SHARE

คัดลอกแล้ว

https://youtube.com/watch?v=ByLx9EDxHek

จากข่าวการบุกจับกุมตัวยากูซ่าญี่ปุ่นหนีมากบดานได้ที่ศาลลูกศรที่ลพบุรี แล้วตำรวจบอกว่า เป็นระดับหัวหน้าแก๊งเบอร์ 1 ของญี่ปุ่น แก๊งยามากูชิ กูมิ ทำให้เป็นข่าวใหญ่โตชั่วข้ามคืน พอข่าวดัง เลยเป็นที่สนใจ และข้อมูลต่างๆ ก็หลั่งไหลจนกระทั่งพบว่า คนที่ถูกจับกุมได้ที่ลพบุรี ชิเนฮารุ ชิราอิ อายุ 74 ปี ไม่ใช่หัวหน้าแก๊ง เป็นเพียงหัวหน้าสาขาเท่านั้น และก็มีข้อมูลจากคุณธนากร ใจสุขสกุลดี ไกด์และล่ามภาษาญี่ปุ่น ที่คลุกคลีอยู่กับประเทศญี่ปุ่นมานาน ให้ข้อมูลว่า ลุงชิราอิ ที่ลพบุรี ไม่ใช่แม้แต่หัวหน้าสาขาด้วย

ตำแหน่งเริ่มลดลงทุกที

แล้วลุงแกอยู่ตรงไหน บรรดาศักดิ์ในแก๊งแกเป็นอะไรกันแน่

จากภาพที่จำลองให้ดู ภูเขาสีเขียวคืออาณาจักรแก๊งยามากูจิ กูมิ สมาชิกทั้งหมด 40,000 คน เคนอิจิ ชิโนดะ คือหัวหน้าแก๊งเบอร์ใหญ่สุด ณ ตอนนี้ เป็นหัวหน้าแก๊งรุ่น 6 เลื่อนขั้นจากผู้ช่วยหัวหน้าแก๊งรุ่น 5 หลังจากรุ่น 5 วางมือ ไล่ลงมาตามภูเขา เปรียบเป็นลำดับชั้นของแก๊ง เรื่อยลงมา จากชิโนดะที่อยู่บนสุด ไล่ลงมา

ถ้าตามข้อมูลที่ว่าลุงชิราอิ ลพบุรี แกไปฆ่าหัวหน้าแก๊งโคโดไคสาขานาโกยา ชื่อ โอโตเบะ คาสุฮิโกะ ตามข้อมูลคือ โอโตเบะอยู่ลำดับรองสุดท้าย ตามลักษณะของการฆ่าแกง หรือการเลื่อนขั้น ยึดอำนาจ แล้วแต่จะเรียก ก็คือ ตัวรองล้มตัวใหญ่ เพราะฉะนั้น เมื่อโอโตเบะ อยู่ลำดับรองสุดท้ายของแก๊ง เท่ากับว่า ลุงชิราอิ ลพบุรี คือ ลำดับสุดท้ายของแก๊ง หรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็นระดับอันธพาลหางแถวเท่านั้นเอง

สำหรับหัวหน้าแก๊งใหญ่สุดตัวจริง ที่ยังสุขสบายอยู่ญี่ปุ่นนั้น สร้างรายได้นับพันล้านดอลลาร์ต่อปี จากการขู่กรรโชกรีดไถบริษัทห้างร้านต่างๆ คุมบ่อนการพนัน รับจ้างทวงหนี้ ค้าผู้หญิง ปืน ยาเสพติด คุมธุรกิจหนังลามกในอินเทอร์เน็ต รวมถึงการทุจริตในวงราชการทุกระดับ และธุรกิจถูกกฏหมายอื่นๆ อีก ทั้งการลงทุนในธนาคาร ผลิตภัณท์ทางการเงิน สถาบันเงินกู้ อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบันเทิง อุตสาหกรรมหนังเอวี ยันคลับบาร์ ปาจิงโกะ

นิตยสารฟอร์จูน เคยบอกว่ารายได้ของยามากุชิ-กูมิ ปีๆหนึ่งทำเงินกว่า 2.6 ล้านล้านบาท

สำหรับลุงชิราอิ ลพบุรี ไม่ใช่นักเลงญี่ปุ่นคนแรกที่ก่อคดีแล้วหนีมาอยู่ในไทยจนโดนจับได้ ที่ผ่านมาก็มีอยู่เนืองๆ

26 ต.ค. 2552 ตำรวจไทยสามารถ จับกุม นายคิมิโอะ หรือ มาซา โยชิโมโตะ อายุ 37 ปี แก๊ง “ยามากูจิ” เหมือนกัน หนีหมายจับข้อหาพยายามฆ่า สมาชิกแก๊งยานาโตริ ที่โอซาก้า หนีมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 พ.ศ. 2549 ตลอดเวลาที่อยู่ในเมืองไทยทางแก๊งส่งเงินมาให้ใช้จ่าย และมีแฟนเป็นหญิงไทย

25 ก.ค. 2554 นายอาริมะ ยาสึนาริ อายุ 45 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ เป็นสมาชิกยากูซ่าเครือข่ายแก๊งยามากูจิ มีปัญหากับหัวหน้าแก๊งยามากูจิจึงหลบหนีเข้าประเทศไทย

19 มิ.ย. 2555 – นายซูกาวาร่า อดีตของสมาชิกระดับ 6 ของแก๊งยากูซ่า “ยามากุจิ” ถูกออกหมายจับข้อหาปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกง ปลอมหนังสือรับรองสถานะการเงินของธนาคารแล้วนำไปหลอกลวงผู้อื่น มูลค่าความเสียหายประมาณ 130 ล้านเยน หรือ 52 ล้านบาท ก่อนจะหลบหนีมายังประเทศไทย จนตำรวจไทย สามารถจับกุมได้ สืบเนื่องจากความสะเพร่าของเขาที่ลืมหนังสือเดินทางไว้ที่ธนาคาร

1 พ.ค. 2559 นายชูเฮอิ โยชิซาว่า สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 34 ปี หัวหน้ากลุ่มทุนสนับสนุนแก๊งยามากูจิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเมืองโกเบะ ประเทศญี่ปุ่น ฐานความผิดฉ้อโกง เข้าออกประเทศไทย จำนวน 45 ครั้ง ในฐานะนักท่องเที่ยว ต่อมาได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 1 ปี เพื่ออุปการะภรรยาคนไทย

ไทยแลนด์แดนพักพิง หรือจะเรียกว่า หลบหนีมากบดานก็ได้ ว่ากันตรงๆ แต่มันก็มีสาเหตุที่ประเทศไทยกลายเป็นเป้าหมายของอาชญากรที่ก่อเหตุที่นั่นที่นี่แล้วหนีมาหลบอยู่ที่บ้านเรา เพราะว่า

ประเทศไทยมีนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงมีการผ่อนปรนในการผ่านแดนเข้าประเทศ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจได้สะดวกรวดเร็ว จึงเป็นช่องทางให้มีแก๊งอาชญากรรมชาวต่างชาติหลบเข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศไทยอยู่อย่างต่อเนื่อง

และญี่ปุ่นก็เป็น 1 ใน 30 ประเทศที่ กระทรวงมหาดไทย ได้ยกเว้นวีซ่าเข้าไทยโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง

และก็มี “วีซ่าคู่สมรส” ที่อาจเป็นใบเบิกทางแก๊งอาชญากรหนีมากบดานเมืองไทย ผู้ถือวีซ่าแต่งงานในไทยมีสิทธิที่จะอยู่อาศัยในประเทศไทยเต็มปีโดยไม่จำเป็นต้องออกจากประเทศ

ฐานะของกรุงเทพฯ ที่เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค ก็ทำให้เป็นเรื่องสะดวกสำหรับเหล่าอาชญากรที่จะเข้าๆ ออกๆ ประเทศไทย ขณะที่ระดับค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เหล่าร้ายสามารถใช้ชีวิตสุขสบายระหว่างการหลบหนี

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า