คดีพลิก! หนุ่ม ม.5 โพสต์หวิดโดนเกย์ข่มขืน ที่แท้ คนใบ้รอเข้าห้องน้ำ

ประเด็นคือ – หนุ่ม ม.5 โพสต์ถูกลวนลามในห้องน้ำปั๊มน้ำมัน ที่แท้หนุ่มใบ้ รอเข้าห้องน้ำนาน จนทนไม่ไหว ใช้การสื่อสารภาษาใบ้เร่ง จนอีกฝ่ายเข้าใจผิด

จากกรณี เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้มีการโพสต์ข้อความ และภาพ แจ้งเตือนภัยสังคม หลังจากที่ถูกชายสองคนพยายามข่มขืนในห้องน้ำในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่านถนนมณีนพรัตน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะที่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ โชคดีที่รีบหนีออกมาจากห้องน้ำได้ทัน ก่อนจะนำเรื่องราวมาโพสต์เตือนชายหนุ่มให้ระวังตัว ในขณะเข้าห้องน้ำนั้น

https://www.youtube.com/watch?v=kGejbfo77gQ&t=5s

ล่าสุดวันที่ 19 ม.ค. 61 หลังชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ได้แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมัน จนพบชายคนดังกล่าวที่นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า พยายามลวนลามตนเองในห้องน้ำ

ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นหนุ่มพิการเป็นใบ้ หูหนวก เเละเป็นบุคคลที่นักเรียน ม.5 ได้โพสต์เล่าเรื่องราว มาพบเพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยฝ่ายของผู้ถูกกล่าวหา ก็มีนายนิรันดร อุปนันท์ ครูจากโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ที่เคยสอนนายเอมาตั้งแต่เด็ก เดินทางมาด้วย พร้อมยืนยันว่านายสิทธิพงษ์เป็นใบ้จริง

ทั้งนี้ นายนิรันดรระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด จากการสอบถามนายเอทราบว่า วันเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มเพียงคนเดียว ซึ่งตนเองปวดท้องอย่างหนัก แต่รออยู่หน้าห้องน้ำอยู่นาน จนทนไม่ไหว จึงได้พยายามที่จะสื่อสารกับคนในห้องน้ำ แต่ด้วยความที่พูดไม่ได้ และไม่ได้ยินเสียงจากข้างใน เลยต้องใช้วิธีสื่อสารแบบคนหูหนวก

ครั้งแรกจึงใช้เท้าแหย่เข้าไปใต้ประตู แต่ชายที่อยู่ในห้องน้ำก็ยังไม่ยอมออกมา จึงได้ใช้ถุงยางอนามัยที่พกมาแสดงเป็นสัญลักษณ์อีกครั้ง กระทั่งชายที่เข้าห้องน้ำอยู่เดินออกมา ทำท่าทางตกใจ ตนจึงรีบเดินเข้าห้องน้ำไป และไม่ได้มีการถูกเนื้อต้องตัว หรือมีคนอื่นร่วมที่จะพยายามฉุดรั้งตัวของน้องผู้เสียหายอย่างที่ตกเป็นข่าวเลย

นายนิรันดรบอกด้วยว่า การสื่อสารของผู้พิการที่เป็นใบ้ จะแตกต่างจากบุคคลปกติ เช่น หากต้องการจะเข้าไปภายในห้องที่ปิดประตูอยู่จะไม่ใช้วิธีเคาะประตู เพราะจะไม่ได้ยินเสียง จึงใช้วิธีสอดกระดาษเขียนข้อความ หรือ สิ่งของอื่นๆ เข้าไปใต้ประตู และยืนยันด้วยว่า นายสิทธิพงษ์นั้นชอบผู้หญิง และไม่ได้มีพฤติกรรมเป็นชายรักชาย หรือเป็นเกย์

ซึ่งหลังสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว คู่กรณีทั้งสองไม่ติดใจเอาความกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนนักเรียน ม.5 ที่โพสต์ข้อความโดยไม่มีการตรวจสอบ จนเกิดความเข้าใจผิด และส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ส่วนนายเอ ตำรวจได้ตั้งข้อหา “ก่อความเดือดร้อนรำคาญในห้องน้ำสาธารณะ” มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท