มอบตัวแล้ว! เสี่ยขับเบนซ์ กระทืบ รปภ. สาหัส เหตุไม่พอใจถูกเตือน

หนุ่มใหญ่ขับเบนซ์เปิดประทุน ทำร้าย รปภ. จนสลบ บาดเจ็บสาหัส สาเหตุมาจากแค่เข้าไปเตือนไม่แลกบัตรผ่านเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งในหาดป่าตอง ล่าสุด เจ้าของเบนซ์เข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พร้อมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยินดีชดใช้ค่าเสียหาย

จากภาพในกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์รถเบนซ์เปิดประทุนคันหนึ่ง มีชาย 2 คน นั่งอยู่ในรถ ขับมาจอดรถตรงป้อมยาม จากนั้นชายคนขับได้ลงไปกระชากคอ รปภ. มาที่รถ และพยายามที่จะดันเข้าไปในรถจนมีการยื้อกันเล็กน้อย ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะต่อยเข้าไปที่หน้า รปภ. จนล้มลง และเตะซ้ำอีกหลายครั้ง จากนั้นก็ขับรถออกไป โดยเหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง บริเวณถนน 200 ปี ใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

https://youtube.com/watch?v=zYnxyQbMopg

พยาน ซึ่งเป็นเพื่อนของ รปภ. ที่เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า เหตุการณ์เกิดตอน 05.00 น. ของวันที่ 15 มกราคม 2561 เพื่อนของตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ จู่ๆ ได้มีรถเบนซ์เปิดประทุนขับเข้ามาด้านทางเข้าโรงแรม ไม่มีไม้กั้น มาจอดที่หน้าล็อบบี้ จากนั้น หัวหน้า รปภ. หน้าล็อบบี้ได้สอบถามว่าได้แลกบัตรเข้ามาหรือไม่ และรบกวนให้กลับไปรับบัตรด้วย

จากนั้นคนขับรถเบนซ์ก็เกิดอารมณ์หงุดหงิด แล้วรีบขับรถออกมาฝั่งทางออก ทำให้เพื่อนตนต้องเข้าไปตักเตือน เลยโดนคนขับกระชากคอ พยายามจะให้ขึ้นรถไปด้วย พร้อมข่มขู่ด้วยอาวุธปืน ก่อนที่จะต่อยและเตะ จนสลบไปกลางอากาศ กรามหัก จมูกหัก ก่อนขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ รปภ. ที่ถูกทำร้ายร่างกาย ทราบชื่อคือ นายเจษฎา ทองเอียด อายุ 27 ปี ชาว จ.กระบี่ ได้เข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง เพื่อให้ติดตามจับกุมคนที่ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บมาดำเนินคดี

หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ก็ได้ออกสืบสวนหาข่าวทันที จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายชนะ ธรรมวิชัย อายุ 37 ปี ชาว จ.ภูเก็ต เจ้าของบาร์เบียร์ในตลาดโอทอป ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ก่อเหตุอยู่ที่บาร์ดังกล่าว

จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุกล่าวว่า ตนได้ขับรถไปส่งเพื่อนชาวต่างชาติที่โรงแรมดังกล่าว และได้ชกต่อยพนักงาน รปภ.จริง โดยมีสาเหตุมาจากผู้เสียหายไม่ยอมเปิดไม้กั้นประตูทางออกให้ ทำให้เกิดมีปากเสียงกัน ซึ่งตนก็สงสัยว่าทำไมทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้ความสนใจกับการให้บริการลูกค้า แต่ดันไปให้ความสนใจกับการแลกบัตรโดยขณะก่อเหตุตนได้พกพาสิ่งเทียมอาวุธ (บีบีกัน) ติดตัวไปด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนดำเนินการตรวจยึดของกลางสิ่งเทียมอาวุธปืน (บีบีกัน) แบบพกสั้น สีสเตนเลส จำนวน 1 กระบอก (พร้อมแมกกาซีน) นอกจากนั้น ยังมีอาวุธปืนที่มีทะเบียนอีก 1 กระบอก

อย่างไรก็ตามนายชนะ กล่าวยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งความจริงไม่ได้ต้องการใช้ความรุนแรง และขอรับผิดตลอดข้อกล่าวหา ด้วยอารมณ์ชั่ววูบและขาดสติ และต้องการขอโทษผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยินดีชดใช้ค่าเสียหาย แต่ยังติดต่อคู่กรณีไม่ได้

ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของผู้ถูกกล่าวหานั้นรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เนื่องจากมีหลักฐานเป็นคลิปชัดเจน ซึ่งในการตรวจบัตรอย่างเข้มข้นนั้นถือเป็นมาตรการที่ดีในการคัดกรองบุคคลที่จะเข้าไปในสถานที่นั้นๆ เพราะเราไม่ได้มีเรื่องของปัญหาอาชญากรรมอย่างเดียว แต่เรายังเป็นพื้นเป้าหมายในการก่อวินาศกรรมและอื่นๆ ด้วย

ที่ผ่านมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละพื้นที่เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแต่ละบริษัทที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมที่พักต่างๆ อย่างเข้มงวด