูปแบบธุรกิจแบบ B2B (Business-to-Business) เริ่มถูกตั้งคำถามถึงความจำเป็น สื่อจำเป็นต้องหาจุดยืนของตนเองที่แตกต่าง สร้างแบรนด์ที่ชัดเจน และเน้นการเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าในรูปแบบอื่นๆ ที่ลึกซึ้งขึ้น

ด้าน ‘Thairath’ (ไทยรัฐฯ ) ในฐานะองค์กรสื่อที่ผ่านยุคเปลี่ยนผ่านมาหลายครั้ง ตั้งแต่ยุคสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ จนถึงออนไลน์ โจทย์ใหญ่ในปัจจุบันคือ การทำให้สื่อทุกช่องทาง ‘เข้าถึงคน’ ได้หลากหลาย และสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้ชมในยุคที่ความสนใจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนน้องใหม่อย่าง ‘สำนักข่าว TODAY’  แม้จะเป็นสื่อออนไลน์ 100% ก็ต้องเผชิญการแข่งขันอย่างหนัก จากสื่อด้วยกันเอง และคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากมาย จึงจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างให้ชัดเจนในตลาด

[ สื่อต้องสร้างตัวตัน หาจุดแข็ง ขยายคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์ ]

‘The Cloud’ ยังเน้นการสร้างตัวตนของแบรนด์ ผ่านงานเขียนที่มีความคราฟต์ และคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์ โดยขยายรูปแบบธุรกิจจาก B2B ไปสู่ B2C (Business-to-Business-to-Consumer) มากขึ้น เช่น การจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ อย่าง Thailand Coffee Fest และ Death Fest ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้นในเชิงประสบการณ์

ด้าน ‘Thairath’ ก็เดินหน้าในฐานะสื่อที่เป็นกระบอกเสียงของประชาชน พร้อมขยายบทบาทให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในแง่ของแพลตฟอร์มเนื้อหา และอีเวนต์ โดยพยายามใช้จุดแข็งของตน เช่น ความเชี่ยวชาญในการผลิตข่าว การเข้าใจผู้คน และความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมไทย ให้กลายเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์สื่อแบบครบวงจร

ส่วนของ TODAY บอกว่ายังเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ มุ่งย้ำจุดแข็งของการเป็น “นักข่าวมืออาชีพ” ที่ไม่เพียงแค่รายงาน แต่ “เข้าใจ” และ “วิเคราะห์” สถานการณ์อย่างรอบด้าน พร้อมกับสร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในเชิงธุรกิจ และขยายรูปแบบคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์ผู้ชมยุคใหม่ยิ่งขึ้น

[ เส้นแบ่งระหว่างสื่อและธุรกิจในอนาคต ]

ปัจจุบันภาคธุรกิจเองก็สามารถผลิตโฆษณาเองได้ และผู้รับสารก็เลือกเสพคอนเทนต์ที่ตรงใจมากขึ้น สื่อจำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่าง “จริยธรรม” กับ “ความอยู่รอด” การทำสื่อในวันนี้จึงไม่ใช่แค่เพื่อการรายงานข่าว แต่เป็นการสร้างความเชื่อถือ และความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ชม

โดยฝั่ง The Cloud บอกว่าเลือกทำงานกับธุรกิจที่มี ‘ความเชื่อร่วมกัน’ และมองหามุมมองใหม่ที่น่าสนใจในการนำเสนอคอนเทนต์ 

ส่วน TODAY ให้ความสำคัญกับคุณภาพของข่าวและความลึกของข้อมูล พร้อมปรับเนื้อหาให้ทันโลก และยังรักษาหลักการข่าวมืออาชีพไว้อย่างแน่วแน่

นอกจากนี้ AI ถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่พลิกโฉมวงการสื่อสารยุคใหม่ สื่อแต่ละเจ้าก็มีวิธีรับมือและใช้ประโยชน์จาก AI แตกต่างกัน

‘The Cloud’ ย้ำว่า เนื้อหาที่ “มีคุณค่า” ต้อง หายาก คัดลอกไม่ได้ และสะท้อนแนวคิดเฉพาะตัว หาก AI ทำให้ทุกอย่างเป็นสูตรสำเร็จ การสร้างความต่างคือทางรอด

‘Thairath’ เชื่อว่า “นักข่าวภาคสนาม” ยังเป็นสิ่งที่ AI แทนไม่ได้ เพราะการสัมผัสสถานการณ์จริง และความเข้าใจทางบริบท ยังต้องอาศัยคนจริง

ส่วน ‘TODAY’ มองว่า AI คือเครื่องมือที่ช่วยงานได้ดี ทั้งด้านวิเคราะห์ข้อมูล แต่การสื่อสารที่จับใจคน ยังต้องพึ่งพาความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ 

และสิ่งสำคัญที่สุดของ “สื่อ” ในยุคที่ทุกอย่างผสมปนเปจนแยกไม่ออก คือ การมีตัวตนที่ชัดเจน และ ความเข้าใจในบทบาทของตนเอง สร้างอัตลักษณ์และจุดยืนของตัวเองให้เด่นชัด เปิดรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมเรียนรู้และพัฒนาเพื่อเติบโตต่อไป