สาวคลินิกเสริมความงาม ขับเก๋งประสานงากับเก๋ง ดับ 1 เจ็บ 3

ประเด็นคือ – ที่ จ.ปราจีนฯ เกิดอุบัติเหตุ รถเก๋ง 2 คัน พุ่งชนกัน บริเวณบนถนนสาย 3079 นิคม 304 มุ่งหน้าบ้านโคกขวาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เเละเสียชีวิต 1 ราย  

เมื่อเวลา ประมาณ 21.00 น. วันที่ 13 ม.ค. 61 ร.ต.อ.ชัชวาล แสงสุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญ จุดศรีมหาโพธิว่า มีอุบัติเหตุรถเก๋งชนประสานงากับรถเก๋งด้วยกัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย หลังจากรับแจ้งพร้อมกำลัง รุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุ บริเวณบนถนนสาย 3079 นิคม 304 มุ่งหน้าบ้านโคกขวาง จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณบ้านหนองกระทุ่ม หมู่ที่ 7 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นพบรถเก๋งชนประสานงากัน ได้รับความเสียหายทั้งคู่ โดยคันแรกเป็นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีแดง ทะเบียน กง 4607 นครนายก สภาพด้านหน้าพังยับเยิน

เเละมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ได้แก่ น.ส. วิสินี อัครหัทยาภักดี เป็นผู้ขับขี่ , น.ส.โสรยา จันทร์กระจ่าง เเละ น.ส.ปรียาภรณ์ จันทร์กระจ่าง ซึ่งหน่วยกู้ภัย กำลังนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ศรีมหาโพธิ โดยหนึ่งในจำนวนนี้มีอาการสาหัส นอกจากนั้นแล้วยังพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน 5 กร 5072 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายด้านหน้าพังยับ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ

จากการถามถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถเก๋งทั้ง 2 คัน ได้วิ่งสวนทางกันมา โดยรถเก๋งมิตซูบิชิ ได้วิ่งมาจากนิคมอุตสาหกรรม 304 เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปบ้านโคกขวาง พอมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถเก๋งฮอนด้าที่วิ่งมาจากบ้านโคกขวาง มุ่งหน้านิคมอุตสาหกรรม 304 ได้เกิดชนประสานงากันอย่างจัง ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ผู้โดยสารที่นั่งมากับรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ ได้เสียชีวิต 1 ราย สร้างความเสียใจให้กับเพื่อนๆ เป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งจากการสอบถามนายสุนทร อังคณา เจ้าของคลินิกเสริมความงาม ทราบว่า น.ส. วิสินี และนสโสรยา เป็นเจ้าหน้าที่ของสถานเสริมความงามของตนเอง ส่วนน.ส. ปรียาภรณ์ เป็นน้องสาวของ น.ส.โสรยา ทั้งหมดได้เลิกจากงานกำลังขับรถ จะกลับบ้านที่ปราจีนบุรี แต่ต้องมาประสบอุบัติเหตุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับถนนเส้นดังกล่าว มักจะเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นคอขวดและเป็นเส้นทาง 2 เลน รถวิ่งสวนทาง ไม่มีไฟส่องแสงสว่างข้างทาง จึงทำให้บริเวณดังกล่าวมืดมิด