ต่อสัญญารอบที่ 4 กำชับเอกชนสร้างรัฐสภาใหม่ ต้องให้เสร็จเข้าใช้ได้ปีนี้

(ภาพจาก FB : โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่)

ประเด็นคือ – ต่อสัญญาสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ รอบที่ 4 อีก 674 วัน กำชับเอกชน ต้องให้เสร็จเข้าใช้ได้ภายในปีนี้

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ทางสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ได้ต่อสัญญาก่อสร้างโครงการอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย กับทาง บริษัท ซิโน – ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ออกไปอีก 674 วัน นับจากวันที่หมดการก่อสัญญาครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยการต่อสัญญาครั้งที่ 4 นี้ จะมีผลไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.ปี 2562 โดยทางสำนักงานเลขาธิการรัฐสภาได้ยื่นเงื่อนไขให้ทางบริษัท ซิโน-ไทยฯ เร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดเฉพาะส่วนของห้องประชุมรัฐสภา ห้องทำงานของประธาน รองประธาน ห้องกรรมาธิการ เพื่อให้สามารถย้ายส่วนงานในอาคารรัฐสภา อู่ทองใน เข้าไปใช้งานได้ก่อนวันที่ 31 ธ.ค.ปีนี้

นายสรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 45 โดยจะติดเรื่องงบประมาณ ส่วนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบพื้นฐาน อาทิ ระบบรักษาความปลอดภัย, ระบบเครื่องเสียงในห้องประชุม รวมมูลค่า 8,000 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติ

ภาพจาก สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

• ความเป็นมาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

อาคารรัฐสภา ปัจจุบันมีความคับแคบ เนื่องจากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาเพิ่มมากขึ้นตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งจำนวนข้าราชการที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับการปฏิบัติงานของสมาชิกรัฐสภา จากสภาพเดิมดังกล่าวจะเห็นได้ว่า พื้นที่บริเวณรัฐสภาไม่สามารถที่จะรองรับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งข้าราชการที่ปฏิบัติภารกิจและหน้าที่ได้ ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา รัฐสภาได้แก้ไขปัญหาในบางส่วนโดยจัดหา และเช่าสถานที่ทำงานสำหรับข้าราชการอาทิ อาคารกษาปณ์ อาคารทิปโก้ อาคารทหารไทย และอาคารดีพร้อม ซึ่งข้าราชการยังคงแยกส่วนกันอยู่ ทำให้เป็นอุปสรรค และมีข้อจำกัดในการปฏิบัติภารกิจของสมาชิกรัฐสภาอันส่งผลกระทบต่อฝ่ายนิติบัญญัติรวมถึงประชาชนที่มาติดต่อราชการ ด้วยเหตุนี้ประธานรัฐสภารวมทั้งสมาชิกรัฐสภาตั้งแต่ พ.ศ. 2535 ได้พยายามหาสถานที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

จนกระทั่งเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551 ได้มีการประชุมจัดหาสถานที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาพื้นที่ก่อสร้างอสคารรัฐสภาแห่งใหม่จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ที่ดินราชพัสดุถนนทหาร(เกียกกาย) กรุงเทพฯ ที่ดินราชพัสดุกองคลังแสง กรมสรรพวุธทหารบก จังหวัดนนทบุรี และที่ดินบริเวณคลังเชื้อเพลง คลองเตย ก่อนที่จะสรุปเลือกเลือกที่เดินราชพัสดุถนนทหาร (เกี่ยกกาย) เขตดุสิต เป็นสถานที่ในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ค่อนข้างล่าช้ากว่ากำหนด และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่อง เช่น ปี 2559 ต้องใช้ไม้สัก 5,000 ท่อน